สังคมในระบอบกษัตริย์เผด็จการประชาชนจะไม่มีคุณค่าอะไร

2018-12-14
Amarin TV


วันที่ 13 ธ.ค. 61 ที่ จ.สุรินทร์ นางสมัย หงษ์อนันต์ อ้างว่าตนถูกหมอโรงพยาบาลพูดจาไม่ดี และไล่ให้ไปรักษาที่อื่น โดยเล่าว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนเข้าไปพบ นพ.สิทธา สิมะรักษ์อำไพ ขณะที่ซักประวัติคนไข้ ตนบอกว่าเจ็บที่หน้าอก และที่หลัง คุณหมอจึงถามตนว่า “เคยกินเหล้าไหม” ตนจึงบอกว่า “ไม่เคยกิน” หมอบอกว่า “ถ้าไม่เคยกิน ก็เอายากระเพาะไปกินก็หาย” แต่หมอก็ยังย้ำอีกว่า “หากกินเหล้าจะเป็นโรคตับ” ตนจึงบอกว่า นาน ๆ จะดื่มบ้าง จากนั้นปรากฏว่า หมอคนดังกล่าวพูดว่า “ถ้างั้นมึงออกไปเลย กูไม่รับ กูดูหน้าตาก็รู้แล้ว มึงจะไปรักษาโรคตับ โรคมะเร็งที่ไหน มึงก็ไป” พร้อมยกมือไล่ตนออกจากห้อง ตนเองจึงเดินทางไปศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสนม เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรม



นางสมัย หงษ์อนันต์ ผู้ร้องเรียน


ล่าสุด นายวีรศักดิ์ บัวศรี นายอำเภอสนม และประธานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสนม ได้เชิญ นพ.นพดล ศิริทิพย์ รักษาการแทน ผอ.โรงพยาบาลสนม, นางนพรัตน์ ตรงศูนย์ สาธารณสุขอำเภอสนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งคู่กรณีคือ นางสมัย และนพ.สิทธา เพื่อประชุมสอบข้อเท็จจริง



นพ.นพดล ศิริทิพย์ รักษาการแทน ผอ.โรงพยาบาลสนม


โดย นพ.นพดล กล่าวว่า โรงพยาบาลจะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากผิดก็ว่าไปตามผิด จะไม่มีการปกป้อง ที่ผ่านมาเคยตนเคยบอกกล่าวเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทุกฝ่ายไปแล้วว่า หากเกิดปัญหาร้องเรื่องเรียนมา ต้องรับผิดชอบ พร้อมเน้นย้ำเสมอในเรื่องของการบริการประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ เรามีเป็นผู้รักษา เราไม่ใช่พระเจ้า ที่จะไปตัดสินคนไข้ คนไข้ต่างหากคือพระเจ้า เพราะถ้าไม่มีคนไข้ หมอก็ไม่มีงานทำ





ขณะที่ นพ.สิทธา ยอมรับผิดทั้งน้ำตา พร้อมรับปากว่าจะปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมใหม่ ส่วนนางสมัย คนไข้ ก็ไม่ได้ติดใจเอาความ และกล่าวว่า อยากให้คุณหมอปรับตัวใหม่ ตนไม่อยากให้คุณหมอเสียใจ และไม่อยากให้คุณหมอพูดคำหยาบ จากนั้นทั้งคู่ก็ยกมือไหว้ขอโทษซึ่งกันและกัน



นายวีรศักดิ์ บัวศรี นายอำเภอสนม


อย่างไรก็ตาม นายวีรศักดิ์ บัวศรี นายอำเภอสนม และประธานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสนม กล่าวว่า จะให้มีการตรวจสอบ และปรับปรุงการให้บริการของโรงพยาบาลต่อไป ซึ่งหากผู้ป่วยที่เจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ สามารถเข้ามาร้องเรียนกับตนได้