2020-05-10 12:09
วันแรก หลังอัดอั้นมานาน คนแห่ไปเบียดเสียดซื้อแน่นห้าง จนท่านผู้นำขู่เดี๋ยวห้ามเสียหรอก สังคมอันดีงาม หยุดเชื้อเพื่อชาติ ก็พากันด่าขรม ไอ้พวกไม่มีวินัย ไม่รับผิดชอบสังคม แล้วก็ไปเอาภาพคนอินเดีย ซึ่งปลดล็อกให้ขายเหล้าวันเดียวกัน แออัดยัดทะนานจนตำรวจไล่เฆี่ยน มาเป็นอุทาหรณ์ว่า จะพากันตายหมด
ทั้งที่ไม่ต่างอะไรกับตอนตระหนก กลัวปิดห้าง แห่ซื้ออาหารกักตุน คนกลัวอะไรขาดแคลน หรือขาดมานาน ก็แห่ซื้อเหมือนกันไม่ว่าเหล้ายาปลากระป๋อง
แล้วรู้ไหมว่า มีแต่ไทยกับอินเดียห้ามขายเหล้า ประเทศอื่นทั้งเอเชียยุโรป ไม่ว่าจัดการโควิดได้ดีได้แย่ เยอรมัน ไต้หวัน สิงคโปร์ อังกฤษ ฝรั่งเศส ฯลฯ ไม่ห้ามขายสักประเทศ ไม่ปิดสวนสาธารณะด้วย ถ้าเคอร์ฟิวก็ 24 ชั่วโมงไปเลย แต่ให้มีเวลาไปเดินออกกำลังกาย
ทำไมประเทศไทยเหนือชาติใดในโลกอีกแล้ว เราคงมีศีลธรรมดีงามกว่าใคร ออกกฎเหล็กห้ามขายเหล้า ใครก็ค้านไม่ได้ นอกจากเข้าข้างโควิด ยังเป็นปฏิปักษ์กับศีลธรรมอันดีงาม ขนาดนักการเมืองฝ่ายค้านยังไม่กล้า เดี๋ยวเป็นคนเลว
ถามเหตุผลทางการแพทย์ เหล้าเกี่ยวอะไรกับโควิด แน่ละ ทุกประเทศปิดผับบาร์ เพราะมันคับแคบแออัด คนกินเหล้ามักเอะอะเสียงดัง ทำให้เชื้อฟุ้งกระจาย ในบ้านเราสาธารณสุขยังเน้นเคส 11 คน "ยกแก๊ง" เพราะกินเหล้าแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน
แต่เหล้าโดยตัวมันเองไม่ได้แพร่เชื้อ กินคนเดียวในบ้าน หรือกินกับคนในบ้าน ซึ่งใช้ชีวิตร่วมกันอยู่แล้ว ไม่เห็นจะเพิ่มความเสี่ยงตรงไหน ไม่เชื่อถาม "สหายแสง" รองประธานสภาดูก็ได้
กระนั้น คุณหมอบางรายที่ไม่เห็นด้วยให้ขายเหล้า ก็บอกว่ากินคนเดียวเป็นไปไม่ได้ คนส่วนใหญ่ดื่มเพื่อบรรยากาศ คนดื่มคนเดียวคือคนติดเหล้าเท่านั้น
เรียกทัวร์ลงกระหน่ำ คิดงั้นได้ไง คนดื่มคนเดียว เพื่อสุขภาพ สร้างอารมณ์สุนทรีย์ ก็มีถมไป ทำให้สงสัย ทำไมคุณหมอคนดี (แพทย์ชนบทจับทุจริตยา) จึงไม่เข้าใจวิถีชีวิตปุถุชน
มิตรสหายหมอรายหนึ่งอธิบายว่า หมอส่วนใหญ่รู้สึกบั่นทอนจิตใจ เข้าเวรแล้วเจออุบัติเหตุจากการเมาสุรา เจอคนเมาอาละวาด ไปจนโรคร้ายจากเหล้าที่ไม่ควรเกิดขึ้น
จนหมอมักลืมไป ว่ามันก็มีการดื่มทางสังคม พักผ่อนหย่อนใจ คลายอารมณ์ แต่คนที่ดื่มอย่างมีสติไม่ได้มากวนใจหมอ หมอก็เลยรู้สึกว่าคนกินเหล้าส่วนใหญ่ไร้วินัย ไม่มีการศึกษา "จน เครียด กินเหล้า" เป็นภาระระบบสาธารณสุข
ที่จริงหมอก็ดื่มถมไป แต่ดื่มอย่างมีสติ จนลืมไปว่าคนดื่มอย่างมีสติปัญญาเท่าๆ กับหมอก็เยอะเหมือนกัน ดังนั้น การควบคุมโรคระบาด หรือเมาขับ ก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสม ไม่ใช่ห้ามขายไปเลย ซึ่งกระทบคนวงกว้าง
ถามว่าเหล้ามีประโยชน์อะไร ไม่ใช่คนดื่มเหล้า แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็น "พื้นที่ส่วนตัวของชีวิต" ตราบใดที่ไม่เดือดร้อนคนอื่น เหมือนรสนิยมทางเพศ เหมือนบางประเทศให้เปิดกาสิโน ฯลฯ ชีวิตคนไม่ใช่มีแต่กินข้าวกล้อง อาหารครบหมู่ ทำงาน กลับบ้าน สวดมนต์ก่อนนอน
จิตแพทย์ท่านหนึ่ง (ขอปรบมือให้) ชี้ว่าเหล้าลดความเครียดได้ แม้แก้ปัญหาชีวิตไม่ได้ แต่ก็ช่วยทำให้สมองไม่จ่อมจม ซึ่งถ้าคิดแบบไทยๆ คงเถียงว่าไปนั่งสมาธิดีกว่า แก้ปัญหาจบ
ทำไมเรื่องเหล้าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายในสังคมไทย ทั้งที่เป็นอุตสาหกรรมทำเงินมหาศาล สร้างเจ้าสัวใหญ่ที่มีสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลด้วยซ้ำ
มุมหนึ่งน่าจะเป็นความเข้มแข็งของระบบสุขภาพ และการรณรงค์ (ขอบคุณภาษีบาป) ซึ่งตั้งอยู่บนความหวังดีที่ปฏิเสธไม่ได้ (แม้บางครั้งผู้รับไม่ต้องการ)
ระบบสุขภาพมีความเป็นอำนาจนิยมอยู่แล้ว หรือคุณจะเถียงหมอ ระบบสุขภาพสร้างขึ้นเพื่อช่วยชีวิตคน ในยามวิกฤต ต้องยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ต้องมอบการตัดสินใจจะอยู่หรือจะไปของชีวิต ให้หมอทั้งหมด
เพียงแต่เวลาที่ไม่ใช่วิกฤต ที่มันเกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม สิทธิส่วนบุคคล มันก็ต้องมีความสมดุลระหว่างความหวังดีของหมอ กับทางเลือกของชีวิต ซึ่งอยากมีพื้นที่หลั่นล้าส่วนตัว ตราบใดที่ไม่เมาขับ ไม่พ่นควันบุหรี่ใส่คนอื่น
แต่การรณรงค์ของเราไม่ใช่อย่างนั้น "จน เครียด กินเหล้า" มันคือการเบลมคนจน คนโง่ ไร้การศึกษา ยิ่งเสียกว่าศีลห้า
ยิ่งไปกว่านั้น เหล้า ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของ "การเมืองคนดี" คือคนเห็นต่างถูกปิดปาก ไม่มีพื้นที่ ไม่ว่าสื่อหรือคนตอบโพล ล้วนอยากเป็นคนดี
อยากตัวอย่างเพจสื่อโพสต์ เหล้า 1 ขวดซื้อข้าวกินได้ 1 มื้อ ข้าวมีประโยชน์เหล้าให้โทษมากกว่าดี มีคนตอบว่า ระหว่างความหวังดีกับเสือก นี่มันมีเส้นแบ่งบางๆ เลยนะ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar