onsdag 9 juli 2014

ทหารพวกนี้รังแกประชาชนทำไม??? เรื่องนี้น่าสนใจติดตามสถานการณ์...อยากรู้ความจริงว่ามีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลัง ถามทำไมมาเร่งด่วนไล่ชาวบ้านตอนนี้??? ฝาก คสช.ช่วยหาความจริงด่วน...

สรุปสถานการณ์
ชะตากรรมของชาวบ้านเก้าบาตร อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ภายใต้เงื้อมมือทหารหาญ ระหว่างวันที่ 7 – 8 กรกฎาคม 2557







สมัชชาคนจน สรุปสถานการณ์
วันที่ 7 กรกฎาคม 2557

เวลาประมาณ 10.00 น. มีเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทั้งในและนอกเครื่องแบบพร้อมอาวุธ ประมาณ 10 นาย เข้ามาในบริเวณบ้าน โดยส่วนหนึ่งเข้ามาผูกเปลนอนอยู่ในป่าชุมชน อีกส่วนหนึ่งเดินตรวจบ้านทีละหลัง นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบได้พยายามเดินเข้าไปสอบถามชาวบ้านว่า ทำอะไรกัน แล้วจะมีใครจากข้างนอกเข้ามาทำอะไรอีกไหม แต่ชาวบ้านไม่กล้าคุยด้วยเพราะเกรงว่าจะไม่ไปปลอดภัย และถูกอุ้มตัวออกไป กระทั่งเวลา 14.00 น. ชาวบ้านจึงได้ตัดสินใจ มาพักอยู่รวมกันบริเวณศาลากลางบ้าน จนกระทั่งประมาณ 18.00 น.ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ถอนกำลังออกไป
 
วันที่ 8 กรกฎาคม 2557
เวลาประมาณ 07.00 น. นักข่าวจากสำนักข่าวประชาไทจำนวน 3 คนเดินทางเข้าไปในพื้นที่และต่อมาเวลาประมาณ 11.00 น. นักข่าวจากสำนักข่าว TNN 24 จำนวน 3 คน พยายามเดินทางเข้าไปในพื้นที่ตามคำเชิญของสมัชชาคนจน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ใช้รถกระบะจอดปิดเส้นทางห้ามเข้าพื้นที่ เมื่อนักข่าวเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า เหตุใดจึงไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตอบว่า เป็นคำสั่งของทหารไม่ให้นักข่าวเข้าพื้นที่ ในขณะเดียวกันภายในบ้านเก้าบาตรก็มีทหารและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ประมาณ 30 นาย เข้าไปสังเกตการณ์บริเวณศาลากลางบ้าน
เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารยินยอมให้นักข่าวสำนักข่าว TNN24 เดินทางเข้าไปพื้นที่แล้ว โดยให้นั่งรถของทหารเข้าไป ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ตั้งด่านสกัดกั้นเส้นทางเข้าออกพื้นที่ทั้งหมดแล้ว ซึ่งผู้ที่ผ่านเข้าออกในพื้นที่ดังกล่าว จะต้องถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้เรียกตรวจบัตรประชาชน จดบันทึกชื่อเอาไว้ และเวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งประมาณ 10 นาย ได้เข้าไปกดดันให้นักข่าวจากสำนักข่าวประชาไทที่รอทำข่าว เดินทางออกนอกพื้นที่ทันที หากไม่ออกจะให้ผู้บังคับบัญชาเคลียร์กับสำนักข่าวต้นสังกัด แต่ทางนักข่าวจากสำนักข่าวประชาไทไม่ยินยอมออกนอกพื้นที่ และเมื่อนักข่าวจากสำนักข่าว TNN24 กำลังจะเดินทางกลับ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ไปบอกให้นักข่าวจากสำนักข่าวประชาไทเดินทางออกจากพื้นที่อีกครั้ง แต่ทางนักข่าวก็ไม่ยินยอมเช่นเดิม
เวลาประมาณ 17.00 น.เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ขับรถขนไม้พยุงมาที่ศาลากลางบ้านแล้วกล่าวหาว่าเป็นไม้ที่ชาวบ้านลักลอบตัด ชาวบ้านจึงร่วมกันสวดมนต์แล้วสาบานว่า ถ้าชาวบ้านเป็นผู้ตัดไม้นี้ขอให้มีอันเป็นไปภายใน 3 วัน 7 วัน แต่ถ้าชาวบ้านไม่ได้ทำและเจ้าหน้าที่เป็นผู้กลั่นแกล้ง ขอให้เจ้าหน้าที่มีอันเป็นไปภายใน 3 วัน 7 วัน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ป่าไม้รีบถอยและขับรถออกไปทันที
เวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาแจ้งกับนักข่าวสำนักข่าวประชาไทและฝากบอกถึงนักข่าวกลุ่มอื่นด้วยว่า พรุ่งนี้เวลา 06.00 น. ให้ไปพบที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่


นอกจากนี้ชาวบ้านเก้าบาตรยังได้ทราบข่าวจากชาวบ้านกลุ่มอื่นว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ย้ายชาวบ้านจากบ้านตลาดควาย จำนวน 14 ครอบครัว มาพักอยู่ที่ศาลาตั้งศพ วัดลำนางรอง ซึ่งชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว ถูกเจ้าหน้าที่ทหารข่มขู่ว่า ห้ามให้ข่าวกับใคร หากทราบว่ามีการให้ข่าวกับใครไป ไม่รับรองว่าจะเกิดอะไรขึ้น
 
วันที่ 9 กรกฎาคม 2557
เวลาประมาณ 05.30 น. มีรถฮัมวี่ทหารวิ่งเข้ามาจอดที่บ้านเก้าบาตร เจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 6 นาย ลงมาจากรถ แจ้งว่า มารับตัวนักข่าวสำนักข่าวประชาไท เดินทางไปพบผู้บังคับบัญชาที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์ป่าดงให้นักข่าวมาขึ้นรถจะพาออกไป แต่นักข่าวไม่ยอมนั่งรถออกมาพร้อมกับทหาร และขอให้ชาวบ้านเอารถออกมาส่งถึงสำนักงานเขต ฯ เวลาประมาณ 7.30 น.
เวลาประมาณ 07.40 น. มีเจ้าหน้าที่ทหาร ประมาณ 200 นาย เข้าไปบ้านเสียงสวรรค์
เวลาประมาณ 11.00 น. มีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่อำเภอโนนดินแดง ประมาณ 50 นาย เข้าไปข่มขู่ให้ชาวบ้านเก้าบาตรทุกคนเซ็นชื่อในเอกสารแบบคำร้องขอความช่วยเหลือจากทางราชการเพื่อแก้ไขปัญหาป่าดงใหญ่ โดยมีเนื้อความว่า ให้ชาวบ้านยอมรับว่าเป็นผู้บุกรุกป่าสงวน หากไม่เซ็น เจ้าหน้าที่ทหารจะจับกุมทันที แต่ชาวบ้านไม่มีใครยินยอมเซ็นชื่อ เจ้าหน้าที่จึงถอนกำลังออกจากพื้นที่ไป เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. และเดินทางต่อไปบ้านเสียงสวรรค์
เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวนักข่าวสำนักข่าวประชาไทมาส่งขึ้นรถตู้ที่อำเภอโนนดินแดงเดินทางกลับกรุงเทพฯ
เวลาประมาณ 15.30 น. มีการตั้งด่านสกัดเพิ่มเป็นช้อน 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นด่านเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทำหน้าที่ตรวจบัตรประจำตัวประชาชนและจดบันทึกชื่อไว้ ชั้นที่สองเป็นด่านเจ้าหน้าที่ทหาร ทำหน้าที่ตรวจค้นสิ่งของทั้งหมดที่ผ่านเข้าออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ หากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะทำการยึดไว้ก่อน เมื่อกลับออกมาจึงจะคืนให้



วันที่ 9 กรกฎาคม 2557 
เวลาประมาณ 05.30 น. มีรถฮัมวี่ทหารวิ่งเข้ามาจอดที่บ้านเก้าบาตร เจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 6 นาย ลงมาจากรถ แจ้งว่า มารับตัวนักข่าวสำนักข่าวประชาไท เดินทางไปพบผู้บังคับบัญชาที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์ป่าดงให้นักข่าวมาขึ้นรถจะพาออกไป แต่นักข่าวไม่ยอมนั่งรถออกมาพร้อมกับทหาร และขอให้ชาวบ้านเอารถออกมาส่งถึงสำนักงานเขต ฯ เวลาประมาณ 7.30 น.
เวลาประมาณ 07.40 น. มีเจ้าหน้าที่ทหาร ประมาณ 200 นาย เข้าไปบ้านเสียงสวรรค์
เวลาประมาณ 11.00 น. มีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่อำเภอโนนดินแดง ประมาณ 50 นาย เข้าไปข่มขู่ให้ชาวบ้านเก้าบาตรทุกคนเซ็นชื่อในเอกสารแบบคำร้องขอความช่วยเหลือจากทางราชการเพื่อแก้ไขปัญหาป่าดงใหญ่ โดยมีเนื้อความว่า ให้ชาวบ้านยอมรับว่าเป็นผู้บุกรุกป่าสงวน หากไม่เซ็น เจ้าหน้าที่ทหารจะจับกุมทันที แต่ชาวบ้านไม่มีใครยินยอมเซ็นชื่อ เจ้าหน้าที่จึงถอนกำลังออกจากพื้นที่ไป เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. และเดินทางต่อไปบ้านเสียงสวรรค์
เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวนักข่าวสำนักข่าวประชาไทมาส่งขึ้นรถตู้ที่อำเภอโนนดินแดงเดินทางกลับกรุงเทพฯ
เวลาประมาณ 15.30 น. มีการตั้งด่านสกัดเพิ่มเป็นช้อน 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นด่านเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทำหน้าที่ตรวจบัตรประจำตัวประชาชนและจดบันทึกชื่อไว้ ชั้นที่สองเป็นด่านเจ้าหน้าที่ทหาร ทำหน้าที่ตรวจค้นสิ่งของทั้งหมดที่ผ่านเข้าออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ หากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะทำการยึดไว้ก่อน เมื่อกลับออกมาจึงจะคืนให้

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar