เอาผิด ผีทักษิณ ลับหลัง : ใบตองแห้ง
อัยการแข็งขันรื้อ 2 คดีทักษิณส่งศาล หลัง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองบังคับใช้ สามารถพิจารณาลับหลังจำเลยได้
สมุนแม้ว โวยวายลั่น ไม่รู้จะโวยทำไม ก็พูดอยู่ไม่ใช่หรือว่ากฎหมายออกมาเพื่อใคร
ปู่มีชัย เนติวิษณุ ยืนยันไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน ไม่ได้ทำผิดแล้วหนีทำไม จริงสิ งั้นก็น่าจะแก้ไข ป.วิอาญา พิจารณาลับหลังให้หมด ไอ้พวกขายยาบ้า ฆ่าคนตาย ขับรถชนตำรวจตาย ฯลฯ ไม่ต้องเอาตัวมาขึ้นศาล ตัดสินมันไปเลย
กฎหมายผ่าน สนช.ด้วยมติเอกฉันท์ แม้ตอนนั้น เลขาธิการศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อย คัดค้านว่า จะไม่เป็นธรรมกับจำเลย แต่เมื่อประกาศใช้แล้ว ศาลก็ต้องพิจารณาไปตามกฎหมาย
ฉะนั้นจึงป่วยการที่จะไปโต้แย้งอะไร เตรียมตัวเตรียมใจสู้คดีดีกว่า
ว่าที่จริง ทักษิณจะโดนจำคุกอีกกี่ปีก็ไม่มีผลอะไร เพราะชาตินี้ไม่ได้กลับเมืองไทย เพียงสงสัย คนในครอบครัวจะโดนอีกหรือไม่ กับจะถูกเรียกค่าเสียหายไหม
ในทางการเมือง ทักกี้เหมือนผีเน่าไปแล้ว เข้าสู่ยุคโพสต์ชินวัตร พรรคเพื่อไทยไม่มีโอกาสกลับมายิ่งใหญ่ ยุคต่อไปเป็นยุคของพรรคใหม่ใน 6 คำถามต่างหาก
ฉะนั้นมองกลับกัน เมื่อไม่มีอะไรจะเสีย การรื้อฟื้นคดีอาจเป็นโอกาสให้ทักกี้ได้ แลกหมัด ในบรรยากาศทางการเมืองที่เริ่มเปลี่ยน ถึงแม้จะพิจารณาลับหลัง ปัดโธ่ นี่ยุคไหนกัน แม้วไม่ต้องโฟนอิน ก็ปล่อยคลิป ปล่อยข้อมูล ผ่านโลกออนไลน์ได้ทุกวัน
อ้าว ยกตัวอย่างคดีทุจริตแบงก์กรุงไทย ทีมทนายทักษิณอาจ ป่วน ได้ โดยขอให้เรียกปู่มีชัยมาให้การ ในฐานะที่ตอนนั้นเป็นประธานบริษัทกฤษดามหานคร หรือเรียกแบงก์กรุงเทพ มาซักถาม เหตุใดลดหนี้ให้กฤษดาเกือบหมื่นล้าน หรือเรียกหม่อมอุ๋ยมาเบิกความ ในฐานะคนแจ้งความดำเนินคดีวิโรจน์ นวลแข กับพวก 21 คน เมื่อปี 48 โดยทักษิณไม่ยักขัดขวาง แต่ไหงหลังรัฐประหาร 49 คตส.จึงตั้งข้อหา บิ๊กบอส สั่งปล่อยกู้
คดีแปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต ต่างไปอีกแบบ คือเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันกว้างขวาง ตั้งแต่นักวิชาการถึงชาวบ้าน ว่าทำให้รัฐเสียประโยชน์จริงหรือ สัมปทานมือถือแต่เดิม AIS ได้จาก ทศท. True Detac ได้จาก กสท. แบบเอกชนลงทุนให้ ทำมาหากินให้ แล้วจ่ายส่วนแบ่งรายได้เข้ารัฐวิสาหกิจ เช่น AIS ตอนนั้นต้องจ่าย ทศท.25%
รัฐบาลทักษิณออก พ.ร.ก.ให้เปลี่ยนเป็นจ่ายภาษีสรรพสามิต 10% โดยหักจากค่าสัมปทาน เช่น AIS จ่ายภาษี 10% จ่าย ทศท.15% True Detac ก็เช่นกัน ทำให้พวกสหภาพโวยวายว่า รัฐ (คือรัฐวิสาหกิจ) เสียหาย ทั้งที่การจ่ายภาษีตรง ทำให้ รัฐ คือกระทรวงการคลัง ได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย กว่าการจ่ายผ่านรัฐวิสาหกิจ นำไปคำนวณกำไรโบนัสแล้วค่อยส่งเข้าคลัง
หลังรัฐประหาร 49 คตส.ตั้งข้อหา โดยอ้างความเห็น ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ TDRI ว่า ภาษีสรรพสามิตเป็นเครื่องมือกีดกันผู้ประกอบการรายใหม่ ไม่ให้แข่งกับ AIS True Detac ได้ ซึ่งศาลก็เห็นพ้อง ว่าทักษิณใช้อำนาจเอื้อประโยชน์แก่ชินคอร์ป ทำให้รัฐเสียหาย เป็น 1 ใน 5 ประเด็นที่ใช้ยึดทรัพย์ทักษิณ
โดยสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.ไอซีทีในรัฐบาลขิงแก่ อ้างว่ารัฐเสียหาย 60,000 ล้านบาท
อ.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ เคยแย้ง อ.สมเกียรติว่า รัฐบาลแปลงสัมปทานเป็นภาษีเพราะจะแปร ทศท.กับ กสท.เป็น TOT กับ CAT เมื่อเปลี่ยนจากรัฐวิสาหกิจ เป็นบริษัทแข่งกับชาวบ้าน จะนอนกินสัมปทานอยู่ได้ไง และการมีรายใหม่ ก็เปลี่ยนมาใช้ระบบขอใบอนุญาต กสทช. ฉะนั้นกีดกันไม่ได้หรอก
ใครถูกใครผิดตอนนั้นก็ถกกันสนั่น แต่เวลาผ่านไป 7 ปี 10 ปี เกิด กสทช. ประมูล 3G 4G (ซึ่งไม่ยักมีรายใหม่) ชาวบ้านเข้าใจระบบสัมปทาน ระบบใบอนุญาต มากขึ้น ก็น่าคิดว่าจะมีความเห็นเปลี่ยนไปอย่างไร
แต่สำหรับคนที่ข้องใจ คดีนี้ยึดทรัพย์ไปแล้วไม่ใช่หรือ ศาลตัดสินว่าโกงไปแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมยังฟ้องอีก
คดียึดทรัพย์ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่า โกง นะครับ ศาลแค่ชี้ว่าใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ชินคอร์ป ทำให้ได้ทรัพย์สินมาโดย ไม่สมควร เข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ ตามมาตรา 4 กฎหมาย ป.ปซช.ไม่ใช่ ม.157 หลังยึดทรัพย์แล้ว จึงแยกฟ้องคดีทุจริตอีก เพื่อพิสูจน์ว่า ไม่สมควร=โกง
เห็นไหม อย่างน้อยชาวบ้านก็เข้าใจวิธีใช้กฎหมายมากขึ้น
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar