ซิงเกิลมัม ‘หาเช้ากินค่ำ’ ขายของ ขายสัญลักษณ์ แค่นั้นก็จะโดนจับ โดนเล่นงานทางกฎหมาย หาเงินประกันตัวไม่ได้ก็เข้าคุกไป
‘หาเช้ากินค่ำ’ คำของ Mutita Pla
Chuachang ผู้สื่อข่าวมือฉมังเมื่อครั้ง
‘เสื้อแดง’ โดน ๑๑๒ กันระนาว
เดี๋ยวนี้แค่ระแนงเพราะเห็นแจ้งว่ามั่ว และใช้เป็นเครื่องมือการเมือง ‘ฟัน’ ฝ่ายตรงข้าม จนระคายเคืองเบื้องบาจา จึงหันไปหาไปใช้
๑๑๖ มากกว่า
เธอพูดถึง “ซิงเกิลมัม มีลูก ๒ คน
มอสองกะปอสี่” ที่ได้ไปเยี่ยม “ห้องเช่าหว่องๆ หน่อย ตึกดูเก่ามาก แต่กว้าง ลมพัด
ของระเกะระกะหน้าห้องทุกห้อง ราคาเช่าไม่ถึง ๒ พัน
หมกตัวในย่านหนอนปลาร้าคนหนาแน่น”
ขณะนี้ ‘มัม’
ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในค่ายทหาร และมีคนจะพาลูกทั้งสอง คนหนึ่งอายุ
๑๔ ปี อีกคน ๙ ขวบ เข้าไปเยี่ยมแม่วัย ๓๐ ปี อาชีพ ‘วินมอเตอร์ไซค์’ ซึ่งถูกทหารพาตัวไปไม่รู้ข้อหา เพียงแต่ว่าเธอมีเสื้อยืดสีดำหน้าอกปักแถบเล็กๆ
สีขาวแดงหลายตัวไว้ในครอบครอง
แถบขาวแดงนั้นนัยว่าเป็นสัญญลักษณ์ ‘สหพันธรัฐไท’ อันแสนจะระคายเคืองต่อความมั่นคงของผู้ปกครอง
จึงต้องถึงกับไปหิ้วกันถึงบ้าน โดนแล้วสองราย ยังไม่รู้จะมีมาอีกกี่ราย
รายแรกเป็นช่างเสริมสวย
บ้านอยู่แถวเขตประเวศ ทหารสี่ห้าคนไปถามหาเสื้อยืดแต่เช้า ได้ไปตัวนึงจึงนำตัวเธอพร้อมลูกเล็กอายุ
๑๑ ขวบขึ้นรถตู้ไป ส่งลูกที่โรงเรียนแล้วเอาผ้าปิดตาพาแม่ไปที่ไหนไม่รู้
มารู้ตอนได้กลับบ้านค่ำแล้ว ว่าเป็น มทบ.๑๑
สำหรับรายลูกสองนี้อยู่แถวด่านสำโรง ปากน้ำ
ทหารเป็นฝูงแห่กันไปที่ ‘ห้องเช่าหว่องๆ’
นั่นตั้งแต่ยังไม่ตื่นนอนกัน “เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เข้ามาค้นในห้อง
โดยไม่ได้ถอดรองเท้า และได้เหยียบไปบนที่นอนที่ปูอยู่บนพื้นด้วย” โดยสันดาน
“หลังการตรวจค้น
ทหารได้นำกระสอบที่บรรจุเสื้อทั้งหมด ถุงสำหรับแพ็คเสื้อ สมุด ๑ เล่ม
และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ๑ เครื่อง ซึ่งเป็นของลูกชายคนโตไป” ด้วย
วันรุ่งขึ้นลูกชายคนโตเล่าว่าแม่โทรมาหาตอนบ่ายสี่โมง ไม่ทราบว่าใช้โทรศัพท์ของใคร
บอกให้ “ดูแลน้องให้ดี ๆ และใช้จ่ายอย่างประหยัด”
ก่อนหน้านี้ตอนสายของวันวาน
หลังจากกลุ่มทหารนำตัวแม่ไปแล้ว มีนอกเครื่องแบบสี่นายกลับไปที่ห้องเช่า นำเงิน
๕๐๐ บาทให้ไว้กับลูกชายซึ่งไปได้ไปโรงเรียนเนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้น
(รายละเอียดจาก http://www.tlhr2014.com/th/?p=8784 และ https://prachatai.com/journal/2018/09/78598?utm_source=dlvr.it&utm_medium=twitter)
ใจความที่ทหารบอกกับหญิงที่โดนจับมีเสื้อตัวเดียวไป
มทบ.๑๑ แล้วปล่อยตัวโดยไม่มีการตั้งข้อหาว่า “ห้ามเธอใส่และห้ามซื้อเสื้อเพิ่มอีก
อีกทั้งทหารยังบอกว่าทหารได้คุมตัวคนขายแล้วและได้มีการซัดทอดถึงผู้ผลิตแล้ว”
นั้นน่าจะหมายถึงหญิงรายปากน้ำ
ซึ่งมุทิตาบรรยายในโพสต์เรื่อง
‘บันทึกลับจากคนชั้นกลางระดับต่ำ’
ของเธอว่า
“คนพวกนี้เริ่มมีความคิดทางการเมือง
อาจเป็นความคิด radical หน่อย แต่ก็แค่คิด
ปฏิบัติการจริงคือการหากลุ่ม คุยกัน ขายของ
ขายสัญลักษณ์ แค่นั้นก็จะโดนจับ โดนเล่นงานทางกฎหมาย
หาเงินประกันตัวไม่ได้ก็เข้าคุกไป...ชีวิตดี๊ดี”
ใช่สิชีวิตคนที่ต้อง “หาเงินตั้งแต่เช้าถึงค่ำเพื่อกินภายในวันนั้น
ได้แค่นั้น เช้ามาหาใหม่ ห้ามป่วย ห้ามตาย” ภายใต้การปกครองด้วย ‘กฎหมาย’ แบบสำนัก จปร.
ที่หนักหนาสากรรจ์กับคนในฝั่งฟากหนึ่ง แต่ละมุนละม่อมกับพวกที่อยู่ฝักฝ่ายเดียวกัน
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar