onsdag 30 januari 2019

updated... ราชสำนักไทย เป็นแหล่งรวมความไม่โปร่งใส "ชั้นเทพ"


ราชสำนักไทย เป็นแหล่งรวมความไม่โปร่งใส "ชั้นเทพ" เลย ทั้งๆที่อยู่ได้จากเงินของสาธารณะ แถมยังควบคุมทรัพย์สินที่ควรเป็นของสาธารณะมูลค่ามหาศาลอีก (และเช่นเดียวกับทุกองค์กรหรือหน่วยงานที่ไม่โปร่งใสไม่มีการตรวจสอบ โอกาสที่จะเต็มไปด้วยการ "ใช้จ่ายเงินผิดประเภท" "คอร์รัปชัน" เล่นพรรคเล่นพวก ก็สูง - กองทัพเป็นอีกหน่วยงานสำคัญหนึ่งที่มีลักษณะแบบนี้)

เรื่องนี้ชนชั้นกลางในเมือง รวมไปถึงคนในวงการสื่อมวลชน (คนอย่างประเภทคุณ "เสริมสุข" ที่ผมพูดถึงในกระทู้ก่อน หรือพวกนักเขียน "ผู้จัดการ" ทั้งคณะเลย) รู้ไหม? รู้แน่นอน ถ้าพวกเขาตั้งสติ และมีความกล้าหาญที่จะคิดและยอมรับนะ
แต่ปัญหาคือ ในหลายปีทีผ่านมา พวกนี้หลงไปกับลัทธิ "รักในหลวง" และที่สำคัญ ก็
"เกลียดนักการเมือง" (ทักษิณ) อย่างไม่ลืมหูลืมตา จนไม่กล้าแม้แต่จะยอมรับเรื่องนี้อีก
เป็นพักๆ ก็มีกรณี "เตือนใจ" เรื่องนี้ขึ้นมา อย่างปีกลายเรื่องการกวาดล้าง "อัครพงศ์ปรีชา" และการจ่าย "ค่าทำขวัญ" ๒๐๐ ล้านบาท (ใครที่ชอบยืนยันก่อนหน้านั้นว่า ทรัพย์สินฯ ไม่ใช่ของในหลวงๆๆ เป็นของแผ่นดิน บลาๆๆ ตอนนี้ยัง "หน้าแตก" เย็บไม่สนิทนะครับ งานนั้น ในหลวงเซ็นแกร็กเดียว จ่ายเลย ๒๐๐ ล้าน สำหรับทำขวัญเรื่องลูกชายหย่าลูกสะใภ้ เรียกว่าส่วนตั๊ว ส่วนตัว ไม่รู้จะส่วนตัวยังไงแล้ว - นึกภาพถ้าทักษิณหย่าพจมาน หรือ "เอม" หย่า "พงศ์" แล้วให้กระทรวงการคลังจ่ายค่า "ทำขวัญ" อะไรประมาณนั้นแหละ)
และล่าสุดก็กรณีหมอหยอง
(หรือกว้างไปกว่านั้น กรณีเรื่องไล่ที่ของสำนักงานทรัพย์สินฯ เป็นต้น)
แล้วทุกครั้งที่เกิดเรื่องแบบนี้ มีไหมที่จะออกมาโวยวายว่า "ไม่โปร่งใสๆๆ" "ลิดรอนเสรีภาพสื่อ" (ในการทำข่าว เสนอข่าว) ฯลฯ
ผมนี่เชียร์เลย การตรวจสอบ เอาผิดนักการเมืองคอร์รัปชั่น ฯลฯ ปัญหาคือ หลายปีที่ผ่านมา มัน "ดัดจริต" "สองมาตรฐาน" ชนิดที่ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว คือไอ้ที่ "คอร์รัป" ตั้งแต่ระดับกฎหมายและระเบียบการปฏิบัติ "ปกติ" เลย - กฎหมายทรัพย์สินพระมหากษัตริย์, งบประมาณเรื่องเจ้า ไปจนถึงอีกสารพัดเรื่อง เช่น การถวายเงิน ฯลฯ - คือต่อให้ไม่มีการ "กินเงิน-หักหัวคิว-ส่งส่วย" (ซึ่งมีแน่) เลยนะ ที่ทำกันปกติ ก็ต้องเรียกว่าเป็นการปฏิบัติและกฎหมายกฎระเบียบที่คอร์รัปแน่ๆ (มีหรือที่เราอนุญาตให้วงการที่เกี่ยวข้องกับรัฐที่ไหน ใช้จ่ายเงิน รับเงิน ควบคุมเงิน ได้ตามใจชอบแบบกรณีราชสำนัก?)
ผมพูดหลายครั้งแล้วว่า การตะโกนร้องแรกแหกกระเชอเรื่อง "คอร์รัปชั่นๆๆ" ของคนรักเจ้า ชนชั้นกลางในเมืองน่ะ มัน ไร้สาระโคตรๆๆ คือ แม้แต่ซีเรียสก็ไม่ซีเรียสเลย ไม่มีที่ไหนในโลกที่ผมเคยเห็นนะ ที่จะตะโกนโวยวายเรื่อง "คอร์รัปชั่นๆๆ" แต่เงียบกริบ และปล่อยให้การปฏิบัติและระเบียบที่คอร์รัป สุดๆ ("ชั้นเทพ") ปรากฏต่อหน้าต่อตาทุกเมื่อเชื่อวันเป็นสิบๆปีแบบนี้ - มัน "ไร้สาระ" และ "กระจอก" ชิบเลย

มีเรื่องการเมืองเรื่องหนึ่ง ที่ทั้งเหลือง-แดง เห็นไปในทิศทางเดียวกัน
หลายวันนี้ (จริงๆสังเกตมาเป็นเดือนแล้วล่ะ) ผมมานึกๆดู ด้วยความขำๆเหมือนกัน
คือทุกวันนี้ ทุกคนรู้ว่า เรื่องการเมืองเรียกว่าทุกเรื่อง หาความเห็นตรงกันหรือไปในทิศทางเดียวกันในหมู่คนสนใจการเมือง เหลือง กับ แดง ไม่ได้
แต่ผมว่า มีเรื่องนึงที่ไปในทิศทางเดียวกันนะ แน่นอน ไม่ใช่ตรงกันร้อยเปอร์เซนต์ (หรือไม่ใช่ไม่มีข้อยกเว้นในแต่ละกลุ่มเอง ที่มีคนเห็นต่างออกไปบ้าง)
คือความรู้สึกต่อกษัตริย์ใหม่
ผมว่า ไม่ว่าเหลืองหรือแดง หาความรัก-เคารพกษัตริย์ใหม่ไม่ได้
ในหมู่เหลือง แน่นอน เรายังเห็น "ทรงพระเจริญๆๆ" ตามสื่อโซเชียลต่างๆ
แต่เท่าที่ผมสังเกตนะ ผมว่า มันเบาบางผิวเผิน "ใจ" จริงๆ มันไม่มี ความรู้สึกแบบรักเคารพจริงๆ ไม่มี และหลายเดือนนี้ ผมสังเกต ยังไม่เห็นคนที่เรียกว่าเซเลปหน่อยในหมู่เหลือง ไม่ว่าจะดารา นักเขียน ไปถึงวงการอื่นๆ จะมีการแสดงออกในลักษณะรักเคารพกษัตริย์ใหม่อย่างจริงๆจังๆเลย
ในหมู่แดง มีช่วงสั้นๆช่วงหนึ่ง ตอนเปลี่ยนรัชกาลใหม่ๆ ที่มีกระแส "อวย" กษัตริย์ใหม่กันขึ้นมา หรือแม้แต่ตอนนี้ก็ยังพอมีบ้างเป็นคนๆ แต่ผมว่า ไม่กี่เดือนนี้ มันเบาบางไปจนแทบไม่เหลือแล้วกระแสที่ว่านี้
แล้วเอาเข้าจริง แต่ต้นเลย กระแสอวยกษัตริย์ใหม่ในหมู่แดง เป็นเรื่องเชิงการเมืองมากกว่าความรู้สึกรักเคารพจริงๆ คือหวังผลในทางการเมืองว่ากษัตริย์ใหม่จะช่วยแดง เช่น ช่วยทักษิณ ช่วยล้มรัฐะรรมนูญ คสช ไปถึงช่วยตั้งสมเด็จช่วง ซึ่งหลังจากผ่านเวลาไปไม่กี่เดือน ก็เห็นว่า เป็นความหวังลมๆแล้งๆ คือการ "เชียร์" กษัตริย์ใหม่จากฐานการคาดหวังว่ากษัตริย์ใหม่จะทำเรื่องการเมืองเข้าข้างแดง พอไม่มีวี่แววจะเกิดในหลายเดือนนี้ กระแสเชียร์มันก็ค่อยๆหายไปเอง เพราะมันไม่ได้มาจากความรู้สึกรักเคารพอะไรแต่ต้น
(ตอนที่กษัตริย์ใหม่ไม่ตั้งสมเด็จช่วง ในหมู่เหลือง ในการสังเกตของผม มีอารมณ์ประเภท "โล่งใจ" มากกว่าจะเป็นเรื่องเชียร์หรือเกิดการรักเคารพจริงๆ)
สรุปแล้ว ผมว่า "ตลก" ดีเหมือนกันว่า กษัตริย์ใหม่เป็น "ศูนย์รวมเอกภาพทางจิตใจ" ระหว่างสีการเมืองที่ขัดแย้งกัน อย่างที่ไม่มีเรื่องไหนๆเป็น
คือเป็นที่ #ไม่ รักและเคารพ จากทั้งสองฝ่าย (ฮา)

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar