onsdag 18 september 2019

ศาลหัวดอของระบอบกษัตริย์ทรราช ( The Tyrant King )


ศาลอาญากำหนดมาตรฐานใหม่ "จะกล่าวหาใคร ‘ล้มเจ้า’ ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องหมิ่นประมาท"

เย้ สมุนกระบวนการ โหนเจ้า ได้เฮ ต่อนี้ไปจะกล่าวหาใคร ล้มเจ้า ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องหมิ่นประมาท ศาลอาญาถนนรัชดากำหนดมาตรฐานใหม่ ด่าเขาแล้วไม่เป็นจริงตามนั้น ศาลไม่รับฟ้องกลับ
จากกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นฟ้อง มจ.จุลเจิม ยุคล ไว้ในข้อหาหมิ่นประมาท ต่อการที่ผู้ใช้ชื่อภาษาอังกฤษ Chulcherm Yugala เขียนเฟชบุ๊ค ใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามโดยเผยแพร่สู่สาธารณชน” ว่านโยบายของพรรคนี้ มีเนื้อหาล้มล้างสถาบัน
“เมื่อเริ่มก่อตั้งได้มีคนหนุ่มสาว นักวิชาการที่คลั่งไคล้ปรัชญาตะวันตก ทาสอารยธรรมตามก้นฝรั่ง (สายพันธุ์ลูกสมุนคณะราษฎร) ที่ตลอดชีวิตคิดหาทางล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเนียนๆ” ซึ่งโจทก์อ้างเป็นความผิด
“ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖, ๓๒๘ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๗๓ () ประกอบมาตรา ๑๕๙” โดยศาลสั่งยกฟ้องตั้งแต่ชั้นไต่สวน
โดยให้เหตุผลว่า “จำเลยวิจารณ์สร้างสรรค์ ไม่ต้องการให้โจทก์ละเมิดเบื้องสูง โดยเป็นเชิงเปรียบเทียบกับภารกิจคณะราษฎร ๒๔๗๕ จำเลยวิจารณ์สร้างสรรค์ ซึ่งจำเลยเป็นเชื้อพระวงศ์ย่อมมีความจงรักภักดี” ทำให้ตีความได้ว่าเชื้อพระวงศ์ย่อมด่าคณะราษฎรได้
หนักไปกว่านั้น “อีกทั้งไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าโจทก์ได้ละเมิดเบื้องสูง และผลการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา พรรคของโจทก์ได้คะแนนความไว้วางใจจากประชาชนถึง ๖ ล้านกว่าเสียง จำนวน ส.ส.รวมกว่า ๘๐ คน”
เลยทำให้ศาลเห็นว่าการกล่าวหาใส่ร้ายของจำเลย “ไม่ส่งผลกระทบต่อโจทก์ให้เสียหาย จึงพิพากษายกฟ้อง”
อ้างอย่างนี้ก็มีด้วย แสดงว่าการใช้เหตุผลของศาลไทยไม่ต้องเข้าครรลองตรรกะแห่งกฎหมายในทางสากล หรือมนุษยชนธรรมดาใดๆ ในเมื่อบุคคลหรือองค์กรถูกใส่ร้ายว่าเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งที่ศาลก็เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก็ไม่สามารถฟ้องกลับฐานถูกทำให้เสื่อมเสียได้
แล้วถ้าศาลเห็นว่าเขาเป็นดังที่จำเลยกล่าวหาล่ะ ผู้ถูกใส่ร้ายก็ต้องโดนความผิดมาตรา ๑๑๒ ตามมาอีก เรียกว่า ใครถูกเชื้อพระวงศ์กล่าวหาว่า ล้มเจ้าย่อมเสียหายทั้งขึ้นทั้งล่อง ไม่ว่าจะเป็นจริงตามข้อกล่าวหรือไม่

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar