onsdag 27 november 2019

ระบอบที่ตั้งชื่อไม่ได้....สิ่งที่ไม่ใช่กฎหมาย แต่มีผลเสมือนกฎหมายหรือยิ่งกว่า "




ในงานเสวนา 40 ปีนิติปรัชญาที่นิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อธิบายถึงการปรากฏตัวขึ้นของระบอบที่ยังตั้งชื่อไม่ได้ ซึ่งเราอาจยังไม่รู้จักมากพอ แต่จะรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอันไม่ช้าไม่นานนี้  พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่กฎหมาย แต่มีผลเสมือนเป็นกฎหมายหรือยิ่งกว่ากฎหมายที่เกิดขึ้นมาคู่ขนานกันกับการใช้กฎหมายในทางเป็นจริง

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ภายในงานเสวนาเรื่อง '40 ปี นิติปรัชญา: เหลียวหลังแลหน้านิติศาสตร์ไทย' จัดที่ห้องจิ๊ด เศรษฐบุตร คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นการรำลึกถึง ศ.ดร.ปรีดี เกษมทรัพย์ ผู้บุกเบิกวงการวิชาการด้านนิติปรัชญาในประเทศไทยที่เพิ่งถึงแก่กรรมเมื่อ 4 มกราคม 2562  โดยตอนหนึ่งวรเจตน์ ภาคีรัตน์ จากคณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อภิปรายว่า

ระบอบที่ตั้งชื่อไม่ได้

“เมื่อไม่นานมานี้ศาลอุทธรณ์พูดเรื่อง 'ระบอบแห่งการรัฐประหาร' ขึ้นมา แล้วผมบอกว่าจริงๆ รัฐประหารไม่ใช่ระบอบหรอกในบ้านเรา มันเป็นเพียงระบบบางอย่างที่ทำให้ตัวระบอบที่ตั้งชื่อไม่ได้มันหมุนไป
“ระบอบที่ตั้งชื่อไม่ได้มีระบบรัฐประหารอาจจะสลับกับระบบเลือกตั้ง ทั้งสองระบบช่วยดันให้ระบอบนี้ มันเป็นผลจากการมองกฎหมายจากในทางความเป็นจริง"



โปรเจ็กสุดท้ายในชีวิตที่ในหลวงทำคือการสตาร์ท"ตุลาการภิวัฒน์" เมื่อ10ปีก่อน-นี่เป็นหายนะที่จะอยู่กับประเทศไทยไปอีกนาน goo.gl/pF6UqO

โปรเจ็กสุดท้ายในชีวิตที่ในหลวงทำ คือการ launch หรือสตาร์ท เมื่อสิบปีก่อน สิ่งที่เรียกว่า "ตุลาการภิวัฒน์" - คือการทำให้ "กระบวนการยุติธรรม-ศาล" ทั้งหมด กลายเป็นกลไกการเมือง สำหรับจัดการปัญหาการเมืองและผู้เล่นทางการเมือง
ผลก็คือ - พร้อมๆกับตัวในหลวงและสถาบันกษัตริย์เอง - กระบวนการยุติธรรม-ศาลทั้งหมด ไม่สามารถเป็นตัวกลางหรือจุดร่วมที่ทุกฝ่ายในสังคมจะยอมรับร่วมกันได้อีก
นี่เป็นหายนะที่จะอยู่กับประเทศไทยไปอีกนาน
............
หมายเหตุ: ผมมองว่า การจัดการปัญหาการเมืองด้วยกระบวนการทางกฎหมาย อาจจะทำได้ในบางกรณีอย่างจำกัดมากๆนะ แต่ไม่ใช่ในลักษณะที่ทำให้กระบวนการยุติธรรม-ศาลทั้งระบบกลายเป็นเครื่องมือการเมืองแบบนี้  


กรณี พี่น้องวิวัชรวงศ์, คุณศรีรัศมิ์ สุวะดี และ นพ.ชัยชล โลว์เจริญกุล
สำหรับท่านที่ยังไม่เห็นและสนใจ คุณจักรีวัชร วิวัชรวงศ์ ซึ่งเป็นคนที่สามในหมู่พี่น้อง (เกิด 26 กุมภาพันธ์ 2526 กำลังจะอายุ 34 ปีในเดือนหน้า) มีอาชีพแพทย์ ได้ทำคลิปวิดีโออวยพรปีใหม่ ในนามเขาเองและ "ศูนย์ข้อมูลการแพทย์จักรีวัชร" ที่เขาตั้งขึ้น ที่นี่ goo.gl/WVZzOt
ผมเข้าใจว่า ในหมู่พี่น้องทั้งสี่ คุณจักรีวัชร อาจจะเป็นคนที่สนใจจะ "คอนเน็ค" กับประเทศไทยมากที่สุด ถ้าดูจากกิจกรรมของเขา
................
ประเด็นพี่น้องวิวัชรวงศ์ และประเด็นคุณศรีรัศมิ์ และ นพ.ชัยชล นั้น มีด้านที่เป็นเรื่องส่วนตัวอยู่ (ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูก, สามี-ภรรยา) ซึ่งผมไม่เกี่ยวข้องและไม่แสดงความเห็นใดๆ
แต่ทั้งสามกรณีนี้ มีเรื่องที่มีลักษณะสาธารณะที่สำคัญมากอยู่ และสะท้อนปัญหาความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่ามีการใช้อำนาจในทางลึกลับหรือในทางที่ผิด ที่มีอยู่นานในสังคมไทย โดยเฉพาะในแวดวงที่เกี่ยวข้องกับวัง
ถ้ากรณีแบบนี้เกิดในสังคมที่ "โต" หรืออารยะแล้ว สื่อมวลชนคงต้องทำหน้าที่สืบสวนค้นคว้า และพยายามหาความจริงมาเผยแพร่ ว่ามีการใช้อำนาจอย่างผิดๆเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพียงใด
กรณีพี่น้องวิวัชรวงศ์นั้น ในฐานะคนไทย พวกเขาย่อมมีสิทธิ์เดินทางกลับประเทศไทยเสมอ แต่ตามที่พวกเขาเคยเขียน (ดูกรณี "จดหมายจากฟลอริด้า" ที่ผมเคยโพสต์ไว้ ที่นี่ goo.gl/B72jkn) พวกเขาถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้า และเมื่อเร็วๆนี้ ผมได้พยายามสอบถามไปยังผู้ที่พอจะมีแหล่งข่าวที่รู้จักกับพี่น้องฯ ก็ยังได้รับการบอกเล่าว่าคำสั่งห้ามดังกล่าวยังคงอยู่ ไม่ว่าความสัมพันธ์เชิงส่วนตัวในฐานะพ่อ-ลูกของกษัตริย์องค์ใหม่กับพี่น้องฯเป็นอย่างไร ถ้ามีการใช้อำนาจในลักษณะนี้ (ซึ่งไม่มีกฎหมายใดๆรองรับ) ก็เป็นการใช้อำนาจในทางที่ผิดแน่
กรณีคุณศรีรัศมิ์นั้น มีข่าวลือกันหนาหูตั้งแต่เกิดการกวาดล้างเธอและครอบคร้วว่า เธอถูกสั่ง "กักบริเวณ" ไม่ให้ออกจากบ้านไปไหน บางเสียงถึงกับกล่าวว่าเธอถูก "ลงโทษ" ดัวยการบังคับให้กร้อนผม บำเพ็ญสมาธิอยู่บ้าน - เช่นเดียวกับกรณีพี่น้องวิวัชรวงศ์ ที่ว่ายังมีคำสั่งห้ามกลับ กรณีศรีรัศมิ์นี้ ก็ไม่สามารถยืนยันได้ (เพราะคงไม่มีสื่อมวลชนไหนกล้าสืบสวน และตัวพี่น้องฯและครอบครัวคุณศรีรัศมิ์เอง ก็คงไม่กล้าออกมาให้ข่าว)
กรณี นพ.ชัยชล (อดีตคู่ชีวิตฟ้าหญิงจุฬาภรณ์) นั้น บ้างก็ลือกันว่า ออกบวช บ้างก็ว่าเสียชีวิตแล้ว คุณ Andrew MacGregor Marshall เป็นคนที่พยายามยกประเด็น นพ.ชัยชลนี้ขึ้นมาหลายครั้ง (ล่าสุด เมื่อวานซืน) ผมเองไม่ปักใจว่า คุณชัยชลเสียชีวิต แต่ก็ไม่สามารถยืนยันในทางใดทางหนึ่งได้ (ต่างจากกรณี พล.ต.พิสิฐศักดิ์ ที่ยืนยันได้จากทะเบียนราษฎรแน่นอนว่า เสียชีวิตแล้ว ระหว่างการกวาดล้างกลุ่ม "หมอหยอง")
......................
ผมยกทั้ง 3 กรณีขึ้นมาพร้อมๆกัน เพราะมีลักษณะคล้ายๆกัน ในแง่ที่ว่า มีความเป็นไปได้ว่า มีการใช้อำนาจอย่างลึกลับ อย่างขัดกับกฎหมาย ซึ่งเป็นการใช้อำนาจอย่างผิดๆ (abuse of power) แน่นอนว่า ในสภาพสังคมไทยอย่างที่เป็นอยู่ ก็ไม่มีทางยืนยันว่า มีการใช้อำนาจในลักษณะนั้นจริงหรือไม่ (สมัยก่อนคำว่า "อำนาจมืด" ก็สื่อในความหมายนี้แหละ คือมัน "มืด" เสียจนไม่สามารถยืนได้ว่า มีการใช้จริงหรือไม่)
ผมยืนยันมาเป็นสิบๆปีว่า สังคมไทยไม่เคยซีเรียสกับปัญหาอย่าง "คอรัปชั่น" หรือ "การใช้อำนาจในทางที่ผิด" (abuse of power) ของบุคคลากรและองค์กรรัฐ ยกตัวอย่างเช่น ในสมัยหนึ่ง ที่มีการโจมตีรัฐบาลทักษิณ (โดยปัญญาชนนักวิชาการนี่แหละ เรียกว่าแทบจะเป็นเอกฉันท์) ในเรื่องการใช้อำนาจในทางที่ผิดในกรณี "สงครามยาเสพติด" ผมเองก็เห็นว่า มีการ abuse of power จริงในสมัยรัฐบาลทักษิณ (ทั้งกรณีสงครามยาเสพติดและกรณีอื่นๆอีกมาก) แต่ประเด็นคือ ตราบใดที่สังคมไทย ยังมี "ข้อยกเว้น" ไม่ใช้บรรทัดฐานแบบเดียวกันกับบุคคลากรและองค์กรอำนาจรัฐ ไปจนถึงระดับสูงสุด (สถาบันกษัตริย์) การวิพากษ์วิจารณ์หรือเอาผิดใดๆ ต่อการใช้อำนาจในทางที่ผิดกับเฉพาะกรณี ก็เป็นอะไรที่ไม่มีความหมายแท้จริง และพูดกันจริงๆ การมี "ข้อยกเวัน" ในลักษณะนี้ ในที่สุด เป็นประโยชน์กับนักการเมืองอย่างทักษิณเองด้วยซ้ำ ในแง่ที่ว่า นักการเมืองและผู้สนับสนุนสามารถหยิบยกเอากรณี "ข้อยกเว้น" เหล่านี้ ขึ้นมาชี้ให้เห็นว่า ในเมื่อมี "ข้อยกเว้น" ไม่ตรวจสอบ เอาผิดอยู่ (กับเจ้า กับทหาร ฯลฯ) เรื่องอะไรจะยอมให้มีการตรวจสอบเอาผิดกับนักการเมืองได้ (นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นในวิกฤติหลายปีนี้ ที่ "เสื้อแดง" และคนสนับสนุนทักษิณ ไม่มีทางยอมรับให้มีการเอาผิดทักษิณ ต่อให้มีความผิดจริงก็ตาม)
Somsak Jeamteerasakul

อนุสนธิจากกรณีพี่น้องวิวัชรวงศ์ ประเด็น "การใช้อำนาจในทางที่ผิด" (abuse of power)
ในกระทู้เกี่ยวกับกรณีพี่น้องวิวัชรวงศ์ที่ผมโพสต์เมื่อวานนี้ โดยชี้ให้เห็นว่า การที่พี่น้องฯกล่าวว่า ถูกห้ามไม่ให้กลับเมืองไทย ถ้ามีการห้ามเช่นนั้นจริง คนสั่งห้ามก็เป็นการใช้อำนาจอย่างผิดๆ (เรียกเป็นศัพท์ทางการฝรั่งว่า abuse of power)
มี "มิตรสหายท่านหนึ่ง" ซึ่งเคยมีอาชีพสอนหนังสือด้วย มาคอมเม้นท์ว่า ผมเขียนแบบแย่ เพราะกรณีดังกล่าวไม่สามารถเรียกว่าเป็นการใช้อำนาจด้วยซ้ำ เขาว่า การมี "คำสั่งอย่างไม่เป็นทางการ" (เขาใช้คำอังกฤษว่า "unofficial instruction") ไม่ถือเป็นการใช้อำนาจ เขายังว่า ปกติเขาไม่เคยให้เกรดใครต่ำกว่า B แต่ผมเขียนอ่อนขนาดนั้น ควรได้ C (ใครสนใจลองดูช่องคอมเม้นท์กระทู้นั้น เขาเขียนเป็นอังกฤษทั้่งหมด ผมตอบเป็นไทยปนอังกฤษ)
ผมก็ได้แต่หัวเราะหุหุ ถ้าระดับคนมีการศึกษาถึงขั้นเคยสอนหนังสือ ไม่เข้าใจประเด็นการใช้อำนาจอย่างผิดๆ ก็น่าห่วงเรื่องประเทศไทยโดยรวม (ซึ่งจริงๆ ผมว่าคนไทยทั่วไป แม้แต่คนมีการศึกษาก็ไม่เก็ตประเด็นนี้โดยละเอียด)
ผมได้ตอบมิตรสหายท่านนั้น โดยยกตัวอย่างง่ายๆดังนี้ (เดี๋ยวข้างล่างผมจะอธิบายรูปธรรมกรณี "พระบรม" โดยตรง)
สมมุติ หัวหน้าตำรวจบอกลูกน้องว่า "เอ๊ะ คุณๆ ญาติผมคนนึงเขาจะจอดรถตรงนี้นะ แต่จริงๆมันเป็นที่ห้ามจอด คุณก็ช่วยทำเป็นมองไม่เห็นก็แล้วกัน ไม่ต้องเขียนใบสั่งนะ เขาขอจอดแค่ครึ่ง ชม เอง" #ไม่ว่าตำรวจผู้น้อยนั้นจะทำตามหรือไม่ทำตาม (ซึ่งการสั่งแบบนี้คงเรียกว่า "คำสั่งอย่างไม่เป็นทางการ" หรือ unofficial instruction ตามคำของมิตรสหายท่านนั้นได้) อย่างนี้ คือการใช้อำนาจไหม? แน่นอนล้านเปอร์เซนต์ และเป็นการใช้แบบผิดๆ หรือ abuse of power ล้านเปอร์เซนต์ด้วย คืออาศัยตำแหน่งที่ใหญ่กว่า "สั่ง" (อย่างไม่เป็นทางการ) ให้ลูกน้องทำอะไรบางอย่าง และเป็นการสั่งชนิดผิดๆด้วย
(ถ้าเป็น นาย ก ที่ไม่ใช่นายตำรวจ จู่ๆจะมีสถานะหรืออำนาจ มาสั่งตำรวจผู้น้อยแบบนั้นหรือ? นาย ก คนธรรมดาขืนมาสั่ง อาจจะโดนข้อหาเอง กรณีแบบนี้เห็นชัดว่า คือการที่นายตำรวจอาศัยสถานะที่มีอำนาจจากรัฐ - ความเป็นนายตำรวจผู้ใหญ่ - ใช้อำนาจเหนือพนักงานชั้นผู้น้อยนั้น ซึ่งเป็นการใช้อำนาจอย่างผิดๆ)
..............
กรณีพี่น้องวิวัชรวงศ์นั้น แน่นอน เราไม่มีตัว "คำสั่ง" เป็นลายลักษณ์อักษรให้เห็นว่า มีการสั่งห้ามพวกเขากลับประเทศไทย (แต่ขอให้ดูกระทู้กรณีประวิตร ที่ว่ากันว่าไม่เป็นที่ถูกใจกษัตริย์ใหม่ จน "ดวงตก" ที่ผมอภิปรายให้เห็นว่า การเข้าแทรกแซงการเมืองของวัง ในลักษณะไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรหรือ "อย่างไม่เป็นทางการ" มีการทำกันเสมอ เพราะความที่เรายกสถานะกษัตริย์เป็นเทพ มีบารมีในลักษณะที่ไม่มีใครกล้าขัด มีตัวอย่างจากบันทึกของสัญญา ธรรมศักดิ์ สมัยในหลวงภูมิพล เป็นต้น ที่นี่ goo.gl/v2QDjN)
แต่เฉพาะเท่าที่มี ถ้ารู้จักอ่านและคิดให้ดี ก็เห็นได้ชัด
ดูภาพประกอบแรก ซึ่งเป็นจดหมายจากทูตไทยประจำอังกฤษถึงพี่น้องวิวัชรวงศ์ เมื่อเดือนมกราคม 2540 (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "จดหมายจากฟลอริด้า" ที่ผมเคยโพสต์ไป) ในจดหมายดังกล่าว ทูตแจ้งว่า "พระบรมฯ" (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้มี "พระราชบัณฑูร" มายังกระทรวงการต่างประเทศ ให้ยกเลิกหนังสือเดินทางเดิมของพี่น้องฯ และเปลี่ยนสถานะจาก "หม่อมเจ้า" เป็น "นาย"
ถ้าเข้าใจปัญหาการใช้อำนาจอย่างผิดๆ ก็ควรจะเห็นชัดทันทีว่า นี่เป็นตัวอย่างชัดๆตัวอย่างหนึ่ง นั่นคือ ความจริงแล้ว "พระบรมฯ" #ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะสั่งการกระทรวงต่างประเทศให้ยกเลิกหรือเปลี่ยนพาสปอร์ตใครเลย ยิ่งกว่านั้น แม้แต่ถ้าพูดในเชิงอำนาจตามราชประเพณี กรณีที่ทรงมี "พระราชบัณฑูร" ให้เปลี่ยนจาก "หม่อมเจ้า" เป็น "นาย" ก็ทำไม่ได้ เพราะสถานะ "หม่อมเจ้า" นั้น จะหมดไปก็ต่อเมื่อบุคคลนั้น มีหนังสือกราบบังคมทูลลาออกจากกษัตริย์ (ในหลวงภูมิพล) และต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้ลาออก ซึ่งเท่าที่ผมทราบ ไม่เคยมีกรณีดังกล่าว อย่างน้อย ในหนังสือทูต ไม่มีการอ้างอิงพระบรมราชโองการใดๆเลยว่า โปรดเกล้าให้ลาออกจากหม่อมเจ้าแล้ว
.............
ภาพประกอบที่เหลือ เป็นเอกสารเก่าอีก 2 ฉบับ
ฉบับแรก (มี 2 หน้า) ผมเคยโพสต์ตั้งแต่สมัยเขียนที่เว็บบอร์ด "ฟ้าเดียวกัน" เป็นหนังสือ "พระราชบัณฑูร" ของ "พระบรม" ในปี 2542 ให้สั่งการไปยังส่วนราชการทั่วประเทศ ให้มีการเรียกฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ "อย่างถูกต้อง" (ใบปะหน้าเป็นการสั่งการมายังกระทรวงศึกษา ซึ่ง รมต ศึกษา สั่งการต่อมายังมหาลัย - สมัยที่เจ้าหน้าที่มหาลัยผมได้หนังสือนี้ ก็พากัน "งง" กันมากว่า มีด้วยหรือการสั่งแบบนี้)
ขอให้สังเกตคำในหนังสือ "พระราชบัณฑูร" ที่ว่า "ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ #ให้ส่วนราชการต่างๆยึดถึอปฏิบัติ...." นั้น คือการใช้อำนาจอย่างผิดๆแน่นอน เพราะ "พระบรมฯ" ไม่มีอำนาจสั่งการให้ "ส่วนราชการต่างๆยึดถือปฏิบัติ" อะไรทั้งสิ้น (อาจจะยกเว้นเฉพาะกองกิจการในพระองค์)
ส่วนภาพประกอบสุดท้าย หวังว่าคงจำได้ คือหนังสือที่มี "พระราชบัณฑูร" ลงโทษดิสธร วัชโรทัย เมื่อปีกลาย ซึ่งผมได้ชี้ให้เห็นตั้งแต่ตอนนั้นว่า ความจริง หนังสือ "พระราชบัณฑูร" นี้ ไม่มีสถานะทางกฎหมายใดๆรองรับเลย คือ "พระบรมฯ" ไม่มีอำนาจในการสั่งการในลักษณะนี้เลย
และแน่นอน กรณีที่พระบรมฯ ไม่ทรงรับตำแหน่่งกษัตริย์ทันทีเป็นเวลาเดือนกว่า ผมก็ได้อภิปรายไปเยอะแล้วว่า เป็นการผิดต่อทั้งรัฐธรรมนูญและต่อราชประเพณี
.................
ผมเคยพูดไปนานแล้วว่า กษัตริย์องค์ใหม่ มีประวัติยืดยาวที่ขาดความเข้าใจหรือ "ไม่ทรงพระแคร์" เกี่ยวกับกฎหมายหรือระเบียบแบบแผนใดๆมานาน ตอนนี้ (ดังที่เคยพูดไป) ก็มีข่าวลือกันเยอะว่า จะทรงให้แก้รัฐธรรมนูญ คสช ซึ่งความจริง ตามกฎหมายที่มีอยู่ แก้อะไรไม่ได้แล้ว (ไม่นับข่าวลือที่ว่า ตอนนี้ มี "คำสั่ง" ให้ "ซ่อม" คุณจุมพล มั่นหมาย ที่ทรงเพิ่งตั้งให้ดูแลสำนักพระราชวังเมื่อไม่นานมานี้ด้วย ว่ากันว่า เพราะไปทำ "ขัดใจ" อะไรเข้าสักอย่าง)
Ingen fotobeskrivning tillgänglig.
Ingen fotobeskrivning tillgänglig.Ingen fotobeskrivning tillgänglig.
..............................................................................
*** มีคนชั้นกลางในเมืองที่เรียกว่าคนรักเจ้าสักกี่คน ที่ไม่เคยเม้าท์-นินทากษัตริย์องค์ใหม่? goo.gl/JjDny2
 


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar