การต่อสู้เพื่อโค่นล้มระบอบกษัตริย์เผด็จการ
โดย แสงตะวัน
บทเรียนของการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ของไทยนั้นได้ผ่านขั้นตอนของการต่อสู้มาหลายยุคหลายสมัยแล้วและก็ประสพความล้มเหลวมาอย่างต่อเนื่อง
เพราะเป้าหมายในการต่อสู้ไม่มีความชัดเจน ขาดขบวนการนำที่เป็นเอกภาพ ขาดทฤษฏีชี้นำที่ถูกต้อง บทเรียนของสิ่งที่เรียกว่า " พรรคคอมมิวนิสน์แห่งประเทศไทย หรือ พ.ค.ท." นั้นก็ได้ประสพความล้มเหลวมาแล้ว
เพราะแท้ที่จริงแล้ว พ.ค.ท. เป็นเพียงสาขาหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน (พ.ค.จ.ในประเทศไทยนั้นเอง) พวกที่เป็นหัวหน้าระดับนำเป็นคนจีนโพ้นทะเลและถูกส่งมาจาก พ.ค.จ. เพื่อมาจัดตั้ง พ.ค.ท.ขึ้นในประเทศไทย โดยอาศัยคนไทยที่มีหัวก้าวหน้าเป็นเครื่องมือ
แนวทางนโยบายทุกอย่างตามแนวทางของ พ.ค.จ.ทั้งหมดทฤษฏีชี้นำคือทฤษฏีของเหมาเจอตง หรือ ลัทธิเหมา ใช้หลักยุทธศาสตร์โดยป่าล้อมเมือง
ดังนั้น พ.ค.ท.ไม่ได้มีเป้าหมายที่แท้จริงในการปลดปล่อยประเทศไทยให้หลุดพ้นจากระบอบกษัตริย์เผด็จการแต่อย่างใด แต่ทำเพื่อรับใช้นโยบายของ พ.ค.จ.
โดยจีนใช้ พ.ค.ท.เป็นเครื่องมือในการต่อรองกับทางการไทยเพื่อผลประโยชน์ของจีนเท่านั้น เมื่อจีนสามารถต่อรองกับทางการไทยได้แล้วและได้รับผลประโยชน์ตามที่ทางจีนต้องการ แล้วก็หยุดให้การสนับสนุนแก่ "พ.ค.ท"...
ดังนั้น "พรรคคอมมิวนิสน์แห่งประเทศไทย " จึงล่มสลายไปแล้ว
ปัจจุบันนี้ยังมีพวกลูกสมุนปลายแถวที่หลงเหลืออยู่และมีความเพ้อฝันว่าอดีตเลขาธิการของ พ.ค.ท. สหาย ธงแจ่มศรี ซึ่งเป็นคนเดียวที่ยังเหลือมีชีวิตอยู่จะมอบอำนาจให้แก่พวก"ลูกหาบงัวงาน"เพื่อสืบทอดนโยบายต่อในนามของ " พรรคปฏิวัติใหม่ "
ฉะนั้นผู้ร่วมอุดมการณ์ที่ต้องการโค่นล้มระบอบกษัตริย์เผด็จการ ควรคิดให้รอบครอบ ระมัดระวังในการร่วมมือกับแนวร่วมที่ไม่รู้ที่มาที่ไปเหล่านี้ "พวกนักฉวยโอกาส" ที่เข้าแทรกแล้วแย่งการนำ หรือเข้าแทรกแล้วทำลาย (ที่มีมาตลอดเวลาของการต่อสู้)
จึงต้องศึกษาและสรุปบทเรียนจากความล้มเหลวในอดีตของ พ.ค.ท.
อย่าหลงทาง
สำหรับนักต่อสู้ที่แท้จริง ต้องมีความเชื่อมั้นในอุดมการณ์ มีวินัยในการทำงาน มีความเสียสละ เชื่อฟังการจัดตั้ง อ่อนน้อมถ่อมตัว มีความสามารถ ต้องรู้จักสรุปบทเรียนหาประสบการณ์หมั่นศึกษาหาความรู้ มีหลักคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์ อย่าเอาจิตไปกำหนดวัตถุ ปากกระบอกปืนต้องหันใส่ศรัตรู อย่าหันใส่เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ประชาชนผู้ถูกกดขี่คือพื้นฐานกองกำลังในการลุกขึ้นสู้ ไม่ต้องไปเรียกร้องหาตัวผู้นำระดับสูงทุกคนเป็นผู้นำด้วยตัวเองได้ถ้ามีจิตสำนึกและมีคุณสมบัติดังที่กล่าวมาแล้ว การทำงานระดับชาติจะต้องทำเป็นรูปองค์กรจัดตั้ง เป็นงานรวมหมู่ อันนี้มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องศึกษา ถอดถอนบทเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านที่เขามีบทเรียนมาแล้วที่เป็นวิทยาศาสตร์ เขาสามารถต่อสู้กับประเทศมหาอำนาจเช่น ญี่ปุน 1945 ฝรั่งเศส 1954 และอเมริกา 1975 ได้รับชัยชนะและปลดปล่อยตนเองเป็นประเทศเอกราชอยู่จนทุกวันนี้ ซึ่งประเทศไทยในเวลานี้ก็เป็นขี้ข้าอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน
การต่อสู้ก็ต้องเริ่มจากน้อยไปหามาก จากต่ำไปหาสูง กองทหารปลดแอกประชาชนของเวียตนามเริ่มก่อตั้งมีเพียง 13 คนเท่านั้นเอง ฉนั้นไม่ต้องกลัวถ้าเรามีแนวทางที่ถูกต้องมีเป้าหมายที่แน่นอนประชาชนก็จะตามเรามาเองซึ่งวันนี้ประชาชนตื่นตัวมีความพร้อมสูง รับรู้เข้าใจสภาพปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติธรรมดา คงอีกไม่นานทุกสิ่งทุกอย่างจะชัดเจนขึ้น เมื่อสถานการณ์สุกงอมประชาชนไทยคงพร้อมใจกันลุกขึ้นประกาศปลดแอกปล่อยตัวเองออกเป็นไท "ปฏิเสธไม่เอาระบอบเผด็จการราชาธิปไตย."
บทความอ่านประกอบ
คลิกอ่าน-ประวัติความเป็นมาของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar