ใครหนักแผ่นดิน ไม่ใช่สุเทพ เทือกสุบรรณ แน่นอน เพราะลุงกำนันปลื้มเพลงหนักแผ่นดิน ซึ่งเป็นเพลง โด่งดังในยุคขวาพิฆาตซ้าย วิทยุทหารเปิดปลุกลูกเสือ ชาวบ้าน นวพล กระทิงแดง ให้เกลียดชังนักศึกษา คนรุ่นใหม่ ที่อยากเปลี่ยนแปลงสังคมให้มีความเป็นธรรม จนเกิดการเข่นฆ่า 6 ตุลา 2519 “ประเทศกูมี” ทำให้เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ต้องหนีเข้าป่า
“คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน” ไม่ทราบว่าเอนกยังจำได้ไหม น่าจะไปร้องคอรัสกับ ผบ.ทบ.หน่อย
หนักแผ่นดิน เป็นเครื่องมือปลุกความเกลียดชังในยุคนั้นก่อนกองทัพทำรัฐประหาร ดังนั้นพธม. กปปส. ที่ยึดทำเนียบ ปิดสนามบิน ปิดเมือง ปิดสถานที่ราชการ ขัดขวางเลือกตั้ง จนเกิดรัฐประหาร แล้วร้องสาธุ จัดปาร์ตี้ลายพราง จึงไม่ใช่คนหนักแผ่นดินตามเนื้อเพลงแน่นอน
ตรงกันข้าม ติดคุก 8 เดือน ยังยกก้นกันเป็นวีรบุรุษด้วยซ้ำ
เพลงหนักแผ่นดินถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกการฆ่าฟัน จนเกิด 6 ตุลา เป็นตราบาปสังคมไทย จึงน่าสงสัยว่าผู้นำกองทัพคิดอะไร ที่เอามาใช้ตอบโต้พรรคการเมือง พร้อมกับสั่งให้เปิดเสียงตามสาย ปลุกใจกำลังพล
แค่อยากให้เลิกเกณฑ์ทหาร กับลดงบกลาโหมเท่านั้น ก็เป็นการทำผิดคิดร้ายต่อแผ่นดินแล้วหรือ
ถ้ากองทัพไม่เห็นด้วย ก็ออกมาโต้แย้งแสดงเหตุผลกัน หรือถ้าพรรคการเมืองไหนอยากเพิ่มงบทหาร ก็เสนอให้ประชาชนตัดสิน สมมติพรรคลุงกำนัน ลุงเอนก อยากเอาจริง ก็ประกาศนโยบายเพิ่มงบเพิ่มเงินเดือนเพิ่มนายพล ควบคู่ไปกับการเรียกร้องให้พี่น้องเอ๊ย เลือก รปช.ให้มากที่สุด เพื่อนำ ส.ส. รัฐมนตรี ไปต้อนรับยะใสออกจากคุก
แต่นี่ ประชาชนก็งงอยู่เหมือนกัน ทำไมกองทัพต้องมองว่าการลดงบทหารคือยั่วยุ สาดโคลน ทำไม ผบ.ทบ.ต้องสั่งเปิดเพลงย้อนยุค 6 ตุลา ยังดีนะไม่เปิดหมด 126 สถานีวิทยุ ซึ่งประชาชนก็อาจถามว่า ถ้าพรรคการเมืองเสนอลดงบกระทรวงศึกษาฯบ้าง ครูจะมีปัญญาสู้รบตบมือไหม เพราะครูไม่สามารถครอบครองคลื่นวิทยุโทรทัศน์ ที่เป็นสาธารณสมบัติ ได้มากมายเท่าทหาร
พรรคการเมืองเสนอลดงบทหาร เอาไปทำอะไร เพื่อไทยจะตั้งกองทุนช่วยคนรุ่นใหม่ทำธุรกิจ อนาคตใหม่เอาไปเพิ่มรัฐสวัสดิการ เช่น เพิ่มงบบัตรทองทันที ถ้าทหารไม่เห็นด้วยก็ช่วยชี้ว่าทำไมลดไม่ได้ นายพล 2 พันคนจำเป็นอย่างไร ไม่ใช่ออกเอกเซอร์ไซส์ให้สังคมหวาดหวั่น ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษเท่านั้น สมมติพรรคการเมืองจะลดงบกระทรวงเกษตรฯ เปิดเพลงหนักแผ่นดินให้สนั่นก็ไม่มีคนกลัว มีแต่เสียงหัวเราะ
ทหารเป็นอะไร จึงต้องผูกขาดตัวเองเป็นผู้ดูแลประเทศ ใครจะลดงบกองทัพถูกชี้หน้าหนักแผ่นดิน แต่ถ้าเป็นหน่วยงานอื่นจะโดนลดงบแล้วออกมาเต้น ผู้คนก็เห็นขัน “ปกป้องชามอาหาร”
ทหารอาจมองว่าผู้เสนอมีเจตนาร้าย หวังผลการเมือง แต่ต้องแยกแยะว่าอันที่จริง แนวคิดปฏิรูปกองทัพมีมานาน ส่วนที่มันเป็นกระแสช่วงนี้ การเมืองหรือไม่ ก็ใช่สิ แต่ไม่ใช่เพราะนักการเมืองหรอก เพราะรัฐบาลทหารยึดอำนาจมา 5 ปีต่างหาก
ลองย้อนคิดดูสิ ถ้าบริหารประเทศสำเร็จ รุ่งเรือง ชาวบ้านรัก ใครเลยจะกล้าเสนอตัดงบทหาร หรือชี้หน้ากันตรงๆ ว่า งบทหารต่างหาก เป็นภาระแผ่นดิน
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar