🍕🇹🇭
หนังสือพิมพ์เยอรมัน บิลด์ ได้ลงบทความเกี่ยวกับ กษัตริย์วชิราลงกรณ์
ว่าด้วยความโกรธเคืองเรื่องที่เขาเลี่ยงภาษีจำนวนสามพันล้านยูโรในบาวาเรีย
🍕🇬🇧 German newspaper BILD has a new story on King Vajiralongkorn and the anger over his efforts to avoid paying three billion euros in tax in Bavaria:
🇹🇭 ลูกเล่นหน้าด้านๆของ รามา 10
โดย แม็ก โบดเด็กเค่อร์
เขาชอบรับของ (การคุ้มกันโดยตำรวจ) ที่ส่วนมากเป็นของฟรี (ต่อต้านคำวิจารณ์และบริวาร) แต่ไม่ชอบแชร์ โดยเฉพาะถ้ามันเกี่ยวข้องกับเงินทองและภาษี
เอาละ ไม่ต้องรับภาระอะไร เอาแต่สำราญบานใจ – กษัตริย์ไทย มหาวชิราลงกรณ์ (วัย 67 ปี) ผู้เป็นที่รู้จักกันว่า รามา 10 ซึ่งปัจจุบันเป็นแขกเพียงผู้เดียว ที่พำนักอยู่ในโรงแรมหรู “ซอนเนนบิคเค่ ที่เมืองการ์มิช
แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอมา ก่อนหน้าการตายของ ภูมิพล (อายุได้ 88 ปี) ผู้เป็นพ่อของเขา เมื่อเดือนตุลาคม พศ 2559 เขาได้ใช้คฤหาสถ์เรือนล้าน (ยูโร) ริมทะเลสาบ สตาร์นเบิร์ก ในเมืองทุทซิ่ง เป็นที่พำนักอาศัย
ซึ่งนั่นก็เป็นมูลเหตุเรื่องเสียภาษีตามมา! เพราะว่าหลังจากที่พ่อของเขาได้เสียชีวิตลง เขาได้รับมรดกเต็มๆ มูลค่าประมาณ 10 พันล้านยูโร จากการที่เขามีบ้านส่วนตัวในบาวาเรีย รัฐอิสระนั้นควรจะได้เก็บภาษี 30 เปอร์เซ็นต์ ตามกฎหมายมรดกตกทอด ซึ่งตกเป็นจำนวน 3 พันล้านยูโร!
แต่ราชาไม่ต้องการจ่ายค่าต๋งให้ใคร – และใช้ลูกเล่นตบตาทุกคน เจ้าชายรัชทายาท ซึ่งได้ขึ้นครองราชเป็น พระราชา รามา 10 รู้ดีว่า ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง จะไม่มีการเก็บภาษีมรดกจากนักการทูต ถ้าคุณรู้ทางหนีทีไล่ดีพอ
ปัญหาก็คือ จริงๆแล้วเจ้าชายรัชทายาท ไม่เคยเป็นนักการทูตในบาวาเรีย และคฤหาสถ์ในเมืองทุทซิ่งของเขาก็เป็นที่พักส่วนบุคคลแน่นอนอยู่แล้ว
ทางออกก็คือ รามา 10 ให้คนติดป้ายไว้ที่กริ่งกดเรียกที่ประตูคฤหาสถ์ บอกว่าที่นี่เป็นสถานทูตไทย แถมยังติดหมายเลขโทรศัพท์ไว้สองหมายเลขเป็นที่ติดต่อ แต่อย่างไรก็ดี เบอร์โทรศัพท์นั้นใช้ไม่ได้ โทรไปก็ไม่มีสัญญาณเรียก
แต่ลูกเล่นนั้นมันได้ผลจริงๆ แล้วพระราชาก็ประหยัดค่าภาษีมรดกไปได้ถึงสามพันล้านยูโร
เพราะเขารู้ดีว่า ลูกเล่นนั้นตบตาคนไม่ได้ตลอดไป เขาเลยไปเช่าห้องที่ “แกรนด์โฮเต็ล ซอนเนนบิคเค่” และพักในฐานะที่เป็น “แขกของโรงแรม” อยู่อย่างสำราญบานใจเพื่อเลี่ยงภาษี (ส่วนที่ 2 ย่อหน้าที่ 1 หมายเลข 3 ของกฎหมายภาษีมรดก) ป้ายหลอกๆที่หน้าคฤหาสภ์ที่ทุทซิ่งในตอนนี้ก็ไม่รู้หายไปไหนแล้ว แต่ยังมีข้อกังหาเรื่องข้อยกเว้นภาษีของกษัตริย์ไทย
ทิม พัชชึ่น (วัย 27 ปี) รองหัวหน้ากลุ่มพรรคกรีน และ เคลาเดีย คือล่าร์ (วัย 53 ปี) สมาชิกสภารัฐบาวาเรีย ต้องการทราบจาก อิสเซ่ เอ็กน่าร์ (วัย 55 ปี แห่งพรรคคริสเตียนประชาธิปไตย CSU) ประธานรัฐสภา ว่าทำไมพระราชาถึงไม่ต้องเสียภาษี
ทิม พัชชึ่น แจ้งกับบิลด์ว่า “ชาวพรรคกรีนในรัฐสภา มีความมุ่งมั่นในการยึดมั่นต่อความยุติธรรมในการชำระภาษี ซึ่งก็หมายความว่า คนที่ได้รับมรดกจำนวนมหาศาล ควรมีส่วนร่วมในการสนับสนุนบูรณะทุนทรัพย์ของชุมชนอย่างเหมาะสมตามสถานะ และไม่เอาเปรียบจากช่องว่างทางการเสียภาษี เราไม่ควรให้ข้อยกเว้น แม้ว่าจะเป็นกรณีของพระราชา นี่เป็นเหตุผลที่เราตามติดในกรณีนี้
คำตอบจากกระทรวงการคลังแห่งรัฐบาวาเรีย ต่อคำถามที่ทางบิลด์ได้ตีพิมพ์ ฟังดูเป็นที่น่าวิตก รัฐมนตรีคลังของบาวาเรียยอมรับว่า กษัตริย์ไทย ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย (มาตรา 34 ของ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2504) แต่กลับหันมาใช้ลูกเล่นเลี่ยงภาษี “สิทธิในการเลือกปฏิบัติด้วยตัวเองอย่างไม่เป็นทางการ” และ “สิทธิในการรักษาความลับ” และยังมี “ผลประโยชน์ทั่วไปในความสัมพันธ์ทางการทูต ก็ควรนับเข้ามาพิจารณาด้วย”
ข้อสรุป “ยังไม่มีการปฏิบัติทางกฎหมาย” เงินมันหายไปแล้ว รายได้จากแขกผู้มีทรัพย์หลายพันล้านเหรียญจากเมืองไทย ก็หายวับไปเลย
นักการเมืองช่างสงสัย ทิม พัชชึ่น ได้แต่ยักไหล่ด้วยความเสียดาย แต่เขาก็ยังหงุดหงิดอยู่มาก “แถลงการณ์จากรัฐมนตรีคลังของพรรค CSU เป็นที่เข้าใจได้ แต่มันน่าละอายที่รัฐบาลของนายกซือด้าร์ ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังความลับทางภาษี แม้จะยอมรับว่า มันเป็นภาษีที่ควรเก็บได้
พระราชาได้ย้ายโรงแรมไปแล้วในตอนนี้ เขาไปพักอยู่ที่ โรงแรมวัลเด็ก ในเมืองเองเกลแบร์ก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
.....................
🇩🇪 Die dreisten Tricks von Rama X
𝗧𝗵𝗮𝗶-𝗞ö𝗻𝗶𝗴 𝗽𝗿𝗲𝗹𝗹𝘁 𝗕𝗮𝘆𝗲𝗿𝗻 𝘂𝗺 𝟯 𝗠𝗶𝗹𝗹𝗶𝗮𝗿𝗱𝗲𝗻 𝗘𝘂𝗿𝗼
Von Max Boeddeker
Er nimmt gerne (Polizeischutz), teilt oft aus (gegen Kritiker und Bedienstete), aber teilt nicht gerne. Vor allem dann nicht, wenn es ums Geld und Steuern geht.
Alle Rechte, keine Pflichten, aber jede Menge Luxus – der thailändische König Maha Vajiralongkorn (67), genannt Rama X., lebt derzeit im Garmischer Luxus-Hotel „Sonnenbichl“. Als einziger Gast.
Doch das war nicht immer so. Bis zum Tod seines Vaters Bhumibol († 88) im Oktober 2016 nutzte er eine Millionen-Villa in Tutzing am Starnberger See als Wohnsitz.
Und genau DAS ist der steuerliche Knackpunkt! Denn nach dem Tod seines Vaters erhielt er ein stattliches Erbe von etwa 10 Milliarden Euro. Da er seinen privaten Wohnsitz in Bayern hatte, hätte der Freistaat 30 Prozent davon als Erbschaftssteuer kassieren können. Insgesamt also 3 Milliarden Euro!
Doch der Monarch wollte sich seine Moneten auf keinen Fall mopsen lassen – und trickste alle aus. Der damalige Kronprinz und heute König Rama X. wusste: Für Diplomaten fällt unter gewissen Umständen keine Erbschaftssteuer an, wenn man es geschickt anstellt.
PROBLEM: Der Kronprinz war eigentlich nie als Diplomat in Bayern unterwegs. Und: Seine Villa in Tutzing war unverkennbar ein Privathaus.
LÖSUNG: Rama X. ließ neben der Türklingel einen Zettel kleben, der das Anwesen als Thailändische Botschaft auswies. Dazu zwei Telefonnummern als Kontaktmöglichkeit. Beide Nummern waren aber nicht vergeben und führten ins kommunikative Nirgendwo.
Der Trick funktionierte dennoch und der Monarch sparte drei Milliarden Euro Erbschaftsteuer.
Da er wusste, dass die Augenwischerei nicht ewig funktioniert, mietete er sich in der Folge im „Grand Hotel Sonnenbichl“ ein – und ist als „Hotel-Gast“ seitdem steuerlich in der Oase der Glückseligkeit (§2 Abs. 1 Nr. 3 Erbschaftsteuer-Gesetz). Das improvisierte Botschafts-Zettelchen an der Tutzinger Villa ist längst verschwunden. Zweifel an der Steuerbefreiung für den Thai-König bestehen auch heute noch.
Tim Pargent (27), Stv. Fraktionsvorsitzender der Grünen und Claudia Köhler (53), Abgeordnete im Bayerischen Landtag, wollten von Landtagspräsidentin Ilse Aigner (55, CSU) wissen, warum der König nicht zahlen musste.
Tim Pargent zu BILD: „Wir Landtags-Grüne setzen uns für Steuergerechtigkeit ein. Dazu gehört auch, dass sich Menschen mit hohen Erbschaften an der Finanzierung des Gemeinwesens angemessen beteiligen und nicht in Steuerschlupflöcher abtauchen. Auch im Falle eines Königs sollten hier keine Ausnahmen gemacht werden, weswegen wir an dieser Stelle nachgefasst haben.“
Die Antwort des Bayerischen Staatsministeriums der Finanzen und für Heimat, die BILD im Wortlaut vorliegt, ist ernüchternd. Das Ministerium räumt zwar ein, dass für den Thai-König eine Steuerpflicht bestand (Art. 34 des Wiener Übereinkommens über diplomatische Beziehungen vom 18. April 1961), beruft sich aber auf das Steuergeheimnis, das „Recht auf informelle Selbstbestimmung“ und „Geheimschutzrechte“. Außerdem seien die „gesamtstaatlichen Interessen der auswärtigen Beziehungen zu berücksichtigen.“
FAZIT: „Gesetzgeberischer Handlungsbedarf wird nicht gesehen.“ Das Geld ist somit weg, die Kohle des milliardenschweren Dauergastes aus Thailand abgeschrieben!
Dem neugierigen Politiker Tim Pargent bleibt nur achselzuckendes Bedauern, trotzdem könnte er sich grün und blau ärgern: „Die Ausführungen des CSU-Finanzministeriums sind nachvollziehbar, dennoch ist es schade, da sich die Söder-Regierung hinter dem Steuergeheimnis versteckt, obwohl sie einräumen muss, dass eine Steuerpflicht bestand.“
Der König hat zwischenzeitlich das Hotel gewechselt, wohnt noch bis zum 21. Juni im „Hotel Waldegg“ im schweizerischen Engelberg.
🍕🇬🇧 German newspaper BILD has a new story on King Vajiralongkorn and the anger over his efforts to avoid paying three billion euros in tax in Bavaria:
🇹🇭 ลูกเล่นหน้าด้านๆของ รามา 10
โดย แม็ก โบดเด็กเค่อร์
เขาชอบรับของ (การคุ้มกันโดยตำรวจ) ที่ส่วนมากเป็นของฟรี (ต่อต้านคำวิจารณ์และบริวาร) แต่ไม่ชอบแชร์ โดยเฉพาะถ้ามันเกี่ยวข้องกับเงินทองและภาษี
เอาละ ไม่ต้องรับภาระอะไร เอาแต่สำราญบานใจ – กษัตริย์ไทย มหาวชิราลงกรณ์ (วัย 67 ปี) ผู้เป็นที่รู้จักกันว่า รามา 10 ซึ่งปัจจุบันเป็นแขกเพียงผู้เดียว ที่พำนักอยู่ในโรงแรมหรู “ซอนเนนบิคเค่ ที่เมืองการ์มิช
แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอมา ก่อนหน้าการตายของ ภูมิพล (อายุได้ 88 ปี) ผู้เป็นพ่อของเขา เมื่อเดือนตุลาคม พศ 2559 เขาได้ใช้คฤหาสถ์เรือนล้าน (ยูโร) ริมทะเลสาบ สตาร์นเบิร์ก ในเมืองทุทซิ่ง เป็นที่พำนักอาศัย
ซึ่งนั่นก็เป็นมูลเหตุเรื่องเสียภาษีตามมา! เพราะว่าหลังจากที่พ่อของเขาได้เสียชีวิตลง เขาได้รับมรดกเต็มๆ มูลค่าประมาณ 10 พันล้านยูโร จากการที่เขามีบ้านส่วนตัวในบาวาเรีย รัฐอิสระนั้นควรจะได้เก็บภาษี 30 เปอร์เซ็นต์ ตามกฎหมายมรดกตกทอด ซึ่งตกเป็นจำนวน 3 พันล้านยูโร!
แต่ราชาไม่ต้องการจ่ายค่าต๋งให้ใคร – และใช้ลูกเล่นตบตาทุกคน เจ้าชายรัชทายาท ซึ่งได้ขึ้นครองราชเป็น พระราชา รามา 10 รู้ดีว่า ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง จะไม่มีการเก็บภาษีมรดกจากนักการทูต ถ้าคุณรู้ทางหนีทีไล่ดีพอ
ปัญหาก็คือ จริงๆแล้วเจ้าชายรัชทายาท ไม่เคยเป็นนักการทูตในบาวาเรีย และคฤหาสถ์ในเมืองทุทซิ่งของเขาก็เป็นที่พักส่วนบุคคลแน่นอนอยู่แล้ว
ทางออกก็คือ รามา 10 ให้คนติดป้ายไว้ที่กริ่งกดเรียกที่ประตูคฤหาสถ์ บอกว่าที่นี่เป็นสถานทูตไทย แถมยังติดหมายเลขโทรศัพท์ไว้สองหมายเลขเป็นที่ติดต่อ แต่อย่างไรก็ดี เบอร์โทรศัพท์นั้นใช้ไม่ได้ โทรไปก็ไม่มีสัญญาณเรียก
แต่ลูกเล่นนั้นมันได้ผลจริงๆ แล้วพระราชาก็ประหยัดค่าภาษีมรดกไปได้ถึงสามพันล้านยูโร
เพราะเขารู้ดีว่า ลูกเล่นนั้นตบตาคนไม่ได้ตลอดไป เขาเลยไปเช่าห้องที่ “แกรนด์โฮเต็ล ซอนเนนบิคเค่” และพักในฐานะที่เป็น “แขกของโรงแรม” อยู่อย่างสำราญบานใจเพื่อเลี่ยงภาษี (ส่วนที่ 2 ย่อหน้าที่ 1 หมายเลข 3 ของกฎหมายภาษีมรดก) ป้ายหลอกๆที่หน้าคฤหาสภ์ที่ทุทซิ่งในตอนนี้ก็ไม่รู้หายไปไหนแล้ว แต่ยังมีข้อกังหาเรื่องข้อยกเว้นภาษีของกษัตริย์ไทย
ทิม พัชชึ่น (วัย 27 ปี) รองหัวหน้ากลุ่มพรรคกรีน และ เคลาเดีย คือล่าร์ (วัย 53 ปี) สมาชิกสภารัฐบาวาเรีย ต้องการทราบจาก อิสเซ่ เอ็กน่าร์ (วัย 55 ปี แห่งพรรคคริสเตียนประชาธิปไตย CSU) ประธานรัฐสภา ว่าทำไมพระราชาถึงไม่ต้องเสียภาษี
ทิม พัชชึ่น แจ้งกับบิลด์ว่า “ชาวพรรคกรีนในรัฐสภา มีความมุ่งมั่นในการยึดมั่นต่อความยุติธรรมในการชำระภาษี ซึ่งก็หมายความว่า คนที่ได้รับมรดกจำนวนมหาศาล ควรมีส่วนร่วมในการสนับสนุนบูรณะทุนทรัพย์ของชุมชนอย่างเหมาะสมตามสถานะ และไม่เอาเปรียบจากช่องว่างทางการเสียภาษี เราไม่ควรให้ข้อยกเว้น แม้ว่าจะเป็นกรณีของพระราชา นี่เป็นเหตุผลที่เราตามติดในกรณีนี้
คำตอบจากกระทรวงการคลังแห่งรัฐบาวาเรีย ต่อคำถามที่ทางบิลด์ได้ตีพิมพ์ ฟังดูเป็นที่น่าวิตก รัฐมนตรีคลังของบาวาเรียยอมรับว่า กษัตริย์ไทย ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย (มาตรา 34 ของ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2504) แต่กลับหันมาใช้ลูกเล่นเลี่ยงภาษี “สิทธิในการเลือกปฏิบัติด้วยตัวเองอย่างไม่เป็นทางการ” และ “สิทธิในการรักษาความลับ” และยังมี “ผลประโยชน์ทั่วไปในความสัมพันธ์ทางการทูต ก็ควรนับเข้ามาพิจารณาด้วย”
ข้อสรุป “ยังไม่มีการปฏิบัติทางกฎหมาย” เงินมันหายไปแล้ว รายได้จากแขกผู้มีทรัพย์หลายพันล้านเหรียญจากเมืองไทย ก็หายวับไปเลย
นักการเมืองช่างสงสัย ทิม พัชชึ่น ได้แต่ยักไหล่ด้วยความเสียดาย แต่เขาก็ยังหงุดหงิดอยู่มาก “แถลงการณ์จากรัฐมนตรีคลังของพรรค CSU เป็นที่เข้าใจได้ แต่มันน่าละอายที่รัฐบาลของนายกซือด้าร์ ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังความลับทางภาษี แม้จะยอมรับว่า มันเป็นภาษีที่ควรเก็บได้
พระราชาได้ย้ายโรงแรมไปแล้วในตอนนี้ เขาไปพักอยู่ที่ โรงแรมวัลเด็ก ในเมืองเองเกลแบร์ก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
.....................
🇩🇪 Die dreisten Tricks von Rama X
𝗧𝗵𝗮𝗶-𝗞ö𝗻𝗶𝗴 𝗽𝗿𝗲𝗹𝗹𝘁 𝗕𝗮𝘆𝗲𝗿𝗻 𝘂𝗺 𝟯 𝗠𝗶𝗹𝗹𝗶𝗮𝗿𝗱𝗲𝗻 𝗘𝘂𝗿𝗼
Von Max Boeddeker
Er nimmt gerne (Polizeischutz), teilt oft aus (gegen Kritiker und Bedienstete), aber teilt nicht gerne. Vor allem dann nicht, wenn es ums Geld und Steuern geht.
Alle Rechte, keine Pflichten, aber jede Menge Luxus – der thailändische König Maha Vajiralongkorn (67), genannt Rama X., lebt derzeit im Garmischer Luxus-Hotel „Sonnenbichl“. Als einziger Gast.
Doch das war nicht immer so. Bis zum Tod seines Vaters Bhumibol († 88) im Oktober 2016 nutzte er eine Millionen-Villa in Tutzing am Starnberger See als Wohnsitz.
Und genau DAS ist der steuerliche Knackpunkt! Denn nach dem Tod seines Vaters erhielt er ein stattliches Erbe von etwa 10 Milliarden Euro. Da er seinen privaten Wohnsitz in Bayern hatte, hätte der Freistaat 30 Prozent davon als Erbschaftssteuer kassieren können. Insgesamt also 3 Milliarden Euro!
Doch der Monarch wollte sich seine Moneten auf keinen Fall mopsen lassen – und trickste alle aus. Der damalige Kronprinz und heute König Rama X. wusste: Für Diplomaten fällt unter gewissen Umständen keine Erbschaftssteuer an, wenn man es geschickt anstellt.
PROBLEM: Der Kronprinz war eigentlich nie als Diplomat in Bayern unterwegs. Und: Seine Villa in Tutzing war unverkennbar ein Privathaus.
LÖSUNG: Rama X. ließ neben der Türklingel einen Zettel kleben, der das Anwesen als Thailändische Botschaft auswies. Dazu zwei Telefonnummern als Kontaktmöglichkeit. Beide Nummern waren aber nicht vergeben und führten ins kommunikative Nirgendwo.
Der Trick funktionierte dennoch und der Monarch sparte drei Milliarden Euro Erbschaftsteuer.
Da er wusste, dass die Augenwischerei nicht ewig funktioniert, mietete er sich in der Folge im „Grand Hotel Sonnenbichl“ ein – und ist als „Hotel-Gast“ seitdem steuerlich in der Oase der Glückseligkeit (§2 Abs. 1 Nr. 3 Erbschaftsteuer-Gesetz). Das improvisierte Botschafts-Zettelchen an der Tutzinger Villa ist längst verschwunden. Zweifel an der Steuerbefreiung für den Thai-König bestehen auch heute noch.
Tim Pargent (27), Stv. Fraktionsvorsitzender der Grünen und Claudia Köhler (53), Abgeordnete im Bayerischen Landtag, wollten von Landtagspräsidentin Ilse Aigner (55, CSU) wissen, warum der König nicht zahlen musste.
Tim Pargent zu BILD: „Wir Landtags-Grüne setzen uns für Steuergerechtigkeit ein. Dazu gehört auch, dass sich Menschen mit hohen Erbschaften an der Finanzierung des Gemeinwesens angemessen beteiligen und nicht in Steuerschlupflöcher abtauchen. Auch im Falle eines Königs sollten hier keine Ausnahmen gemacht werden, weswegen wir an dieser Stelle nachgefasst haben.“
Die Antwort des Bayerischen Staatsministeriums der Finanzen und für Heimat, die BILD im Wortlaut vorliegt, ist ernüchternd. Das Ministerium räumt zwar ein, dass für den Thai-König eine Steuerpflicht bestand (Art. 34 des Wiener Übereinkommens über diplomatische Beziehungen vom 18. April 1961), beruft sich aber auf das Steuergeheimnis, das „Recht auf informelle Selbstbestimmung“ und „Geheimschutzrechte“. Außerdem seien die „gesamtstaatlichen Interessen der auswärtigen Beziehungen zu berücksichtigen.“
FAZIT: „Gesetzgeberischer Handlungsbedarf wird nicht gesehen.“ Das Geld ist somit weg, die Kohle des milliardenschweren Dauergastes aus Thailand abgeschrieben!
Dem neugierigen Politiker Tim Pargent bleibt nur achselzuckendes Bedauern, trotzdem könnte er sich grün und blau ärgern: „Die Ausführungen des CSU-Finanzministeriums sind nachvollziehbar, dennoch ist es schade, da sich die Söder-Regierung hinter dem Steuergeheimnis versteckt, obwohl sie einräumen muss, dass eine Steuerpflicht bestand.“
Der König hat zwischenzeitlich das Hotel gewechselt, wohnt noch bis zum 21. Juni im „Hotel Waldegg“ im schweizerischen Engelberg.
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar