ถ้าไม่ปฏิวัติประเทศไทย ก็ต้องอยู่กันอย่างบัดซบแบบนี้

Somyot Pruksakasemsuk

ถ้าไม่ปฏิวัติประเทศไทย ก็ต้องอยู่กันอย่างบัดซบแบบนี้สนธิ ลิ้มทองกุล ติดคุก 20 ปี อยู่จริงแค่ 3 ปีสมยศ พฤกษาเกษมสุข ติดคุก 7 ปี อยู่จริงเต็ม 7 ปีบุกสถานีโทรทัศน์ NBT ติดคุก 6 เดือบุกรอยัลคลิฟ พัทยา ติดคุก 4 ปียึดทำเนียบรัฐบาล 8เดือนติดคุก 8 เดือน อยู่จริง 3 เดือนชุมนุมหน้าบ้านเปรม 4 ชั่วโมง ติดคุก 2 ปี 8 เดือนหลัง24มิถุนายน 2475 อำนาจด้านนิติบัญญัติ และบริหาร เปลี่ยนผ่านมาสู่การเชื่อมโยงกับประชาชนได้บ้างบางครั้งบางครา สลับสับเปลี่ยนไปกับการรัฐประหารที่เหยียบหัวประชาชน ส่วนอำนาจตุลาการไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ยังคงสืบทอดมาจากการแต่งตั้งกันเองและทำหน้าที่ตัดสินในพระปรมาภิไธยของกษัตริย์ ประธานศาลฎีกาเกือบทุกรุ่นหลังเกษียณก็เข้าดำรงตำแหน่งองคมนตรี กลายเป็นอำนาจเชิงซ้อน เอวังก็ด้วยประการเช่นนี้
แก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้สมควรยกเลิกองคมนตรีไปเลย แล้ว เปลี่ยนระบบศาลให้มาจากการเลือกตั้ง และใช้ระบบลูกขุนเข้ามาพิจารณาคดีแทนที่ระบบเก่าที่ผู้พิพากษาตัดสินคดีกันไปตามจารีตของการปกครองที่เรียกว่า "ประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข "

เราเคยเตือนมาหลายครั้งแล้วว่าอย่าไปล้อเล่นกับการปฏิวัติเมื่อมีประชาชนทั้งประเทศและประเทศเพื่อนบ้านก็ให้การสนับสนุนรวมไปถึงประชาคมโลกก็พร้อมที่จะยอมรับ ภายในประเทศทั้งทหารตำรวจข้าราชการพลเรือนก็พร้อมและก็เป็นช่วงของเวลาที่เหมาะสมที่สุดในช่วงเปลี่ยนผ่านรัชกาลเป็นช่วงที่พวกเจ้ากำลังออ่นแอที่สุด แต่ฝ่ายที่เป็นแกนนำระดับแนวหน้าโดยเฉพาะหัวหน้าของขบวนการ น.ป.ช.เองกลับไม่กล้าสู้ไม่กล้าตัดสินใจเด็ดขาดไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัดไม่กล้านำพาประชาชนเข้ายึดอำนาจรัฐเพื่อให้อำนาจรัฐมาอยู่ในมือของประชาชน
ทั้้งที่ประชาชนเรียกร้องและให้การสนับสนุนอย่างล้นหลามที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ซึ่งเราเคยเตือนว่าโอกาศอย่างนี้อาจไม่มีอีกในช่วงเวลาเป็นร้อยปี  เมื่อเวลาเหล็กมันร้อนไม่ตี จะต่อสู้แบบสันติวิธีกับศรัตรูที่พร้อมจะใช้อาวุธทุกอย่างเพื่อกดขี่เข่นฆ่าประชาชนอย่างป่าเถื่อนในทุกรูปแบบ เพียงแค่จะเอาประชาชนมาเป็นเครื่องมือเพื่อต่อรองอำนาจเพื่อหวังจะปรองดองกับฝ่ายศรัตรูที่ปราศจากคุณธรรมและทรยศคตโกงโหดเหี้ยมไร้ความปราณีที่ครองอำนาจมาเป็นเวลายาวนานและหวังว่าจะให้เขาหยิบยื่นประชาธิปไตยไห้อย่างสันติวิธีโดยปราศจากความรุณแรงนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และไม่เคยมีที่ไหนในโลกที่ชนชั้นปกครองจะยอมลงจากบัลลังก์โดยสันติวิธีเหมือนกับบังคับสิงห์โตให้ยอมกินหญ้าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ฉันใด การที่จะเรียกร้องให้พวกเจ้าหยิบยื่นประชาธิปไตยให้ประชาชนโดยสันติวิธีนั้นจงลืมเสียเถิด!! มีแต่อย่างเดียวต้องโค่นล้มมันลงเท่านั้น  !!

เมื่อไม่กล้าทำไม่กล้าปฏิวัติไม่กล้าเสียสละไม่กล้าเปลี่ยนแปลงทั้งๆที่เงื่อนไขทุกอย่างสุกงอมแล้วเมื่อทำการปลุกระดมมวลชนมาจนมากมายทำให้ฝ่ายศรัตรูจนมุมหมดแล้ว...ก็ไม่กล้าลงมือทำ  !!...ปล่อยให้พวกเผด็จการทหารที่รับใช้เจ้าเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าวล้มตายสูญหายและบาดเจ็บอย่างน่าอนาถ เป็นจำนวนมากมายนี้มันคือความรุณแรงหรือเปล่า ? เป็นที่น่าเศร้าสลดใจกับมวลชนอีกเป็นจำนวนมากต้องประสบชะตากรรมเสียชีวิตทำให้ครอบครัวแตกสลายเพราะนโยบายที่ผิดพลาดของขบวนการ น.ป.ช. ทั้งในทางทฤษฏีและการจัดตั้งรวมทั้งยุทธศาสตร์และเป้าหมายของการต่อสู้ ในบั้นปลายคิดว่าฝ่ายศรัตูเขาจะปราณีปรานอมและยอมปรองดองแต่ต้องถูกเขาเอาไปขังอยู่ในคุกอย่างน่าเศร้าสลดหดหู่ใจมากที่สุดนี่คือบทเรียนอันเจ็บปวดของการต่อสู้ในประวัติศาสตร์ของชาติไทยอีกครั้งที่นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจะต้องจำใส่ใจเอาไว้เป็นบทเรียน ".
( ผู้เรียบเรียง )