torsdag 28 september 2017

คุก5ปี6ล้านไลก์ :คอลัมน์ ใบตองแห้ง


คุก5ปี6ล้านไลก์ :คอลัมน์ ใบตองแห้ง

โล่งอกไปที ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุกยิ่งลักษณ์ 5 ปี โดยอดีตนายกรัฐมนตรีหนีไปแล้ว คนไทยใน “วัฒนธรรมอ่อนละมุน” ถอนใจเฮือกใหญ่ ไม่ต้องเห็นภาพยิ่งลักษณ์ถูกตีตรวนคุมตัวขึ้นรถเรือนจำ แม้อาจได้ประกันระหว่างอุทธรณ์ก็คงนอนคุกอีกหลายคืน กลัวจะมีการเคลื่อนไหวมวลชน ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ไปอย่างนี้เสียดีกว่า เหมือนทักษิณไง ขอศาลไปดูโอลิมปิก แล้วไม่กลับมา
จบแบบนี้บ้านเมืองจะได้เดินหน้าภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งคงไม่มีปัญหาอีกแล้ว เพราะนักการเมืองจากเลือกตั้งไม่มีอำนาจ ต้องทำตามยุทธศาสตร์ชาติ ไม่สามารถหาเสียงด้วยนโยบาย ประเทศไม่แตกแยก ภายใต้นายกฯ คนนอก ประชาชนในระบอบใหม่ทำมาหากินอย่างสงบสุข เชื่อฟังรัฐบาล เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมอันศักดิ์สิทธิ์

แต่จะเป็นตามที่สังคมหยวนยอมอยากเห็นไหม ก็ยังไม่แน่ใจ ยังไม่ต้องพูดถึงคนฝ่ายหนึ่งซึ่งรู้สึกอัดอั้นซ้ำซ้อน คนอีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้ยิ่งลักษณ์ลอยนวล แค่หนีได้ยังต้องอธิบายแทบแย่ ว่านั่งรถไปอรัญฯ แล้วโดดข้ามคลองไปเองรัฐบาลไม่รู้ไม่เห็นไม่มีใครช่วยนอกจากตำรวจ 2-3 นาย
นี่ลุงตู่ลั่นปาก รู้ยิ่งลักษณ์อยู่ไหน ก็ต้องตามตัว จะแกล้งทำเฉยเหมือนคดีทักษิณไม่ได้ ถ้าขอลี้ภัยยุโรป ก็ต้องขอตัวข้ามแดน ซึ่งต้องไปสู้กันต่อในศาลประเทศนั้น แล้วทำนายได้เลย ยิ่งลักษณ์ก็ต้องสู้ว่าถูกดำเนินคดีหลังรัฐประหาร อัยการสั่งฟ้องวันเดียวกับที่ สนช.ถอดถอน ฯลฯ แล้วศาลที่นั่นจะส่งตัวหรือไม่ ถ้าเขาไม่ส่งจะทำหน้ายังไง
อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ชวนคิดเพราะมีผลถึงอนาคต คือ คำพิพากษายิ่งลักษณ์วางบรรทัดฐานอย่างไร ต่อการดำเนินนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร

คำพิพากษายิ่งลักษณ์ สรุปแบบรวบรัดมี 3 ประเด็นใหญ่ หนึ่ง ศาลยืนยันว่า “ไม่มีอำนาจวินิจฉัยว่านโยบายของรัฐบาลชอบด้วยกฎหมายหรือมีความเหมาะสมหรือไม่” แต่หากปรากฏว่าในขั้นตอนการปฏิบัติตามโครงการ (จำนำข้าว) มีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย ก็ย่อมถูกตรวจสอบโดยกระบวนการยุติธรรมได้

สอง ในการรับจำนำข้าวทั้ง 5 ฤดูการผลิต แม้พบความเสียหายหลายประการ เช่น สวมสิทธิ สูญหาย ใบประทวนเท็จ เอกสารปลอม ข้าวเน่า ข้าวไม่ตรงตามมาตรฐาน ฯลฯ แต่เป็นความเสียหายที่เกิดจากการปฏิบัติ จำเลยได้กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการป้องกันไว้ตั้งแต่เริ่มโครงการ เมื่อพบความเสียหายก็ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์วิธีการเป็นระยะๆ ในส่วนนี้ยังฟังไม่ได้ว่าปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ
แปลว่าข้อหาไม่เชื่อคำเตือน สตง. ป.ป.ช. TDRI ฯลฯ ศาลยกหมด แม้เกิดความเสียหาย มีปัญหาประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ถึงกับผิดอาญา

แต่ยิ่งลักษณ์มาติดคุกเพราะประเด็นที่สาม คดีระบายข้าวจีทูจี ที่บุญทรง เตริยาภิรมย์, ภูมิ สาระผล ติดคุก 42 ปี 36 ปี ศาลชี้ว่าตามพฤติการณ์แสดงว่ายิ่งลักษณ์ทราบว่าสัญญาขายข้าวจีทูจีไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ระงับยับยั้ง ปล่อยให้มีการส่งมอบข้าวตามสัญญา

ประเด็นนี้ยิ่งลักษณ์เคยขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ โดยแย้งว่า ป.ป.ช.ชี้มูลเธอก่อน แล้วชี้มูลคดีระบายข้าวจีทูจีทีหลัง อัยการสั่งฟ้องทีหลัง แต่เอาสำนวนจีทูจีมาเพิ่มในคดีเธอในชั้นศาล 60,000 กว่าแผ่น ขอให้ส่งวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ แต่ศาลเห็นว่าไม่ต้องส่ง

คำพิพากษาทั้ง 3 ประเด็นเหมือนฟังได้ว่า รัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายช่วยประชาชน แม้เกิดความเสียหาย เกิดทุจริตระดับปฏิบัติ หากมีมาตรการป้องกันปรับปรุงแก้ไข ก็ไม่ผิดอาญา
เพียงแต่ถ้าไม่มั่นใจคงไม่มีใครอยากเสี่ยง เพราะต้องไปให้ศาลใช้ดุลพินิจ แม้ไม่ผิดอาญาก็อาจต้องรับผิดทางละเมิด
ส่วนถ้ารัฐมนตรีหรือผู้ใต้บังคับบัญชาทุจริต ต้องรับผิดหมดไหม ก็ไม่แน่เหมือนกัน ถ้ารู้แล้วไม่ระงับยับยั้งก็ผิด เช่นยิ่งลักษณ์แม้ปรับ ครม.เอาบุญทรงออก แต่ศาลก็ชี้ว่าปรับออกช้าไป (หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ 7 เดือน) ระหว่างนั้นยังให้บุญทรงตั้งกรรมการสอบ ซึ่งศาลเห็นว่าไม่ตั้งใจตรวจสอบจริงจัง
นโยบายพยุงราคาพืชผลไม่ถึงกับอวสานโดยคำพิพากษา เพียงแต่ต่อไปก็ไม่มีใครอยากเสี่ยง ยิ่งกว่านั้นกลไกรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ ก็ทำให้ไม่มีการหาเสียงด้วยนโยบายอีกต่อไป

ยิ่งลักษณ์คงเป็นคนสุดท้าย ก่อนเข้าสู่ยุคใหม่ ที่จะไม่มีนักการเมืองได้รับความนิยมล้นหลาม 6 ล้านไลก์อีกต่อไป

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar