ถ้าเพื่อไทยชนะ :คอลัมน์ ใบตองแห้ง

วันที่ 12 ตุลาคม 2561 - 15:35 น.

ถ้าเพื่อไทยชนะ:ใบตองแห้ง

สี่ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก คนชั้นกลางในเมืองมัวสโลว์ไลฟ์ อิ่มอกอิ่มใจ ได้รัฐบาลธรรมาภิบาลจากปากกระบอกปืน จนเลิกสนใจการเมืองไปนาน หันมาอีกที อ้าว จะมีเลือกตั้ง สื่อคลิกเบตปลุกความเกลียดชัง ผีดิบกำลังกลับมา
อดีต ส.ส.บินไปพบทักษิณ เพื่อไทยจะแตกแบรนด์ตั้งพรรคสำรอง เนติบริกรบอกยังเอาผิดไม่ได้ ก็คลั่งว่า “วิษณุไฟเขียว” แต่เดี๋ยวๆ ก็ดีใจ “ไอ้ตู่-ไอ้เต้น” แตกกันแล้ว
ยอมรับใช่ไหม กลัวเพื่อไทยชนะ กลัวปัญหาปากท้อง มะพร้าวลูกละ 4 บาท ลิงกังยังตกงาน ทั้งที่ให้คำมั่น ปีนี้ คนไทยหายจน ไปที่ไหนก็มีแต่ประชาชนโห่ต้อนรับ ไม่ขว้างถือว่าชื่นชม
กลัวเพื่อไทยชนะ จนสนับสนุนกติกาอัปลักษณ์ แบบตั้ง ส.ว.มายกมือให้ตัวเองเป็นนายกฯ หรือศรีธนญชัยเลี่ยงรัฐธรรมนูญ รัฐมนตรีจะสมัคร ส.ส.ต้องลาออกใน 90 วัน รัฐมนตรีเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ไม่จำเป็นต้องออก
ระวังเน้อ จะช่วยหาเสียงมุมกลับ ยิ่งพานทองแท้ ชินวัตร โดนสั่งฟ้องช่วงใกล้เลือกตั้ง โทษฐานรับเช็ค 10 ล้านแล้ว ส่งคืน จากคดีแบงก์กรุงไทย ที่มีกรรมการทำผิดแล้วกลับใจ ถูกกันไว้เป็นพยาน คือ อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นั่นไง

สามพี่น้องประกาศสมัครสมาชิกพรรค เดินนำหน้าหาเสียง ไม่ต้องหาว่าอยู่เบื้องหลัง ครั้งนี้สนุกแน่ เพราะใครเป็น หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ ยังเรียกคะแนนได้ไม่เท่า โอ๊ค เอม อุ๊งอิ๊ง มาเดินเอง

ถ้าเพื่อไทยชนะ จะเกิดอะไร เข้าใจตรงกันนะ มาตรา 272 บทเฉพาะกาล ให้ที่ประชุมรัฐสภา 500 ส.ส.+250 ส.ว.แต่งตั้ง โหวตเลือกนายกฯ ฉะนั้นใครคุมเสียง ส.ว.ได้ ขอเสียง ส.ส. แค่ 126 คน แต่เพื่อไทยซึ่งคงไม่มี ส.ว.ยกมือให้ ต้องได้ ส.ส. ถึง 376 คน 3 ใน 4 ของประเทศ
 เป็นกติกาที่ยุติธรรมจัง ยังเรียกร้องให้เคารพกติกา ลุงกำนันห้ามฉีก ห้ามแก้ สลิ่มจงแห่ไปจ่ายค่าบำรุงพรรค ซึ่งทำได้ไม่ใช่เงินบริจาคแบบอนาคตใหม่

ฉะนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงๆ เพื่อไทยก็เป็นนายกฯ ไม่ได้ เว้นแต่แลนด์สไลด์ยิ่งกว่าปี”48 คำถามกลับกันคือ ถ้าเพื่อไทย อนาคตใหม่ ประชาชาติ เสรีรวมไทย สามัญชน พรรคเกียน ฯลฯ พรรคขั้วประชาธิปไตยที่ประกาศไม่เอาการสืบทอดอำนาจ ได้รวมกันเกิน 251 เสียงจะว่าไง เพราะ ส.ว.โหวตให้เป็นนายกฯ ได้ แต่การตั้งรัฐบาลที่ต้องผ่านงบผ่านกฎหมาย ต้องได้ ส.ส.เกินครึ่ง

ตรงนั้นคือจุดล่อแหลม และน่าสนใจ ว่าจะหาทางออกอย่างไร จะล้มโต๊ะ ใช้ ม.44 ใช้สถานะนายกฯ ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ฯลฯ คงเป็นไปได้ยาก ยิ่งทำให้เสื่อม ยิ่งทำให้แพ้ และ 12 ปีประเทศก็บอบช้ำมาเกินพอแล้ว ทุกฝ่ายที่มีสติ คงไม่อยากให้เละไปกว่านี้
หลายคนจึงมองว่า ถ้าเป็นเช่นนั้น ต้องมีการเจรจา ประนีประนอม แต่ประนอมแบบไหน ก็ยากอีก อย่างน้อยประชาชนคงไม่ยอมให้เกี้ยเซี้ย ต้องต่อรองเพื่ออำนาจประชาชนเป็นสำคัญ
อันที่จริง โอกาสของการสลายอำนาจระบอบ คสช. จะเปิดกว้างและมีความเป็นไปได้มากขึ้น หากนับพรรคประชาธิปัตย์ด้วย แต่ใครจะเชื่อ

คณิตศาสตร์เลือกตั้งคำนวณถึงปลายทางมี 4 ประตูเท่านั้น คือกลุ่มพรรคต้านสืบทอดอำนาจชนะถล่มทลาย ซึ่งเป็นไปได้ยากส์มาก เมื่อคำนึงถึงฐานอำนาจ การจัดเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมใต้ ม.44
หรือกลุ่มพรรคต้านสืบทอดอำนาจแพ้ย่อยยับ ดูฐานเดิมมีโอกาสน้อย แต่อย่าประมาทประชารัฐไทยนิยม ถ้าลุงกลับมาอีกครั้งด้วยชัยชนะถล่มทลาย จะยิ่งฮึกเหิม ใช้อำนาจบังคับสังคม โดยอ้างความชอบธรรมจากเลือกตั้ง

ประตู 3 ประตู 4 คือ กลุ่มพรรคต้านสืบทอดอำนาจได้เสียงเกินครึ่งนิดหน่อย หรือได้น้อยกว่าแต่อยู่ในเกณฑ์ 220 ถ้าเป็นอย่างหลัง ก็ปล่อยให้กวาดต้อนสารพัดนักการเมือง รวมทั้งพรรคแทงกั๊ก เข้าเป็นรัฐบาล แล้วนั่งหัวร่อรอดูซิว่าจะบริหารอย่างไร โดยถ้าได้ซัก 240+ ยิ่งสนุก
การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมายยิ่งทางยุทธศาสตร์ เป็นการต่อสู้ระหว่างแนวทางประชาธิปไตย กับการสืบทอดระบอบรัฐรวมศูนย์อำนาจ ไม่มีที่ว่างให้แทงกั๊ก ไม่ใช่เรื่องเลือกพรรคดีคนดี อำนาจประชาชนต้องมาก่อน จะยอมให้ ส.ว.แต่งตั้ง 250 คนมีอำนาจเท่าประชาชนครึ่งประเทศได้อย่างไร

แต่ในขณะที่ดูเหมือนจะนำไปสู่การแตกหัก ก็ยังมีช่องทางไปสู่การต่อรองได้ ทำอย่างไรให้ชนะ ทำอย่างไรให้เกิดการต่อรอง ที่อยู่บนฐานอำนาจประชาชน ไม่ใช่เกี้ยเซี้ยกัน ต้องดูไปทีละขั้น

(หมายเหตุ-โปรดเกล้าฯให้มี" เลือกตั้ง"เพื่อยุบสภา??? ตามรัฐธรรมนูญปี60 ที่ร่างขึ้นโดยพวก(ชนชั้นปกครอง)Tyrant??? ภายใต้" ยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี"???เพื่อนำประเทศเข้าสู่ระบอบTyrannyแบบเบ็ตเสร็จ???เก่าไปใหม่มา...Tyrant หน้าเดิมๆ
สังคมจะเดินหน้าหรือถอยหลัง  ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนไทยเท่านั้น..จงตั้งสติ.คิดพิจารณาทบทวนไตร่ตรองดูให้ดี  "ปฎิเสธหรือยอมจำนน "ล้วนแล้วต่างมีผลต่อตนเองและลูกหลานในอนาคต )