ฟรานเชสกา อันส์เวิร์ธ (ขวา)
ผอ.บีบีซีเวิลด์ ตอบกรณี ‘ไผ่ ดาวดิน’ การแชร์เป็นสิทธิในการเผยแพร่ข่าวสาร
Thu, 2017-03-30 16:26
ที่มา ประชาไท
ผู้อำนวยการบีบีซีภาคบริการโลกเผย
รัฐบาลทั่วโลกกำลังหาช่องทางควบคุมสื่อเพื่อจัดการข้อมูลก่อนส่งถึงประชาชน
ส่วนสื่อต้องมุ่งมั่นที่จะรายงานข้อเท็จจริงอย่างยุติธรรมและซื่อสัตย์
ตั้งใจรักษาเสรีภาพเพื่อนำเสนอข้อมูลที่เป็นกลางให้โลกได้รับรู้
พร้อมตอบกรณีไผ่ ดาวดิน การกดแชร์เป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้คนรับรู้ข่าวสาร
เป็นสิทธิที่ทุกคนควรมี
29 มี.ค. 2560 ฟรานเชสกา อันส์เวิร์ธ ผู้อำนวยการบีบีซีภาคบริการโลก
และรองผู้อำนวยการฝ่ายข่าว บรรยายเรื่อง
เสรีภาพสื่อในยามที่โลกอำนาจนิยมเบ่งบาน ที่วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์
ชั้น 2 ห้อง 205 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยชี้ว่า
ความสัมพันธ์ของบีบีซีกับนักการเมือง ไม่ต่างกับการชักเย่อ
ที่แต่ละฝ่ายควรจะต้องดึง
ซึ่งความเป็นจริงก็เป็นกระบวนการตามหลักการประชาธิปไตย
เพราะเป็นการทดสอบผู้ที่อยู่ในอำนาจ สื่อสามารถถูกตรวจสอบได้
หากสื่อมีอำนาจมากเกินไปจะส่งผลกระทบ สร้างความเสียหายต่อระบบการเมือง
หากอ่อนแอเกินไปจะเสี่ยงต่อการถูกดึงไปทางใดทางหนึ่ง
เสี่ยงต่อการสูญเสียเสรีภาพของสื่อ
ฟรานเชสกา เล่าจากประสบการณ์ในช่วงการรณรงค์ทำประชามติ
กรณีสหราชอาณาจักรต้องการออกจากสหภาพยุโรป (EU) ว่า
บีบีซีต้องสู้กับการปล่อยข่าวจากทั้งสองฝั่ง
ที่พยายามอยากแก้ไขข่าวเพื่อให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายตนเอง ทั้งนี้เอง
บีบีซีได้รับการยอมรับจากนักการเมืองว่าเป็นอิสระ
และเราต้องคงความอิสระนั้นไว้
การทำประชามติครั้งนั้นเตือนให้เรารู้ว่าเส้นแบ่งระหว่างการตรวจสอบอย่างเหมาะสมและการแทรกแซงสื่อเป็นสิ่งที่เราต้องหวงแหน
ฟรานเชสกา เล่าต่อว่า ในการรักษาสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก
สื่อต้องมีความรับผิดชอบ
รู้ถึงจุดกึ่งกลางระหว่างเสรีภาพในการแสดงออกอย่างสุดโต่งพร้อมผลกระทบที่จะตามมา
ในกรณีประเทศไทยมีกฎหมายมาตรา 112 เพื่อปกป้องราชวงศ์
ตอนนั้นบีบีซีเกือบตกที่นั่งลำบากจากการนำเสนอบทความประวัติของในหลวงรัชกาลใหม่ลงสื่อออนไลน์
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาที่ออฟฟิศบีบีซีกรุงเทพ
ทำให้เนื้อหาที่นำเสนอถูกบล็อค
แต่ความเป็นจริงแล้วบทความดังกล่าวเขียนขึ้นและตีพิมพ์ที่สำนักงานใหญ่บีบีซีที่ลอนดอน
ซึ่งพนักงานในประเทศไทยต่างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบทความนั้น
ทั้งนี้ภายในห้องบรรยาย ได้มีผู้ตั้งคำถามถึงกรณีนายจตุภัทร์
บุญภัทรรักษาหรือไผ่ ดาวดินที่ถูกดำเนินคดี 112
หลังแชร์พระราชประวัติในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่บีบีซีนำเสนอ ฟรานเชสกา
ตอบว่าบีบีซีเชื่อในหลักการสิทธิที่จะเผยแพร่ (The Right to Share)
การกดแชร์เป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้คนรับรู้ข่าวสาร เป็นสิทธิที่ทุกคนควรมี
บีบีซีไม่มีเจตนาจะทำให้เกิดความไม่พอใจ
และไม่ได้มาที่นี่เพื่อละเมิดกฎหมาย
แต่เป็นการทำงานตามกรอบมาตรฐานของกองบรรณาธิการ
“ดิฉันไม่อยากจะพูดถึงประเด็นเก่าๆ ระหว่างเรา
เราอยากมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทย เราไม่อยากทำให้ประเทศไทยไม่พอใจ
รวมถึงราชวงศ์
แต่บีบีซียืนยันในบทความดังกล่าวและเชื่อมั่นว่ามันตรงกับหลักการบรรณาธิการของบีบีซี
และมันเลี่ยงไม่ได้ จะเป็นการดีด้วยซ้ำที่ในประเทศใดก็ตาม
นักการเมืองและสื่อมวลชนจะเห็นไม่ตรงกันตลอด” ฟรานเชสกา กล่าว
ฟรานเชสกา เล่าต่อว่า ตอนนี้คำถามสำหรับสื่อและนักการเมืองคือ
ใครเป็นผู้จำกัดเสรีภาพและเราควรถูกตัดสินอย่างไร ใครคือผู้กำกับดูแล
และกฎกติกาในการกำกับดูแลคืออะไร
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณว่าอยู่ส่วนไหนของโลก
วัฒนธรรมของประเทศนั้นเป็นอย่างไร
มุมมองด้านประชาธิปไตยและบทบาทของสื่อในระบอบประชาธิปไตย
เพราะประชาธิปไตยและเสรีภาพสื่อไม่สามารถเกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน
บางทีอาจไม่เกิดขึ้นเลย และจำเป็นต้องใช้เวลา
ฟรานเชสกา ระบุด้วยว่า
ค่อนข้างเป็นกังวลสำหรับการคุกคามสื่อจากรัฐบาลบางประเทศ
ตามรายงานขององค์กรสื่อไร้พรมแดน นักข่าวหลายร้อยคนถูกจำคุกในประเทศตุรกี
หลังล้มเหลวในการทำรัฐประหารเมื่อเดือนกรกฎาคม
และนักข่าวอีกหลายร้อยคนถูกขังในประเทศจีน, 27 คนในประเทศอียิปต์, 24
คนในประเทศอิหร่าน
รัฐบาลฮังการีจัดตั้งองค์กรสื่อจากฝ่ายการเมืองมีอำนาจในการเซ็นเซอร์การรายงานข่าว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
กีดกันไม่ให้สื่อหลายสำนักเข้าฟังการแถลงข่าวของทำเนียบขาวและเลือกเฉพาะสื่อบางสำนักในการเข้าทำเนียบขาวเท่านั้น
“ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ รัฐบาลทั่วโลก กำลังหาทางควบคุมสื่อ
หรือใช้อำนาจควบคุมข่าวสารที่จะส่งต่อถึงประชาชน
ในบางครั้งยิ่งเราพูดถึงเสรีภาพสื่อมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งฟังดูว่างเปล่ามากเท่านั้น” ฟรานเชสกา กล่าว
(จากไทยอีนิวส์ )