บทเรียนของการต่อสู้ที่เจ็บแสบ
โดย ชัยอุดม
การต่อสู้สงครามประชาชนถ้าไม่มีทฤษฏีชี้นำที่ถูกตัอง มีแนวทางที่ชัดเจนมีเป้าหมายที่แน่นอน มีพรรคนำที่เข้มแข็ง มีระเบียบวินัยในการจัดตั้ง มีความเสียสละ มีความเป็นเอกภาพมีแนวร่วมที่เข้มแข็งทั้งภายในและต่างประเทศ เมื่อปัจจัยต่างๆเหล่านี้ยังขาดคุณภาพการต่อสู้ก็ไม่สามารถดำเนินไปสู่เป้าหมายปลายทางได้ดังนั้นพรรคนำหรือขบวนการนำต้องศึกษาค้นคว้าและสรุปบทเรียน สมาชิกพรรคหรือแกนนำต้องมีการสำรวจตัวเองอยู่ตลอดเวลาต้องมีวินัย รู้จักการปิดลับเพื่อป้องกันการเข้าแทรกแซงจากฝ่ายศัตรู เช่นเข้าแทรกแล้วแย่งการนำ หรือเข้าแทรกแล้วทำลายเป็นต้น หรือฝ่ายศัตรูอาจส่งพวกสปายสายลับเข้ามาฝังตัวอยู่ในพรรคในขบวนการ ในหน่วยจัดตั้งเพื่อคอยรายงานลับและคอยชื้เป้าให้กับเจ้าหน้าที่
ดังนั้นการต่อสู้สงครามประชาชน หรึอการนำประชาชนปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมจากสังคมเผด็จการกษัตริย์เข้าสู่สังคมประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้นถือเป็นศาสตร์ของการต่อสู้( The Art of Revolution ) จำเป็นต้องใช้ทั้งวิชาความรู้ทุกอย่างจึงจะสามารถนำพาประชาชนไปสู่เป้าหมายปลายทางได้...
ถ้าการนำพาที่ผิดพลาด ขาดหลักวิชา ขาดประสบการณ์ ขาดความรู้ความชำนาน ผลลัพธ์แทนที่จะมีการก้าวหน้านำไปสู่ผลสำเร็จเป็นขั้นตอน แต่กลับพ่ายแพ้ถอยหลังพังทลายลงอย่างประเมินค่าไม่ได้ ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ประชาชนต้องล้มตาย ถูกกวาดล้าง ถูกจับขังคุกติดตรางไปเป็นจำนวนมาก รวมไปจนถึงองค์กรนำและพวกหัวหน้าแกนนำระดับสูง ...
นี่คือบทเรียนอันเจ็บแสบของการต่อสู้ที่ผิดพลาด จำเป็นต้องมีการศึกษาสรุปบทเรียนเพื่อการต่อสู้ต่อไปในอนาคต..
...............................................................................................................
"ท่านว่าผิดก็ผิด ชินซะแล้ว ไม่ว่าอะไร ติดคุกยุคนี้สมัยนี้เป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีซมากกว่า
แค่รอดูว่าเมื่อไหร่ยึดสนามบินจะโดน เสียหายมโหฬารมากกว่ากันร้อยเท่าพันเท่า จะโดนซัก 10-20 ปีไหม"
"กี้ร์ อริสมันต์"นอนคุก ศาลฎีกาไม่ให้ประกันคดีขวางประชุมอาเซียนปี52 ที่พัทยา
จากกรณีศาลจังหวัดพัทยาอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค2 พิพากษายืนให้จำคุกคนละ 4 ปี นายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.กับพวก รวม 13 คน ฐานบุกรุกเข้าไปก่อความวุ่นวาย การประชุมอาเซียน ซัมมิท ที่โรงแรมรอยัล คลิฟบีท เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 และจำเลยทั้งหมดได้ยื่นหลักท...
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก 4 ปี "อริสมันต์" พร้อมพวกรวม 13 คน กรณีนำม็อบบุกล้มการประชุมผู้นำอาเซียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 13 รายชื่อผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวมีดังนี้
นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง
นายนิสิต สินธุไพร
นายพายัพ ปั้นเกตุ
นายวรชัย เหมะ
นายวันชนะ เกิดดี
นายพิเชฐ สุขจินดาทอง
นายศักดิ์ดา นพสิทธิ์
พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์
นายนพพร นามเชียงใต้
นายสำเริง ประจำเรือ
นายสมยศ พรหมมา
นพ.วัลลภ ยังตรง และ
นายสิงทอง บัวชุ
ผม ณัฐวุฒิ อ.ธิดา คุณหมอเหวง ได้เยี่ยมจำเลยทั้ง 13 คน โดยได้เข้าเยี่ยมเมื่อสักครู่ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการของศาล และนัดทีมทนายความและนายประกันไปฟังคำสั่งว่าจะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้หรือไม่ ตั้งแต่เวลา 10 นาฬิกา ขณะนี้กำลังรอฟังผลอยู่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลครับ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar