James Walsky Magazine
โรนินประชาธิปไตยไทย ตอนที่ ๔๖
ตอน ทฤษฎี หม้อต้มกบ กับ กะลาแลนด์ท่าทางไปๆมาๆ ประเทศนี้ คงต้องอยู่กับสภาวะที่ยากลำบากแบบนี้และค่อยๆถดถอยลงไปเรื่อยๆแบบช้าๆ อีกยาวนาน เพราะลำพังขีดความสามารถของเผด็จการขุนศึกศักดินา หรือ ความสามารถในการกดขี่ ของเผด็จการยังไม่น่ากลัว เท่ากับ ความอึด ถึก อดและทน ของคนไทย
ปัจจัยสำคัญ ที่คงจะทำให้ ประเทศนี้
ต้องตกอยู่ในสภาวะเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มที่มีการปกครองล้าหลังทีสุดของ
โลกประเทศหนึ่งอีกยาวนานมาก ก็มาจากปัจจัยต่างๆดังนี้
๑. ความเป็นประเทศที่มีพื้นฐานเกษตรกรรมมายาวนาน
เนื่องด้วยเป็นประเทศเกษตรกรรมมาช้านาน ทำให้บ่มเพาะความอดทน อดกลั้น กับความไม่แน่นอนในอนาคตที่ฝากไว้กับ สภาพแวดล้อม ดินฟ้าอากาศ จึงต้องปรับตัว ปรับใจได้กับสภาวะต่างๆ
๒. ความที่เป็นประเทศที่พัฒนาทางเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง
เนื่องด้วยการพัฒนาประเทศมาอย่างต่อเนื่องจนมีสภาพที่มีผลผลิตส่วนเกินสะสม ไว้ในประเทศในระดับพอสมควร จึงเป็นการยากที่จะทำให้เกิดความล้มเหลวของการบริหารประเทศ จนส่งผลให้เกิดความอดอยาก ลำบากยากแค้นได้อย่างทันตา แต่แน่นอนสภาพเช่นนี้ถึงแม้จะไม่อดอยากแบบชัดเจน แต่ก็จะกลายเป็นประเทศไม่พัฒนาแบบนี้ไปอีกนาน
๓. ความที่เผด็จการทหารเรียนรู้ที่จะปกครองด้วยการสร้างวาทกรรม
เนื่องด้วย ประเทศนี้ใช้หลักคิด "เทวราชา"เป็นฐานความคิดในการปกครองมายาวนาน จึงคุ้นเคยกับการสร้างวาทกรรมรูปแบบต่างๆ ให้เกิดเป็นคตินิยมและความเชื่อ และด้วยวาทกรรมเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น ละคร นิทาน นิยาย เรื่องเล่าปรัมปรา ก็สามารถมอมเมา โดยสร้างความเชื่อให้มนุษย์ยอมจำนน ได้ดีกว่าอาวุธเสียอีก เพราะไปสร้างความเชื่อให้ยอมรับสภาพที่เป็นอยู่ในระดับ "สามัญสำนึก" เลย
๔. ความที่ประชาชนไม่เคยมีพรรคการเมืองตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง(ยกเว้น พคท.ในช่วงเวลาสั้นๆใน ปวศ.)
เนื่องด้วยการต่อสู้ทางการเมืองของประชาชนบนเวทีทางการเมืองที่ผ่านมา ประชาชนกลุ่มต่างๆไม่เคยมีองค์กร(ที่จัดตั้งจากประชาชนอย่างชัดเจน)ที่จะ เข้าสู่การไปมีอำนาจทางการเมือง พรรคการเมืองที่ผ่านมา ไม่มีความเชื่อมโยงที่ชัดเจนกับประชาชน ไม่มีโครงข่ายไปถึงประชาชน ที่มีอยู่ก็เป็นพิธีกรรมทางกฎหมายให้ก่อตัวเป็นพรรคการเมืองเท่านั้น และเป็นพรรคการเมืองที่มีข้อตกลง ประนีประนอมกับกลุ่มอำนาจเก่าทั้งสิ้น หรือ พูดให้ง่ายที่สุดก็คือ พรรคการเมืองของประชาชนไม่เคยมีมาก่อนใน ปวศ.(ยกเว้น พคท.)
๕. การใช้ทฤษฎี หม้อต้มกบ อย่างได้ผล
เนื่องด้วย การรัฐประหารในครั้งนี้ ฝ่ายคสช.และอำนาจเก่า ใช้แนวคิด การผ่อนหนัก ผ่อนเบา รู้จักผ่อนปรน ไม่หักพร้าด้วยเข่า แต่ใช้การปราม ตลอดเวลา ไม่พยายามสร้างเงื่อนไขขึ้นมาให้ประเด็นที่จะเสี่ยง เปรียบเสมือนการค่อยๆอุ่นน้ำในหม้อต้มกบ กบไม่รู้สึกอะไร เพราะน้ำค่อยๆอุ่นขึ้นมาช้าๆ ทีละน้อย ทีละน้อย กว่าจะรู้ตัวว่า น้ำร้อนเกินไป หนังที่ขาก็หลุดล่อน หมดแรงที่จะกระโดดออกมาได้แล้ว
เอวัง ด้วยประการละ ฉะนี้แล
หมายเหตุ : ก่อนหน้านี้ ผู้เขียนเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งนี้ต้องใช้เวลานาน และไม่น่าน้อยกว่า ๑๐ ปี แต่ตอนนี้ผู้เขียนชักหวั่นๆใจว่า สถิติการอยู่ในอำนาจแบบยาวนานที่เผด็จการทหารของพม่าทำไว้ ๕๓ ปี อาจเป็นเป้าหมายที่ฝ่ายอำนาจเก่าของไทยพยายามจะไปให้ถึงจริงๆเสียแล้ว
๑. ความเป็นประเทศที่มีพื้นฐานเกษตรกรรมมายาวนาน
เนื่องด้วยเป็นประเทศเกษตรกรรมมาช้านาน ทำให้บ่มเพาะความอดทน อดกลั้น กับความไม่แน่นอนในอนาคตที่ฝากไว้กับ สภาพแวดล้อม ดินฟ้าอากาศ จึงต้องปรับตัว ปรับใจได้กับสภาวะต่างๆ
๒. ความที่เป็นประเทศที่พัฒนาทางเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง
เนื่องด้วยการพัฒนาประเทศมาอย่างต่อเนื่องจนมีสภาพที่มีผลผลิตส่วนเกินสะสม ไว้ในประเทศในระดับพอสมควร จึงเป็นการยากที่จะทำให้เกิดความล้มเหลวของการบริหารประเทศ จนส่งผลให้เกิดความอดอยาก ลำบากยากแค้นได้อย่างทันตา แต่แน่นอนสภาพเช่นนี้ถึงแม้จะไม่อดอยากแบบชัดเจน แต่ก็จะกลายเป็นประเทศไม่พัฒนาแบบนี้ไปอีกนาน
๓. ความที่เผด็จการทหารเรียนรู้ที่จะปกครองด้วยการสร้างวาทกรรม
เนื่องด้วย ประเทศนี้ใช้หลักคิด "เทวราชา"เป็นฐานความคิดในการปกครองมายาวนาน จึงคุ้นเคยกับการสร้างวาทกรรมรูปแบบต่างๆ ให้เกิดเป็นคตินิยมและความเชื่อ และด้วยวาทกรรมเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น ละคร นิทาน นิยาย เรื่องเล่าปรัมปรา ก็สามารถมอมเมา โดยสร้างความเชื่อให้มนุษย์ยอมจำนน ได้ดีกว่าอาวุธเสียอีก เพราะไปสร้างความเชื่อให้ยอมรับสภาพที่เป็นอยู่ในระดับ "สามัญสำนึก" เลย
๔. ความที่ประชาชนไม่เคยมีพรรคการเมืองตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง(ยกเว้น พคท.ในช่วงเวลาสั้นๆใน ปวศ.)
เนื่องด้วยการต่อสู้ทางการเมืองของประชาชนบนเวทีทางการเมืองที่ผ่านมา ประชาชนกลุ่มต่างๆไม่เคยมีองค์กร(ที่จัดตั้งจากประชาชนอย่างชัดเจน)ที่จะ เข้าสู่การไปมีอำนาจทางการเมือง พรรคการเมืองที่ผ่านมา ไม่มีความเชื่อมโยงที่ชัดเจนกับประชาชน ไม่มีโครงข่ายไปถึงประชาชน ที่มีอยู่ก็เป็นพิธีกรรมทางกฎหมายให้ก่อตัวเป็นพรรคการเมืองเท่านั้น และเป็นพรรคการเมืองที่มีข้อตกลง ประนีประนอมกับกลุ่มอำนาจเก่าทั้งสิ้น หรือ พูดให้ง่ายที่สุดก็คือ พรรคการเมืองของประชาชนไม่เคยมีมาก่อนใน ปวศ.(ยกเว้น พคท.)
๕. การใช้ทฤษฎี หม้อต้มกบ อย่างได้ผล
เนื่องด้วย การรัฐประหารในครั้งนี้ ฝ่ายคสช.และอำนาจเก่า ใช้แนวคิด การผ่อนหนัก ผ่อนเบา รู้จักผ่อนปรน ไม่หักพร้าด้วยเข่า แต่ใช้การปราม ตลอดเวลา ไม่พยายามสร้างเงื่อนไขขึ้นมาให้ประเด็นที่จะเสี่ยง เปรียบเสมือนการค่อยๆอุ่นน้ำในหม้อต้มกบ กบไม่รู้สึกอะไร เพราะน้ำค่อยๆอุ่นขึ้นมาช้าๆ ทีละน้อย ทีละน้อย กว่าจะรู้ตัวว่า น้ำร้อนเกินไป หนังที่ขาก็หลุดล่อน หมดแรงที่จะกระโดดออกมาได้แล้ว
เอวัง ด้วยประการละ ฉะนี้แล
หมายเหตุ : ก่อนหน้านี้ ผู้เขียนเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งนี้ต้องใช้เวลานาน และไม่น่าน้อยกว่า ๑๐ ปี แต่ตอนนี้ผู้เขียนชักหวั่นๆใจว่า สถิติการอยู่ในอำนาจแบบยาวนานที่เผด็จการทหารของพม่าทำไว้ ๕๓ ปี อาจเป็นเป้าหมายที่ฝ่ายอำนาจเก่าของไทยพยายามจะไปให้ถึงจริงๆเสียแล้ว
ก่อนหน้านี้ ผู้เขียนเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งนี้ต้องใช้เวลานาน และไม่น่าน้อยกว่า ๑๐ ปี
แต่ตอนนี้ผู้เขียนชักหวั่นๆใจว่า สถิติการอยู่ในอำนาจแบบยาวนานที่เผด็จการทหารของพม่าทำไว้ ๕๓ ปี อาจเป็นเป้าหมายที่ฝ่ายอำนาจเก่าของไทยพยายามจะไปให้ถึงจริงๆเสียแล้ว
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar