ก้าวไม่พ้น”แม้ว”
ใบตองแห้ง
ไชโย “จารย์แก้วสรร อติโพธิ กลับมาแล้ว เขียนบทความถามเองตอบเองเรื่อง “คดีหุ้นชินคอร์ปชินวัตรภาคแอมเพิลริช” คิดถึงจัง คนเคยรักกัน หายไปไหนตั้งนาน ถ้าไม่มีคดีภาษีทักษิณ คงไม่เห็น”จารย์แก้วกลับมาอยู่ในโฟกัส
น่าทึ่งไหม 10 กว่าปีผ่านไป ทักษิณยัง “กินได้” ยังขายได้ ทั้งคนเกลียดคนรัก ทั้งที่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ วางโครงสร้างอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ต่อให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ก็ไม่มีทางได้เป็นรัฐบาล แต่คนที่เกลียดกลัวทักษิณ ก็ยังอยากเอาให้ตาย
อ๊ะอ๊ะ ไม่ได้ว่า “จารย์แก้วเขียนผิดเขียนถูก เห็นต่างไม่เป็นไร แต่ดูบรรยากาศวันนี้เห็นด้วยไหม คนไทยกลับไปอยู่ในกระแสรักเกลียดทักษิณอีกแล้ว มันไม่ใช่การถกเถียงด้วยเหตุผลทางกฎหมายซักหน่อย มันแค่ใครเกลียดทักกี้ก็เห็นด้วยกับการใช้ “อภินิหารทางกฎหมาย” เท่านั้นเอง
Miracle Thakkie จริงๆ นะ ขนาด คสช. “ปรองดอง” ก็ยังมีคนจับจ้อง จะเกี้ยเซี้ยทักษิณหรือเปล่า แค่มีข่าวอนุทิน ชาญวีรกูล เป็น “โซ่ข้อกลาง” ก็ยังสกัดดาวรุ่ง แฉว่าเคยพาบิ๊กบังไปหาทักษิณที่ดูไบ
เลิกพูดไปเลย คำว่า “ก้าวข้ามทักษิณ” ต่อให้ทักษิณ เป็นมะเร็งตาย ตราบใดที่ตระกูลชินวัตรไม่อพยพออกจากประเทศไทย ก็ยังเกลียดกลัวกันได้อีกร้อยปี
พูดอย่างนี้ต้องมีคนย้อนถาม อ้าว แล้วไอ้พวกนักประชาธิปไตยล่ะ ก้าวข้ามทักษิณหรือยัง ก้าวไม่ข้ามหรอกครับ ตราบใดที่ยังปลุกผีกันอยู่
ขี้เกียจพูดครั้งที่ล้าน ว่าคนรักประชาธิปไตยส่วนใหญ่ก็คัดค้านทักษิณอำนาจนิยมมาทั้งนั้น แค่ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหารตุลาการภิวัตน์ ตอนแรกก็เป็นฝ่าย “สองไม่เอา” แต่สุดท้ายไม่มีที่ยืน เพราะใครคัดค้านการใช้อำนาจทำลายประชาธิปไตย ทำลายหลักนิติรัฐ ถูกผลักเป็นพวกทักษิณเสียหมด
แต่ทักษิณก็ยังเป็นทักษิณ คือเป็นอะไรได้ทุกอย่าง เป็นไม่ได้อย่างเดียว นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทักษิณจึงกดปุ่ม delete ตัวเองด้วย “นิรโทษสุดซอย ลักหลับตอนตีสี่”
ทักษิณเสื่อมตั้งแต่วันนั้นแล้วครับ พรรคเพื่อไทยก็เสื่อม เพียงแต่อีกฝ่ายเสื่อมกว่า ปิดเมืองปิดสถานที่ราชการขัดขวางเลือกตั้ง กระทั่งเกิดรัฐประหาร ใช้อำนาจเข้มข้นบังคับสังคมอยู่ในความสงบ กลายเป็นความขัดแย้งใหม่ เป็นปัญหาเฉพาะหน้า ที่ทำให้ “ความผิด” ของทักษิณ เพื่อไทย ถูกละไว้ชั่วคราว ประกอบกับบทบาทในการเรียกร้องประชาธิปไตยเปลี่ยนมาอยู่ที่นักศึกษา นักวิชาการ ไม่ใช่พรรคการเมือง (มวลชนส่วนหนึ่งยังบ่นว่าทักกี้ไม่สู้ด้วยซ้ำไป)
แต่เมื่อไหร่มีการเลือกตั้ง พรรคการเมืองกลับมามีบทบาท ถามว่าจะยังไว้วางใจพรรคเพื่อไทยกันอยู่ไหม ไม่แล้วครับ ถ้าจะสู้ร่วมกันต่อไป พรรคเพื่อไทยก็ต้องปฏิรูปครั้งใหญ่ ใครจะไว้วางใจพรรคการเมืองที่คนคนเดียวโทร.สั่งซ้ายหันขวาหันได้ตอนตีสี่ แล้วคนคนนั้นก็ไม่เคยเลิกนิสัยสู้ไป ดีลไป โดนแค่ไหนก็ไม่เคยเข็ด ยังพร้อมจะต่อรองเสมอ
แล้วถามจริง พรรคเพื่อไทยปฏิรูปได้ไหม อมพระมาพูดก็เชื่อไม่ได้ ตั้งพรรคใหม่เริ่มต้นจากศูนย์ซะยังดีกว่า เพียงแต่ต้องหาจังหวะ สมมติเช่น พรรคเพื่อไทย “ปรองดอง” กับทหารเมื่อไหร่ พรรคใหม่ก็เกิดได้ทันที
แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้เป็นนิยายครับ เป็นเรื่องในจินตนาการของนักอุดมคติที่เป็นไปไม่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ต่างจากความเพ้อฝันว่าสักวัน เหลืองแดงจะรวมกันได้ ในโลกแห่งความเป็นจริงคือชาติหน้าตอนบ่ายๆ (พูดแบบคนไม่เชื่อว่ามีชาติหน้าเสียด้วย)
ในโลกแห่งความเป็นจริง ประวัติศาสตร์ก็ยังซ้ำรอย ทักษิณอำนาจนิยม ถูกโค่นล้มด้วยรัฐประหาร ถูกกระทำอย่างไม่ยุติธรรม เรียกความเห็นใจจากมวลชนที่ได้ประโยชน์จากนโยบายประชานิยม ขณะที่คนอีกฝ่ายเกลียดจนคลุ้มคลั่ง ชนะเลือกตั้ง ก็ถูกม็อบยึดทำเนียบยึดสนามบินขับไล่ ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ผิดคนเดียวตายยกเข่ง ฯลฯ
ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน ทักษิณสุดซอย ถูกไล่ด้วยม็อบสุดโต่ง เกิดรัฐประหาร ยิ่งลักษณ์ถูกดำเนินคดี ถูกเรียกค่าเสียหาย 3.5 หมื่นล้าน เดินสายถ่ายเซลฟีกับชาวบ้าน เกิดอภินิหารทางกฎหมายย้อนเก็บภาษี 1.2 หมื่นล้าน ขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญยิ่งถอยหลัง ไม่เหลือความเป็นประชาธิปไตย
เลิกพูดเรื่องก้าวข้ามไปเลย ปลงเสียเถอะ เวียนว่ายตายเกิดอยู่กับทักกี้นี่แหละ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar