พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
ตระกูลชินวัตรแล ะพรรคเพื่อไทยรู ้ตัวล่วงหน้ามาน านพอสมควรแล้วว่ า จะมีรัฐประหาร และแนวทางของเขา คือ จะไม่ขัดขืน แต่จะหาทางต่อรอ งให้ตนเองเสียหา ยน้อยที่สุด เขาจึงปล่อยให้ส ถานการณ์ความวุ่ นวายไหลไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้คิดสู้ เลย ยอมยุบสภาโดยดี ไม่ปกป้องตำรวจ ไม่ปะทะกับม็อบก ปปส. ไม่ปกป้องการเลื อกตั้ง 2 ก.พ.57 และยิ่งลักษณ์ไม ่ขัดขืนปปช.และศ าลรธน. จนถูกถอดถอน
แล้วก็สำเร็จเป็ น "ซุปเปอร์ดีลรอบ สอง" (รอบแรกคือ "เหมาเข่ง") คือ รัฐประหาร 22 พ.ค.57 ที่ตระกูลชินวัต รและพรรคเพื่อไท ยนอกจากจะไม่ต่อ ต้านแล้ว ก็ยัง "คุมเสื้อแดงให้ อยู่นิ่ง ๆ" และลอยแพกลุ่มที ่ทหารเชื่อว่า เป็น "พวกล้มเจ้า" ขณะที่ฝ่ายทหารก ็ "ไม่ทำอะไร" ตระกูลชินวัตร ไม่มีจับกุม ไม่มี คตส. ไม่มีอายัดทรัพย ์
ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายรักษ า "ดีล" ไว้ได้ดีพอสมควร ทักษิณย้ำตรง ๆ หลายครั้ง "ขอเสื้อแดงให้ค วามร่วมมือกับคส ช." ตระกูลชินวัตร พรรคเพื่อไทยและ เสื้อแดงในสังกั ดแทบไม่มีความเส ียหายเลย พวกที่ถูกหาว่า "ล้มเจ้า" ถูกกดดันอย่างหน ัก ถ้าไม่โดน ม.112 หรือคดีอื่น ๆ จนติดคุก ก็ต้องหลบหนีไปต ่างประเทศ ขณะที่ฝ่ายทหารก ็ "ปล่อย" ตระกูลชินวัตร แล้วยังเตะถ่วงค วามพยายามภายใน สนช.ที่จะเล่นงา นยิ่งลักษณ์และน ักการเมืองพรรคเ พื่อไทย รวมทั้งทหารก็วา งตัว "ไม่ยุ่งเกี่ยว" กับองค์กรอิสระข อง "ป๋า" ที่พยายามจะเล่น งานยิ่งลักษณ์ใน คดีต่าง ๆ ให้ได้
"ฝันหวาน" ของตระกูลชินวัต รก็คือ "รอเวลา" อย่างที่ทักษิณบ อกไว้ชัด รอ "ฟ้าเปลี่ยนสี พระอาทิตย์ขึ้น แล้วก็พระอาทิตย ์ตก แล้วก็พระอาทิตย ์ขึ้นอีก ฯลฯ" หลังจากนั้น ก็จะมีการนิรโทษ กรรม "เหมาเข่ง" อีกรอบ (ซึ่งทักษิณเชื่ อว่า ถึงเวลานั้น ก็แทบจะไม่มีใคร ออกมาต่อต้านแล้ ว) มีรัฐธรรมนูญฉบั บใหม่ (ซึ่งจะ "หัวคูณ" สักแค่ไหน ก็รับได้ ค่อยไปแก้ไขกันท ีหลัง) แล้วก็มีการเลือ กตั้ง ซึ่งพรรคเพื่อไท ยก็จะลงเลือก
ตั้ ง ชนะกลับมาเป็นรั ฐบาลอีกครั้ง และนี่ก็เป็น "ฝันหวานของเสื้ อแดงที่เหนียวแน ่นกับพรรคเพื่อไ ทย" จำนวนมากด้วย
ผมเชื่อว่า "ฝันหวาน" ทั้งหมดนี้ จะกลายเป็นแค่ "ฝันเปียก" ของพวกเขาในที่ส ุด แต่จะเป็น "ฝันร้าย" ของประชาชนที่ต้ องการประชาธิปไต ย
แล้วก็สำเร็จเป็
ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายรักษ
"ฝันหวาน" ของตระกูลชินวัต
ตั้
ผมเชื่อว่า "ฝันหวาน" ทั้งหมดนี้ จะกลายเป็นแค่ "ฝันเปียก" ของพวกเขาในที่ส
Somsak Jeamteerasakul
ผมแชร์กระทู้นี้ ของ ดร. พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ มาให้ดูกัน เพราะเห็นว่า น่าสนใจมาก แม้ว่า ผมยังอาจจะลังเล ไม่แน่ใจในบางส่ วนที่ ดร.พิชิต เขียน ที่สำคัญคือเรื่ อง "ดีล" คือก่อนอื่น ผมอยากเสนอว่า เวลาเราพูดเรื่อ ง "ดีล" ในหมู่ "อีลีต" ทั้งหลาย ตามที่ผมเข้าใจแ ละติดตามการเมือ งไทยนะ มันไม่ใช่มีลักษ ณะเป็นข้อตกลงชน ิดลายลักษณ์อักษ ร มีข้อกำหนด เงื่อนไข แบบเป๊ะๆ ชัดๆ อะไรแบบชัด คือมันมีลักษณะ "พูดคุยต้าอ่วย" แล้วก็เหมือนเป็ น "ความเข้าใจกันน ะ" ว่า เทอว์จะทำแบบนี้ ฉันจะทำแบบนี้ (อย่างแม้การ "เจรจา" หรือ "ดีล" ที่บรูไน ในปลายปี 52 ก็น่าจะมีลักษณะ นี้)
ทีนี้ ประการต่อมา จะมีการ "พูดคุยต้าอ่วย" ระหว่างฝ่ายทักษ ิณกับฝ่ายประยุท ธ (ที่พิชิตเรียกว ่า "ดีล") ตามที่บรรยายมาห รือไม่ อันนี้ ผมไม่ทราบจริงๆ ไม่มีข่าวกรองอะ ไรทั้งสิ้น (การ "ดีล" หรือ พูดคุยปลายปี 52 ผมมารู้ข่าวกรอง ทีหลัง แต่ก่อนที่อีตาอ ะไรไปเปิดที่ นสพ.เอเชียไทม์)
แต่อย่างหนึ่งที ่ผมมีข้อสรุปตรง กับที่พิชิตว่า (แม้จะไม่สามารถ ยืนยันว่ามาจาก "ดีล") คือ ทักษิณ "ปล่อยเกียร์ว่า ง" ไม่ต้าน คสช แน่ๆ และนี่เป็นเหตุผ ลแท้จริง ทีทำไม ฝ่ายเพื่อไทย-นป ช จึงเงียบสนิท ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา คือไมใช่เพราะทำ อะไรไม่ได้แน่ๆ (ที่ผมเขียนในกร ะทู้ก่อนหน้านี้ น่ะ เพียงแต่ผมหยุดแ ค่ว่า เกียร์ว่าง แต่ทำไม ผมไม่ได้เขียน เพราะไ่ม่มีข้อม ูล แต่เกียร์ว่างนี ่แน่ ผมไม่เพียงแต่สั งเกต วิเคราะห์แต่มีข ้อมูลด้วยว่าเกี ยร์ว่างจริงๆ) รวมถึงเป็นเหตุท ี่ทำไม "เสรีไทย" จึงเป็นแค่เท่าท ี่เห็น คืออกมาฮือฮาเล็ กน้อยตอนแรกๆ แล้วเงียบไป ... (กรณีเสรีไทย ผมเข้าใจว่า ไมใช่ว่าเพราะคน ที่ทำเสรีไทย ยอมทำตามเกียร์ว ่าง มากเท่ากับว่า เพราะไม่ได้รับก ารสนับสนุนให้ทำ อะไร เมื่อไม่ได้รับก ารสนับสนุนมากมา ยอะไร ก็เลยเงียบๆอย่า งทีเห็น เพราะได้แค่นั้น คือถ้าทักษิณไม่ เกียร์ว่าง และหนุนมากกว่าน ั้น ผมเข้าใจว่า คนที่เกี่ยวข้อง กับเสรีไทยคงทำอ ะไรออกมามากกว่า นั้นแล้ว)
............... .
มีอีกเรื่องที่ผ มว่าน่าสนใจจากก ระทู้ พิชิต ซึ่งเป็นประเด็น ที่ผมสนใจมานาน คือ ในคอมเม้นท์ท้าย กระทู้ มีสุภาพสตรีท่าน หนึ่ง เขียนแสดงความเห ็น ที่ผมวา่น่าสนใจ คือ คนเสื้อแดงจำนวน มากที่เชียร์ทัก ษิณ เชียร์พรรค จะมีลักษณะนี้กั นเยอะ คือด้านหนึ่ง จะปฏิเสธ เสียงแข็งว่า พวกเขาหรือเธอ "ก้าวพ้นทักษิณ" แล้ว (มิหนำซ้ำ มักจะกล่าวหาคนว ิจารณ์ทักษิณ อย่างกรณีนี้ว่า "ก้าวไม่พ้นทักษ ิณเสียที" อีก!) แต่หลังจากประกา ศการ "ก้าวพ้นทักษิณ" ทักษิณ แล้ว ก็มักจะบรรยายต่ ่อไปถึงความรู้ส ึกเป็นหนี้บุญคุ ณ คุณงามความดีของ ทักษิณ .. ซึ่งเอาเข้าจริง (ในความเห็นของผ ม - พวกเขาต้องแย้งแ น่ๆ) สะท้อนให้เห็นชั ดๆเลยว่า ไม่ได้ "ก้าวพ้นทักษิณ" เลยแม้แต่น้อย! ผมยกความเห็นมาใ ห้ดูท้ายกระทู้ข องผมนี้นะครับ ลองอ่านกันดู (ขออภัยท่านเจ้า ของความเห็น ผมยกมาเพื่อเป็น "ตัวอย่าง" เท่านั้น ไม่ได้ต้องการวิ จารณ์เป็นตัวบุค คลผู้แสดงความเห ็น ผมเลยขอยืมชื่อ "มิตรสหายท่านหน ึ่ง" มาใช้ด้วยนะครับ )
เมื่อวาน ผมเพิ่งคุยกับเพ ื่อนคนหนึ่งถึงป ระเด็นนี้ เรื่องที่ มันเหมือนเป็นวั ฒนธรรมในเชิง dependency (การขึ้นต่อ) ของคนไทย คือ พอ "หลุด" ("ตาสว่าง") จากเจ้า ก็ยังมีลักษณะ "อิง" (dependent) ในเชิงอารมณ์ควา มรู้สึกนึกคิด หรืออุดมการณ์กั บอีกฝ่าย เหมือนแค่่ "ย้าย" ลักษณะ "ขึ้นต่อ" นี้จากคนหนึ่งมา อีกคนหนึ่งเท่าน ั้น ... เรืองนี้ยังต้อง พูดกันอีกยาว ก่อนรัฐประหาร ผมเคยเถียงกับเพ ื่อนท่านหนึ่งอย ่างรุนแรงเรืองน ี้ เขาไม่พอใจทีผมว ิจารณ์ว่า ความสัมพันธ์ระห ว่างมวลชนเสื้อแ ดงส่วนใหญ่กับนั กการเมืองของตนม ีลักษณะ unhealthy หรือ "สุขภาพไม่ดี" (เทียบแล้วสู้ฝั ่งเสื้อเหลืองไม ่ได้ ที่สัมพันธ์กับน ักการเมือง ไม่มีลักษณะนี้ แต่เพราะพวกนั้น มีความสัมพันธ์แ บบ unhealthy กับเจ้าแล้ว)
มิตรสหายท่านหนึ ่ง ".... ทำไมอาจารย์ข้าม ไม่พ้นตระกูลชิน วัตรคะ และความคิดของอา จารย์ก็พยายามยั ดเยียดให้คนเสื้ อแดงที่เขาศรัทธ าคุณทักษินให้เส ียความรู้สึกคะ คนเสื้อแดงส่วนใ หญ่เขาก้าวข้ามผ ่านตัวตนคุณทักษ ินมานานแล้วสิ่ง ที่เขายังยึดมั่ นและคงอยู่ตลอดไ ปคือนโยบายของท่ านที่เห็นเป็นรู ปธรรมต่างหากเล่ าคะ คนด้อยโอกาศทุกช นชั้นได้รับอานิ สงฆ์กันถ้วนหน้า หรืออาจารย์จะปฏ ิเสธว่าไม่จริงค ะ อาจารย์ลืมความจ ริงไปหรือเปล่าศ รัทธากลั่นมาจาก หัวใจค่ะต่อให้ไ ม่มีพรรคเพื่อไท ยตระกูลชินวัตรไ ม่ได้เล่นการเมื องเราก็ไม่มีวัน ลืมท่านค่ะ..."
ทีนี้ ประการต่อมา จะมีการ "พูดคุยต้าอ่วย"
แต่อย่างหนึ่งที
...............
มีอีกเรื่องที่ผ
เมื่อวาน ผมเพิ่งคุยกับเพ
มิตรสหายท่านหนึ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar