โพลลุงตู่แพ้ทักษิณ? :คอลัมน์ ใบตองแห้ง
นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้าน่าปรับทัศนคติจริงๆ ทำโพลยังไงก้าวไม่ข้ามทักษิณ ดันบอกเป็นนายกฯ ที่ประชาชนเชื่อมั่นสูงสุดในรอบ 15 ปี ลุงตู่อุตส่าห์ทำความดีโพลยังเชื่อมั่นน้อยกว่าคนทำผิด
ไม่ใช่ผิดแค่คนเดียว ผิดทั้งโคตรอีกต่างหาก จาก “ปู” ถึง โอ๊ค” ได้รับแคชเชียร์เช็คแล้วส่งคืนยังจะผิดฐานฟอกเงิน นี่ยังสงสัยว่าอีกยี่สิบปี หลานฝาแฝดโตมา คงทำอะไรผิดสักอย่าง
ไม่เหมือนหลานใครบางคน ได้เข้ารับราชการทหารยังมีหิริโอตตัปปะ ขอลาออกไปเรียนเมืองนอกดีกว่า
อันที่จริงถ้าอ่านเนื้อข่าวไม่อ่านแค่พาดหัวก็จะเข้าใจ ว่า ทักกี้ได้คะแนนนิยม 92.9% เมื่อปี 2546 ไม่ใช่ยุคนี้สมัยนี้ ซึ่งลุงตู่ครองความนิยม 87.5% เมื่อปี 2558 แม้เป็นอันดับสองในรอบ 15 ปี แต่บริบทต่างกัน จะเอามาเทียบแล้วบอกลุงตู่ได้ที่สอง ก็ไม่ยุติธรรม ยุคนั้นสมัยนั้น ทักษิณได้ใจคนล้นหลาม จากนโยบายกองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค ยุคนี้สมัยนี้ ลุงตู่ได้ใจคนล้นเหลือจาก ม.44 ที่ใช้แล้วเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แถมไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
แต่ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน ก็สงสารประชาธิปัตย์ ความนิยมต่ำสุด รองจาก NGO และพรรคเพื่อไทย “ติ่ง มัลลิกา” ออกมาโวยวาย สถานการณ์ไม่เหมือนกัน โถ ก็แพ้ทุกสถานการณ์ ยุคทักษิณก็แพ้ ยุคยิ่งลักษณ์ก็แพ้ ยุคลุงตู่ยิ่งไปใหญ่ แฟนคลับแมลงสาบเทใจให้ทหารหมด
ติ่ง มัลลิกา นี่ชอบพูดอะไรไม่ระวัง วันก่อนก็ย้อน “แม้วแต็สกิเยอ” ว่า “ไม่มีความเลวร้ายใดจะเลวร้ายไปกว่าที่ใช้สภาออกกฎหมายนิรโทษกรรมล้างความผิดให้ตัวเอง” แหม่ คนยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญแล้วนิรโทษกรรมล้างความผิดให้ตัวเองสะดุ้งเฮือก ไม่รู้อะไรเลวร้ายกว่า
กระนั้นถ้าตั้งข้อสังเกตกันจริงๆ โพลสถาบันพระปกเกล้าก็มีอะไรประหลาด เช่น ความพึงพอใจต่อนโยบายรัฐบาลปัจจุบัน มีทั้งเบี้ยผู้สูงอายุ บัตรทอง ซึ่งไม่ใช่ของรัฐบาลนี้ซักหน่อย รัฐบาลกำลังจะแก้กฎหมายบัตรทอง จะแจกเหรียญตราให้ผู้ไม่รับเบี้ยเสียด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่ยักถามนโยบายผูกโบ เช่น บัตรคนจน แจกที่ดินคนจน พร้อมเสาไฟฟ้า น้ำประปา และผักชี
โพลไม่ยักเผยคะแนนนิยมรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ แต่บอกว่าเป็นยุคที่ความเชื่อมั่นทหารต่ำสุด แล้วมาสูงสุดในยุค พล.อ.ประยุทธ์ นี่ก็ประหลาด พล.อ.สุรยุทธ์เป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว ไม่เคยผรุสวาทนักข่าว ไม่ระบายอารมณ์ฉุนเฉียว ไอ้เอี้ยไอ้อ่าใส่ใคร โพลซาดิสต์หรือไง
ทหารยุค พล.อ.สุรยุทธ์ก็ไม่เคยตรวจค้นจับกุมโดยไม่มีหมายจับหมายค้น ไม่เอาพลเรือนขึ้นศาลทหาร นักวิชาการไม่ต้องชูป้าย “มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร” “เวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหาร” แล้วถูกดำเนินคดี แต่กลับเป็นยุคที่ทหารได้รับความเชื่อมั่นต่ำสุด เป็นไปได้ไง
โพลยุคอภิสิทธิ์ได้คะแนนสูงสุดปี 53 โห นั่นมันปีใช้ “กระสุนจริง” 99 ศพ ที่ศาลยุติธรรมเพิ่งยกฟ้องไป ก็อาจเป็นได้เพราะชาวกรุงร่วมแรงร่วมใจ “บิ๊กคลีนนิ่ง” อย่างนี้อาจ มองมุมใหม่ว่าปี 46 ที่ทักษิณได้คะแนนสูงสุด อาจเป็นเพราะ “ฆ่าตัดตอน” ก็เป็นได้
พูดไปทำไมมี สมัยนั้นทั้งคนชั้นล่างคนชั้นกลางชาวกรุงก็นิยมทักษิณ เชียร์ฆ่าตัดตอน องค์กรสิทธิมนุษยชนวิพากษ์วิจารณ์ก็โดนด่าขรม UN เป็นพ่อหรือไง เพียงแต่อยู่ๆ คนชั้นกลางผิดหวังก็พลิกมาไล่ทักษิณ โดยยังชอบอำนาจนิยม เข้ารกเข้าพงด้านกระบวนการยุติธรรมยิ่งกว่าเดิม
เคยสังเกตไหม ทักษิณ 92.9% กับลุงตู่ 87.5% มีอะไรเหมือนกัน ไม่ใช่แค่นโยบายเศรษฐกิจที่ล้อกันว่า “ทักษิณคิด ประยุทธ์ทำ” แต่มองย้อนหลัง 30 ปี หลังป๋าเปรม มีแต่ทักษิณกับลุงตู่ที่เป็นรัฐบาลเข้มแข็ง มีอำนาจมาก ใช้อำนาจมาก (พูดก็มาก) และทำให้คนจำนวนมากเชื่อมั่นว่าอำนาจเป็นปึกแผ่นจะนำประเทศรุ่งเรือง เศรษฐกิจดี
เพียงต่างกันที่ทักษิณมีอำนาจจากเลือกตั้ง พยายามทำให้อำนาจการเมืองเข้มแข็ง ลุงตู่มีอำนาจจาก ม.44 พยายามทำให้รัฐราชการทหารตำรวจเข้มแข็ง
ทักษิณอยู่ได้ 5 ปี ลุงตู่เพิ่ง 3 ปีกว่า ถ้าปีหน้า 61 ไม่มีเลือกตั้งก็พอดีเลย อ๊ะอ๊ะ ไม่ใช่โดนไล่พอดี ไม่ได้แช่ง ลุงตู่มาในสถานการณ์พิเศษ ก็ได้คะแนนนิยมแบบพิเศษ ประเทศนี้อยู่ในช่วงที่ชอบให้คนทำรัฐประหารมาปลูกฝังประชาธิปไตย ชอบให้มีใครซักคนมาทำตัวเป็นญาติผู้ใหญ่ ดุด่าพร่ำสอนออกวิทยุทีวี ทั้งที่ตัวเองไม่ฟัง
อารมณ์สังคมแบบนี้ยังไปได้เรื่อยๆ เพียงแต่มันไม่มีหลักการเหตุผลความแน่นอนอะไรเลย เท่านั้นเอง
(หน้า 6)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar