onsdag 17 januari 2018

ประเทศต้มกบ :คอลัมน์ ใบตองแห้ง (อัพเดท)



ประเทศต้มกบ
ใบตองแห้ง

ปี 2565 คนไทยจะหายจน จะมีหอชมเมืองทุกจังหวัด แล้วปี 2577 จะเป็นเจ้าภาพจัดบอลโลก
แหม่ เพิ่งครบ 20 ปี “ต้มยำกุ้ง” ไปหลัดๆ ก็ได้วาดฝันกันแล้วนะครับ เราจะก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่กำกับโดยรัฐราชการ จะบรรลุเป้าหมายทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจดิจิตอล ปัญญาประดิษฐ์ ก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง แถมประชารัฐลดเหลื่อมล้ำ ปกปักรักษาความมั่นคง เอกลักษณ์ชาติ และความเป็นไทย
ถ้าคนไทยหายจนได้ ก็ดีใจจริงๆ นะ จะได้ไม่ต้องแย่งกันออกรายการเรียลลิตี้โชว์ ประกวดร้องเพลง ประกวดเล่าทุกข์ ให้ดาราเซเลบค่าตัวแพงคอยปลอบโยน ร้องห่มร้องไห้ ได้ค่าโฆษณาเป็นล่ำเป็นสัน
ถ้าคนไทยหายจน เราก็ไม่ต้องทะเลาะกันเรื่องบัตรทอง ยกเลิก “30 บาท” มรดกทักษิณ บังคับให้ “ร่วมจ่าย” กันแบบสบายๆ
แต่รายการนี้ ฝันจะเป็นจริงไหม ก็ยังมองต่างกัน 2 มุม เพราะ 20 ปีต้มยำกุ้ง นักเศรษฐศาสตร์ นักธุรกิจ พูดเป็นเสียงเดียว ไม่ต้องกลัวจะเกิดวิกฤตฟองสบู่แตก เหยียบสบู่ล้มหัวคะมำ แต่กลัวเศรษฐกิจจะโตต่ำ ซึมยาว ติดกับดักลึกลงไปอีกต่างหาก
อย่าง อ.อภิชาต สถิตนิรามัย ก็เกรงว่าจะกลายเป็นเศรษฐกิจกบต้ม อธิบายง่ายๆ คือเหมือนกบในหม้อต้ม ที่น้ำร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่กบเป็นสัตว์เลือดเย็นจึงไม่รู้ตัว จนน้ำเดือด จึงตายไม่รู้ตัว
เศรษฐกิจไทยโตช้ามานับสิบปี 3 ปีที่ผ่านมายิ่งโตช้ามาก ปีละ 2-3% พูดอย่างนี้ไม่ใช่บูชา GDP เป็นพระเจ้า ถ้าโตต่ำไม่เหลื่อมล้ำยังพอทำเนา แต่เศรษฐกิจเรา บรรยง พงษ์พานิช เคยชี้ให้เห็นชัดๆ ยิ่งโตต่ำยิ่งเหลื่อมล้ำ การที่ GDP โตแค่ 3% ขณะที่บริษัทในตลาดหุ้นกำไรเพิ่ม 30% มันแปลว่าชาวบ้านทั่วไปติดลบ คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนยิ่งจนลง กลัวจะเกิดวิกฤตสังคมขั้นรุนแรง
แล้ววันนี้ ขณะที่รัฐพยายามตีปี๊บว่าตัวเลขส่งออกดีขึ้น การใช้จ่ายกระเตื้องขึ้น ตัวเลขอีกด้านก็ชี้ว่าการลงทุนภาคเอกชนยังต่ำ ซ้ำภาคธุรกิจไทยยังแห่ไปลงทุนเมืองนอก แค่ 5 เดือนเงินไหลออก 3.5 แสนล้าน

ไทยแลนด์ 4.0 คือความพยายามของรัฐบาลที่จะพาคนไทยโดดออกจากหม้อต้มกบ แต่อีกด้าน ก็มีคนกังขาว่า การขับเคลื่อนโดยรัฐราชการจะกลายเป็นปิดฝาหม้อเร่งอุณหภูมิซ้ำเติมหรือเปล่า
อ้าว ก็อย่างที่ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ชี้เปรี้ยงว่า “รัฐไทยกระจอกเกินไปที่จะแก้ปัญหาของประเทศได้”
แต่ทำไงได้ละครับ กบไทยเลือกนายไปเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้แล้ว ต้องขับเสภาท่องอาขยานกันไปอีก 20 ปี
ไม่กี่วันก่อนฟังวิทยุ มีโบรกเกอร์หลักทรัพย์บอกว่า เศรษฐกิจปีนี้น่าจะยังไม่ฟื้น ปีหน้าไม่แน่ แต่ปี”62 หลังเลือกตั้งน่าจะดีขึ้น ฟังแล้วก็ขำ เมื่อไหร่มีเลือกตั้งยังไม่รู้เลย เลือกตั้งแล้วจะดีขึ้นจริงหรือ เพราะไม่มี ม.44 ถ้าทะเล่อทะล่าออก พ.ร.ก.อะไรมา แบบ พ.ร.ก.ไล่แรงงานต่างด้าว แล้วไม่มี ม.44 แก้ จะไม่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่หรือ
จะว่าไป ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจไทยหรอก ที่อยู่ในหม้อต้ม การเมืองไทย สังคมไทย ก็อยู่ในหม้อต้มที่กำลังร้อนขึ้นๆ โดยไม่รู้ตัว
เราอยู่ในสังคมที่เลอะเทอะขึ้นทุกวัน เพราะถูกจำกัดเสรีภาพในการใช้สติปัญญา สื่อไทยขายข่าวดราม่า ขายหวือหวาสะเทือนใจ แต่ห้ามวิจารณ์รัฐบาล รัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว แต่ยังมีกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพ จัดระเบียบ ตามทัศนะรัฐราชการออกมาไม่ขาดสาย ทั้งจำกัดเสรีภาพสื่อ จำกัดความคิดเห็นในโลกออนไลน์ จะให้สแกนหน้า ลายนิ้วมือ ก่อนซื้อซิมมือถือ จะบังคับให้เฟซบุ๊ก ยูทูบ เน็ตฟลิกซ์ ต้องจดทะเบียนยอมรับอาณาเขตประเทศไทย
ซึ่งคนไทยก็เหมือนอยู่ในหม้อต้ม เพราะทนได้ น้ำค่อยๆ ร้อนขึ้นๆ พอปรับตัวได้ สิทธิเสรีภาพหายไปทีละอย่างสองอย่าง ยังพอไหว รอยหยักในสมองหายไปทีละรอยสองรอย ไม่รู้ตัว ไม่มีใครอยากให้เกิด 14 ตุลา พฤษภา 35 เพราะมองไม่เห็นทางออก ยุคนี้สมัยนี้ไม่มีใครอยากเป็นวีรชนหรอก เอาน่า อยู่ไปกันอย่างนี้ บางเรื่องก็ยังค้านได้ รถกระบะยังถอย พ.ร.ก.ต่างด้าวยังถอย พอคุยกันไหว ระหว่างนี้ก็ดูซีรีส์ภารกิจรัก ประกอบรายการคืนวันศุกร์ไปพลางๆ เดี๋ยวมีเลือกตั้งก็ดีขึ้น เดี๋ยวมีเลือกตั้งก็ดีขึ้น
กบเลือกนายไปแล้ว กบไม่รู้ร้อนรู้หนาวหรอก

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar