fredag 13 juli 2018

ว่าด้วย กรณี "หมูป่า-ถ้ำหลวง", วาทกรรม "สลิ่ม" และ "แดงใต้ดิน"

Somsak Jeamteerasakul
 
ว่าด้วย กรณี "หมูป่า-ถ้ำหลวง", วาทกรรม "สลิ่ม" และ "แดงใต้ดิน" สมมุติ ผมบอกว่า กรณี"หมูป่า"ทั้งหมดเป็นการ"จัดฉาก" ไม่มีเด็กติดอยู่ในถ้ำจริงๆ ถึงเวลา คนจัดฉากค่อยเอาเด็กไปปล่อยตรงจุดนั้นให้"ค้นพบ" จ่าสมานก็ไม่ได้ตายเพราะดำน้ำ แต่ถูกฆ่าตายปิดปาก ฯลฯ .....

ว่าด้วย กรณี "หมูป่า-ถ้ำหลวง", วาทกรรม "สลิ่ม" และ "แดงใต้ดิน"

ถ้าสมมุติ ผมบอกว่า กรณี "หมูป่า-ถ้ำหลวง" ทั้งหมดเป็นการ "จัดฉาก" เด็ก 13 คนไม่ได้ติดอยู่ในถ้ำจริงๆ ถึงเวลา 10 วัน คนจัดฉากค่อยเอาเด็กไปวางปล่อยตรงจุดนั้นให้ "ค้นพบ" จ่าสมานที่ตายก็ไม่ใช่เพราะช่วยดำน้ำวางถังอ๊อกซิเจน แต่เพราะถูกฆ่าตายปิดปาก ฯลฯ .....
[กระทู้นี้ ผมร่างเสร็จหลายวันแล้ว ลังเลอยู่หลายวันว่าจะโพสต์หรือไม่ ในที่สุด ตัดสินใจโพสต์ เพราะคิดว่าเป็นประเด็นน่าสนใจ เรื่องเกี่ยวกับ "แดงใต้ดินล้มเจ้า" ที่สร้าง "ชุมชน" ผ่านไลน์และยูทูป เป็นเรื่องทีผมติดตามใกล้ชิดมาหลายปี และคิดว่าจะหาโอกาสอภิปรายต่อไป มีปัญหาเกี่ยวกับการ "ล้มเจ้า" ของชุมชนดังกล่าวเยอะ กรณีที่พูดในกระทู้นี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง]

เมื่อวันเสาร์ก่อน บังเอิญผมได้คุยกับเพื่อนที่เมืองไทยคนหนึ่ง เขาชื่อดังทีเดียว แต่แน่นอนว่า ผมไม่ควรเอ่ยชื่อเขาในที่นี้ แต่เอาเป็นว่า เขาเป็นหนึ่งในคนที่ออกมาเขียนด่า "สลิม" บ่อย พอได้คุยทักทายกัน ผมก็เลยถือโอกาสเสนอเขาอีกว่า เขาควรหยุดเขียนด่าเรื่อง "สลิ่ม" ได้แล้ว เพราะดังที่ผมเคยเสนอมาตลอดว่า มันเป็นการสร้าง "มายา" หรือ "ภาพลวงตา" ว่า ในสังคมไทย มีแต่คนกลุ่มที่่ว่าเท่านั้น ที่มีลักษณะไม่ฟังเหตุผล โง่เขลาเบาปัญญา หรืออะไรทำนองนั้น เรื่องที่ว่า คนที่ถูกเรียกว่า "สลิ่ม" ส่วนใหญ่คือคนที่สนับสนุนการรัฐประหาร" ผมก็เห็นว่าคงใช่ แต่การที่เราพูดถึง "พวกที่สนับสนุนหรือเคยสนับสนุนรัฐประหาร" กับการสร้าง "วาทกรรม" เรื่อง "สลิ่ม" ที่ทำกันอยู่ ยังเป็นคนละเรื่อง การสร้าง "วาทกรรม" เรื่อง "สลิ่ม" มันมีลักษณะของการสร้างเอกลักษณ์รวมหมู่ที่เป็นมายาว่า มีแต่คนกลุ่มดังกล่าวที่มีลักษณะไม่ฟังเหตุผล ฯลฯ ประเด็นของผมโดยตลอดคือ ทั้งฝั่งที่ถูกเรียกว่า "สลิ่ม" ซึ่งเชียร์รัฐประหาร กับฝั่งที่ไม่เอารัฐประหาร ที่มักเรียกต้วเองว่า "ฝ่ายประชาธิปไตย" หรือกระทั่งพวกที่เรียกตัวเองว่า "ไม่เอาเจ้า" เราจะพบว่ามีคนที่ไม่มีเหตุมีผล ฯลฯ อยู่ด้วยกันทั้งคู่ และด้านที่ไม่มีเหตุผล ของ "ฝั่งนี้" ("ฝ่ายประชาธิปไตย" "พวกไม่เอาเจ้า") ในหลายกรณี ก็ "หลุดโลก" ยิ่งกว่าฝั่งที่ถูกเรียกว่า "สลิ่ม" ก็มี การเอาหรือไม่เอารัฐประหาร เชียร์เจ้า หรือ ด่าเจ้า ไม่ได้เป็นสิ่งที่บอกโดยอัตโนมัติ ถึงความเป็นคนมีหรือไม่มีหตุผลทั้งหมดทุกเรื่อง แน่นอน ผมเห็นว่าการเชียร์เจ้าหรือเชียร์รัฐประหาร ไม่มีเหตุผล แต่ไม่ได้หมายความว่า ในทางกลับกัน คนที่ไม่เอารัฐประหาร หรือกระทั่งไม่เอาเจ้า จะเป็นคนทีมีเหตุมีผลในเรื่องต่างๆเสมอไป #แม้แต่เรื่องที่เกี่ยวกับเจ้าเอง ความเชื่อหรือเรื่องหลายเรื่องที่พูดๆกันเกี่ยวกับเจ้าที่ทำให้เกลียดเจ้าในหมู่พวก "ไม่เอาเจ้า" เอง ก็เต็มไปด้วยความผิดพลาดในข้อเท็จจริง หรือในเชิงเหตุผล แต่พวกไม่เอาเจ้าจำนวนมากก็เชื่ออย่างไมสนใจข้อเท็จจริงหรือเหตุผลก็มีเยอะ  แล้วผมก็ยกตัวอย่างล่าสุดให้เพื่อนฟังถึง ช่อง "แดงใต้ดิน" ที่ป๊อบปูล่าที่สุด ป๊อบปูล่าขนาดว่า รายการสดทุกคืนของช่องนี้ จะมีคนตามฟังสดๆ ราว 2 พันคนเสมอตลอดหลายชั่วโมง ขนาดผม นานๆถ้าไลฟ์สดแต่ละครั้งสักครึ่งชั่วโมง มีคนฟัง 2-3 พันคน ผมก็ถือว่าเยอะมากแล้ว แต่ช่องดังกล่าว รายการสดหลายชั่วโมงทุกๆคืน มีคนฟังระดับ 2 พันตลอดเสมอ ผมถือว่า เยอะมากๆ ไม่นับการ "รีรัน" อีกเยอะ
ในหลายวันมานี้ ถ้าใครติดตามฟังช่องดังกล่าว ก็จะรู้ว่า โฆษกของช่อง พูดแบบซีเรียสติดต่อกันหลายวันว่า กรณี "ถ้ำหลวง" ล้วนเป็นการ "จัดฉาก" คือ ไม่ได้มีเด็ก 13 คนไป "ติดถ้ำ" และอยู่ในอันตรายจริงๆ ทั้งหมดล้วน "จัดฉาก" ขึ้นมา เพื่อปกปิดสิ่งที่กำลังทำกันอยู่จริงๆ คือการที่พวกเจ้ากำลังขนและลำเลียงยาเสพย์ติดและทรัพย์สมบัติผ่านทางเส้นทางถ้ำดังกล่าว
ใครที่มีเหตุมีผล ฟังดูแบบนี้ ก็คงต้องบอกว่า crazy หรือ "บ้าบอ" มาก ที่ใครจะพูดแบบนั้น ที่ใครจะคิดได้ว่า "พวกเจ้า" จะเก่งขนาดหลอกคนทั้งโลกมาได้เป็นสัปดาห์แล้วแบบนี้ บางท่านอาจจะแย้งว่า คนที่ติดตามฟังช่องดังกล่าวทุกคืน 2 พันคน อาจจะติดตามฟังเฉยๆ ไม่ได้เชื่อทุกคน ก็อาจจะมีส่วนจริง (แต่ระหว่างที่โฆษกพูดแบบนี้หลายวัน ก็ไม่มีคนฟังคนไหนเขียนแย้งทางช่อง c-box เลย มีแต่มาเขียนเชียร์) ประเด็นผมคือ ช่องที่สามารถพูดอะไร "บ้าบอ" ได้ขนาดนี้ แต่ยังป๊อบปูล่าได้ขนาดนี้ มันสะท้อนปัญหาบางอย่างแน่ ที่สำคัญ กรณีนี้ไม่ใช่กรณีแรกหรือกรณีเดียว การพูดอะไรที่มีลักษณะ crazy หรือ "บ้าบอ" ของช่องดังกล่าว หรือของบางช่อง "ใต้ดิน" ที่เกี่ยวกับเจ้าหรือเกี่ยวกับการต่อต้านเจ้า มีอยู่เยอะมากโดยตลอด
.............
* ผมพยายามคิดอย่างซีเรียส ตามการอ้างของช่องใต้ดินดังกล่าวว่า เรื่อง "หมูป่า-ถ้ำหลวง" เป็นการจัดฉากทั้งหมด ว่าทำได้หรือไม่ อันที่จริง โฆษกช่องดังกล่าว นอกจากพูดย้ำว่าเป็นการ "จัดฉาก" และพูดถึงเรื่องที่เชื่อกันแพร่หลายในหมู่แดงใต้ดินว่า "เจ้าค้ายาเสพย์ติด" ในบริเวณดังกล่าว (ซึ่งผมเคยไปแย้งพวกเขาหลายครั้งว่า ไม่มีหลักฐาน และไม่น่าเป็นความจริง) แล้วก็ไม่มีการอธิบายรายละเอียดว่า การ "จัดฉาก" ดังกล่าว ทำอย่างไรบ้าง เท่าที่พวกเขาพูดกันคือ เด็ก 13 คนไม่ได้ติดอยู่ในถ้ำ ถ้ำดังกล่าวเข้าออกได้ไม่ยาก ดูเหมือนเขาพูดถึงว่ามีปล่องหย่อนตัวลงไปได้ เข้าใจว่า ที่เขาบอก ถึงเวลา 10 วัน ค่อยเอาเด็กไปปล่อยให้ "ค้นพบ" คงหมายถึงด้วยการหย่อนตัวเด็กพวกนั้นลงไป? แต่ก็ไม่แน่ใจ เพราะพวกโฆษกช่องไม่เคยอธิบายโดยละเอียด ที่ว่าเป็นการ "จัดฉาก" แน่ๆ ทำกันอย่างไร (ถ้าไม่หย่อนตัวตามช่องที่อ้างว่ามีเยอะ ก็ต้องแอบซ่อนนำตัวเข้าไป ผ่านผู้คนเป็นพันที่ชุลมุนกันอยู่?)
ผมเลยลองคิดสมมุติว่า ถ้าจะ "จัดฉาก" ต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง? ที่แน่ๆคือ เด็ก 13 คนจะต้องยอมร่วมมือกับคนจัดฉาก คือ ปิดปากไม่บอกความจริง ต้องโกหกเล่าเรื่องตัวเองติดถ้ำ นั่นคือ จะต้องมีการความร่วมมือจากเด็ก 13 คนนั้น แล้วหลังจากนั้น ถ้าเด็กไม่ปิดปากสนิท บอกความจริงกับครอบครัว ก็ต้องได้รับความร่วมมือจาก 13 ครอบครัวด้วย ส่วนทีมกู้ภัย รวมถึงนักประดาน้ำต่างชาติหลายสิบคน อาจจะอ้างว่า ไม่ต้องอาศัยการร่วมด้วยก็ได้ คือพวกเขาก็ไม่รู้เรื่อง ถูกหลอกไปด้วย แต่อย่างน้อย คนที่พบคนแรกสุด ด้วยโชคบังเอิญ สายเคเบิลหมด แล้วโผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำ ก็น่าจะเป็นคนร่วมมือในการจัดฉากด้วย? คือต้องโกหกเรื่องการไปพบเด็กได้ยังไงด้วย? ฯลฯ ฯลฯ
แต่ไม่ว่าพยายามสมมุติภาพยังไง ผมก็สรุปว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นการจัดฉาก เพราะถ้าจัดฉาก จะต้องอาศัยความร่วมมือของคนจำนวนมาก อย่างน้อยคือเด็ก 13 คนที่จะต้องโกหกให้ตลอดเรื่องติดถ้ำจากนี้ไป
ซึ่งต่อให้เป็น CIA ผมก็ว่าไม่มีความสามารถจะสร้าง "ตัวละคร" อย่างต่ำๆ 10 กว่าคน จากหลากหลายแบ๊กกราวน์ มาร่วมมือพูดโกหกได้มากและนานขนาดนี้ อย่าว่าแต่เจ้าไทยหรือชนชั้นนำไทย ยิ่งไม่มีทางมีความสามารถระดับนี้
(ใครเคยดูหนัง Wag the Dog คงรู้ว่า มีการ "จัดฉาก" หลอกคนอย่างมโหฬารโดยซีไอเอ แต่ถ้าคิดดีๆ จะเห็นว่า การ "จัดฉาก" ในหนังนั้น อาศัยเทคนิคง่ายๆ คือ เอานางแบบคนเดียวมาถ่ายภาพใน "ฉากสงคราม" ที่สร้างขึ้นในโรงถ่าย ที่เหลือผู้เกี่ยวข้องกับการจัดฉากนั้น ก็คือพวกเจ้าหน้าที่ซีไอเอ และช่างกล้องบางคนที่เจ้าหน้าที่จ้างมา ไม่ใช่การจัดฉากที่อาศัยชาวบ้านและเด็กๆธรรมดาในพื้นที่จริงๆ กว่า 10 คนแบบกรณีนี้)

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar