fredag 20 juli 2018

#ไม่มีประมุขรัฐที่ไหนในโลกที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศมากขนาดนี้..."60 วัน" ที่อยู่เยอรมัน ตอนนี้ เป็น 60+ ไปเรื่อยๆแล้ว

 

Somsak Jeamteerasakul
7 เดือนที่ผ่านมา กษัตริย์วชิราลงกรณ์อยู่เยอรมัน 2 เดือน (และตอนนี้กลับไปเยอรมันอีกแล้ว)

7 เดือนที่ผ่านมา กษัตริย์วชิราลงกรณ์อยู่เยอรมัน 2 เดือน
(และตอนนี้กลับไปเยอรมันอีกแล้ว)
นับจากวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2560 คือ 7 เดือนหลังการสิ้นพระชนม์ของในหลวงองค์ก่อน กษัตริย์วชิราลงกรณ์ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเยอรมันรวมกันประมาณ 60 วันหรือ 2 เดือน ดังนี้
มาเยอรมันครั้งที่ 1 : วันที่ 28 ตุลาคม - 10 พฤศจิกายน 2559
มาเยอรมันครั้งที่ 2 : วันที่ 13 มีนาคม - 5 เมษายน 2560
มาเยอรมันครั้งที่ 3 : วันที่ 15 เมษายน - 8 พฤษภาคม 2560
[รวม 3 ครั้งนี้ ประมาณ 60 วัน]
มาเยอรมันครั้งที่ 4 : วันที่ 13 พฤษภาคม -
เท่าที่ผมรู้และลองเสิร์ชค้นหาดู #ไม่มีประมุขรัฐที่ไหนในโลกที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศมากขนาดนี้ (ยกเว้นกรณีป่วยและไปรักษาตัว เช่น สีหนุไปอยู่ในจีน หรือกรณีในระหว่างเกิดสงคราม แล้วลี้ภัยชั่วคราว หรือไม่ก็เพราะติดการศึกษา)*
ยิ่งถ้าเรานึกถึงปริบทของอำนาจและอภิสิทธิ์มหาศาลที่กษัตริย์มีเหนือสังคมไทย ทั้งทางกฎหมายและการเมือง (ทั้งที่เคยมีอยู่นานแล้ว และที่กษัตริย์องค์นี้สร้างเพิ่มขึ้นในรัฐธรรมนูญ และในกฎหมายราชการในพระองค์ล่าสุด) ทางเศรษฐกิจ (ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และงบประมาณที่รัฐทุ่มเทในการรักษาและโปรโมตสถาบันกษัตริย์) และทางวัฒนธรรมสังคม (การโฆษณาเชิดชูสถาบันกษัตริย์ทุกวันทางสื่อและระบบการศึกษา)
ลักษณะสิ้นเปลืองสูญเปล่า การมีอภิสิทธิ์และอำนาจอย่างไร้ความรับผิดชอบ อยู่ในระดับที่เหลือเชื่อและยากจะพบได้ในโลกสมัยใหม่ศตวรรษนี้มากขนาดไหน ก็ลองประเมินกันดู
.............
เมื่อวันศุกร์ก่อน (12 พฤษภาคม) มีคนบอกผมว่า กษัตริย์วชิราลงกรณ์ได้เดินทางกลับไปเยอรมันอีก หลังจากกลับมาไทยเพื่อประกอบพิธีวิสาขบูชาและแรกนาขวัญ เพียงไม่กี่วัน (กลับมาวันที่ 8 พฤษภาคม)
เช่นเดียวกับการเดินทางไป-มาเยอรมันที่ผ่านมา เรื่องนี้ ยากจะยืนยันร้อยเปอร์เซนต์ได้ (ดูเพิ่มเติมท้ายกระทู้)** นี่เป็นเหตุหนึ่งที่ผมไม่ได้รายงานไป และรอมาจนถึงวันนี้ แต่ว่า น่าสังเกตว่า 5 วันที่ผ่านมา (เสาร์ถึงพุธเมื่อครู่นี้) ไม่ปรากฏข่าวของกษัตริย์ในช่วงข่าวในราชสำนักเลย (ข่าวเรื่องมี "พระราชสาส์น" ไม่นับ)
ยิ่งกว่านั้น ในเย็นวันศุกร์นั้นเอง (12 พฤษภาคม) กษัตริย์ได้ปรากฏตัวชมการแสดงดนตรีที่ "ลานหมุดหน้าใส" (ตามข่าวราชสำนักใช้คำว่า "เป็นการส่วนพระองค์" - ผมเอ่ยขึ้นมาเพื่อบอกอีกครั้งว่า การจะอ้างว่า ที่ไม่มีแม้แต่รายงานข่าวการไปเยอรมัน เพราะเป็นเรื่อง "ส่วนพระองค์" เป็นข้ออ้างไร้สาระ เพราะข่าวสองทุ่ม รายงานสิ่งที่เรียกว่า "เป็นการส่วนพระองค์" เสมอ) แต่การปรากฏตัวดังกล่าว กลับอาจจะยิ่งเป็นการยืนยันว่า กษัตริย์เดินทางออกจากไทยวันนั้นจริงๆ เพราะปกติงานแสดงดนตรี กษัตริย์ให้จัดวันเสาร์ แต่อาจจะเพราะว่า กษัตริย์กำลังจะเดินทางกลับเยอรมันในคืนนั้น (ปกติจะขึ้นเครื่องออกจากไทยช่วงราวห้าทุ่ม) เลยให้เลื่อนขึ้นมาจัดในวันศุกร์แทน (หรือจัดเพิ่มเป็นพิเศษ) เพื่อให้กษัตริย์มาชมก่อนกลับ
ไม่ว่ากษัตริย์จะได้เดินทางกลับไปเยอรมันในวันที่ 12 พฤษภาคมตามที่มีคนบอกผมมาแล้วจริงหรือไม่ ก็ไม่มีผลต่อตัวเลขข้างต้น เพราะผมนับตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2559 ถึง 13 พฤษภาคม 2560 คือนับเวลา 7 เดือนพอดีหลังการสิ้นพระชนม์ของในหลวงองค์ก่อน และเวลาประมาณ 2 เดือน หรือ 60 วัน ก็นับเฉพาะในช่วงนั้น
.............
* กรณี รัชกาลที่ 7 ตอนปลาย, รัชกาลที่ 8, และ 9 ตอนต้น
รัชกาลที่ 7 ออกจากประเทศไทยในลักษณะที่อาจจะเรียกว่า "ลี้ภัยการเมือง" (self-imposed exile) คือจริงๆมีเหตุทางการเมืองที่พระองค์ต้องการออกไปเพื่อต่อรองกับคณะราษฎร แต่เหตุผลทางการก็เพื่อไปรักษาพระองค์, รัชกาลที่ 8 ระหว่าง 2478-2488 ยังทรงพระเยาว์ไม่บรรลุนิติภาวะ ต่อให้อยู่ในไทย ก็ต้องมีผู้สำเร็จฯ นั่นคือการอยู่ต่างประเทศช่วงนั้น ยังไม่นับเป็นประมุขจริงๆ และเดิมที่มีแผนจะเสด็จต่างประเทศอีกในปี 2489 แต่มาสวรรคตเสียก่อน ก็ด้วยทรงต้องการศึกษาต่อให้เสร็จ ส่วนรัชกาลที่ 9 หลังรับตำแหน่งต่อจากพระเชษฐาแล้ว ก็ขอไปต่างประเทศ แม้รัฐบาลจะพยายามขอให้อยู่ต่อ (เรื่องนี้เกี่ยวกับกรณีสวรรคตอยู่ แต่ขอผ่านไปในที่นี้) เหตุผลทางการก็เช่นเดียวกับรัชกาลที่ 8 คือทรงศึกษา
** กระทู้นี้ผมเริ่มร่างไว้ตั้งแต่ 2-3 วันก่อน เช้านี้ ผมได้รับการยืนยันโดยมีหลักฐานค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า กษัตริย์ใหม่เดินทางกลับไปเยอรมันจริงๆ เมื่อวันศุกร์ที่ 12 (ถึงเยอรมันวันที่ 13) คือหลังจากไปดูดนตรีที่ "ลานหมุดหน้าใส"
"60 วัน" ที่อยู่เยอรมัน ตอนนี้ เป็น 60+ ไปเรื่อยๆแล้ว
 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar