fredag 23 augusti 2019

- ความโหดเหี้ยมที่"พลเมืองไทย"ยังคงได้รับ จากกษัตริย์ใหม่ ...

https://www.facebook.com/jom.petchpradab/videos/10157123915403965/




 


เสียงร่ำให้และคำวิงวอนจากแม่ถึงลูกผู้ลี้ภัย กันยา ... ( คลิกอ่านประกอบ )

- ความโหดเหี้ยมที่"พลเมืองไทย"ยังคงได้รับ

เห็นข่าวคุณเอกชัย หงส์กังวาน นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ถูกทำร้ายอีกแล้วเป็นครั้งที่ 9
- เห็นข่าวคราวการจัดงานรำลึกให้กับประชาชน ที่ล้มตายไป เพราะถูกเผด็จการใจโหดในเมืองไทยเข่นฆ่า เหมือนจะรำลึกกันทุกเดือนทุกปี
- เห็นข่าวแม่ เมีย และลูก ที่เมืองไทย ตามหาสมาชิกในครอบครัวตัวเองที่หนีภัยการเมืองไปอยู่ต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นเอื้อมมือ โหดอำมหิตของเผด็จการชนชั้นนำในไทย ถูกอุ้มฆ่า หาศพไม่เจอ
- ไม่ต้องพูดถึงข่าวคราวที่ประชาชนคนเดินดิน ถูกกระทำ ถูกข่มเหง รังแก ถูกอำนาจรัฐหรือข้าราชการ กระทำย่ำยี ไม่เห็นหัวประชาชน มีอยู่ทุกหัวระแหงบนแผ่นดินไทย
- ขณะที่ฝ่ายเผด็จการชนชั้นนำ กลับเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก เพื่อรวมหัวกระชับอำนาจกันเองอย่างเหนียวแน่นมากขึ้นทุกวัน ผสมโรงเข้ากับนักการเมืองบางพรรคบางคนที่หลอกลวงประชาชนอย่าหน้าด้านๆ อีกทั้งนักวิชาการ ปัญญาชนบางคน ที่ไร้ศักดิ์ศรี ยอมขายตัวเป็นทาสรองตีนเผด็จการ
- เห็นแบบนี้แล้ว ...เหนื่อย หนัก และอีกนาน ที่ “ประชาชนคนไทย” จะอยู่ในแผ่นดินเกิดของตัวเองได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิต มีความเสมอภาคเท่าเทียม และมีความสุขสมบูรณ์ตามที่คาดหวัง
- ที่อารัมภบทมาเช่นนี้ เพื่อที่จะบอกกล่าวถึงเรื่องราวของการอุ้มหาย หรืออุ้มฆ่า “ผู้ลี้ภัยการเมืองไทย”ในต่างประเทศ..(อีกแล้ว)
- “ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ ลุงสนามหลวง” “สยาม ธีรวุฒิ หรือสหายข้าวเหนียวมะม่วง” และ“กฤษณะ ทัพไทย หรือสหายยังบลัด” ...เป็นอีก 3 ชีวิตผู้ลี้ภัยการเมืองไทย ที่ถูกสังหารโหด ด้วยฝีมือเผด็จการชนชั้นสูงในไทย
- ผมพยายามติดตาม หาข้อมูลผู้ลี้ภัยไทยทั้ง 3 คนดังกล่าว ตั้งแต่ทราบข่าวว่าถูกทางการเวียตนามจับกุมตัวในข้อหาพยายามลักลอบเข้าประเทศด้วยการใช้หนังสือเดินทางปลอม และถูกคุมขังอยู่ในคุกเวียตนามตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
- ได้สอบถามไปยังบุคคลที่ใกล้ชิด 2-3 คน ซึ่งได้รับคำยืนยันตรงกันว่า ทั้ง 3 คน ถูกทางการเวียตนามจับกุมตัวด้วยข้อหาดังกล่าวจริง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา โดยสันนิษฐานว่าทั้ง 3 คนเดินทางเข้าไปยังเวียตนามในรอบที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเคยเล็ดลอดเข้าไปเวียตนามผ่านตะเข็บขายแดนลาวเวียตนามประมาณปลายปี 2561
- “ที่เชื่อเช่นนั้นเพราะว่า ลุงสนามหลวงแจ้งให้สมาชิกในเครือข่ายสหพันธรัฐไทยทราบว่า จะขอหยุดการทำคลิปชั่วคราว เพราะกำลังเดินทางเพื่อปฎิบัติภารกิจลับ” สมาชิกสหพันธรัฐไทยที่ใกล้ชิดคนหนึ่งเล่าให้ผมฟัง และว่า หลังจากนั้นประมาณเดือนมกราคม 2562 ก็ได้รับแจ้งจากลุงสนามหลวงผ่านทางไลน์ว่า “ตอนนี้อยู่ในเวียตนาม..ปลอดภัยดี” แต่หลังจากนั้นก็ทราบข่าวว่าลุงสนามหลวง กับอีก 2 คนถูกจับกุมอยู่ในคุกเวียตนาม
- “แต่ต่อมาวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 ติดต่อมาทางไลน์กับลุงสนามหลวงได้ ก็ยังบอกว่าปลอดภัยดี ซึ่งตอนนั้นน่าจะอยู่ในโรงแรม ที่ไหนสักที่ เพราะขณะที่คุยกันก็มีคนมาเคาะประตูและบอกว่า กำลังจะออกไปข้างนอกเพราะมีคนมารับ..จากนั้นก็ติดต่อลุงสนามหลวงไม่ได้อีกเลย” เป็นข้อมูลที่สมาชิกสหพันธรัฐไทยที่ใกล้ชิดลุงสนามหลวง เล่าให้ผมฟัง
- ส่วนข้อมูลจากผู้ลี้ภัยการเมืองอีกคนหนึ่ง ที่ลุงสนามหลวง ติดต่อสื่อสารอยู่เสมอเช่นกัน เล่าให้ฟังว่า “ลุงสนามหลวง หรือคุณชูชีพ ชีวะสุทธิ์ ลี้ภัยการเมืองไปอยู่จีน หลังรัฐประหาร 2549 ถูกจับกุมที่จีนครั้งหนึ่งเพราะเข้าประเทศผิดกฎหมาย ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือจากบรรดาอดีตสหายพรรคคอมมินิสต์ในไทย ช่วยให้เข้ามาอยู่ในลาว และเคลื่อนไหวต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลเผด็จการอำมาตย์ อยู่ในลาว โดยเฉพาะวิพากษ์วิจารณ์กษัตริย์ จนเกิดรัฐประหาร 22 พ.ค.57 กลุ่มผู้ลี้ภัยไทยอีกหลายคนเดินทางเข้าไปสมทบ รวมทั้งคุณสุรชัย แซ่ด่าน ด้วย”
- “คุณชูชีพ ต้องการไปอยู่ในประเทศที่ 3 แต่ติดปัญหาเรื่องการประสานงานผ่านทางยูเอ็นเอชซีอาร์ จึงใช้เงินที่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสหพันธรัฐไทยทั้งในและต่างประเทศ จ้างทำหนังสือเดินทางปลอมในราคา 7400 เหรียญสหรัฐฯ ให้ตัวเองและอีก 2 คน เมื่อได้หนังสือเดินทางราวเดือนพฤศจิกายน ปี 2561 จึงเดินทางออกจากลาว ไปยังสิงคโปร์ จากสิงคโปร์ ไปเวียตนาม แต่ก่อนหน้านั้น คณะของคุณชูชีพ เคยไปอยู่เวียตนามมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยเล็ดลอดเข้าไปทางชายแดนลาวเวียตนาม”
- “และเมื่อได้หนังสือเดินทางปลอมในลาว เป็นหนังสือเดินทางของประเทศอินโดนีเซีย ก็ซื้อตั่วเครื่องบินจากสนามบินวัดไต จากประเทศลาว ไปยังสิงคโปร์ และจากสิงคโปร์ ไปเวียตนาม ซึ่งนั่นหมายความว่า น่าจะอยู่ในเวียตนามตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ 2562 และน่าจะถูกทางการเวียตนามจับกุมในช่วงเดือนเดียวกัน”
- “เมื่อรู้ว่าคุณชูชีพถูกทางการเวียตนามจับกุม ก็มีความพยายามที่จะให้อดีตสหายในไทยติดต่อไปยังทางการเวียตนามได้ช่วยเหลือ แต่ไม่ได้ผล ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร ขณะที่ภรรยาของคุณชูชีพที่ไทย ก็แจ้งมาว่า ไม่อยากให้ทำอะไรไปมากกว่านี้ กลัวเป็นข่าว เพราะกำลังให้ผู้ใหญ่ช่วยอยู่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ผู้ใหญ่ที่ว่านั้นคือใคร และสุดท้ายทำไมถึงไม่ได้ผล”
- “ดังนั้นตอนนี้คนที่น่าจะรู้ดีที่สุดว่าลุงสนามหลวง ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่คือภรรยาของแกที่เมืองไทย แต่ถ้าจะให้ประเมินด้วยสถานการณ์แบบนี้ เปรียบเทียบกับการอุ้มหาย หรืออุ้มฆ่าคุณสุรชัย และอีก 2 ผู้ลี้ภัยไทยในลาว จะมีลักษณะคล้าย ๆ กันคือเงียบไปเป็นเดือน แล้วจู่ๆ ก็มาพบศพ”
- “กรณีของคุณชูชีพ และอีก 2 คนไทย ก็น่าจะเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ว่ากรณีของคุณชูชีพ เชื่อว่าทางการไทยคงประสานไปเพื่อขอรับตัว คงจำกันได้ว่า ช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มีข่าวทางการไทย จับกุมตัวผู้สื่อข่าวเวียตนามที่หนีภัยการเมืองเข้ามาติดต่อกับ ยูเอ็นเอชซีอาร์ในไทย เพื่อขอสถานะผู้ลี้ภัยไปอยู่ประเทศที่ 3 แต่ถูกทางการไทยจับ และส่งกลับเวียตนาม”
- “เชื่อว่าทางการไทยคงเดินทางไปรับตัว คุณชูชีพและอีก 2 คนไทยด้วยเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนตัวดังกล่าว และคงเดินทางไปอย่างลับๆ โดยการใช้เครื่องบินปฎิบัติการพิเศษของกองทัพไทย หากเดินทางด้วยสายการบินพาณิชย์อาจจะตรวจสอบได้ภายหลัง”
- “เมื่อนำมาถึงไทยก็คงนำตัวไปรีดข้อมูลในค่ายทหารที่ไหนสักแห่ง ก่อนที่จะลงมือสังหารในพื้นที่ของค่ายทหาร และทำลายศพด้วยการเผาเพื่อไม่ให้เหลือร่องรอยใด ไม่อยากให้ผิดพลาดขึ้นอีก เหมือนกรณีของคุณสุรชัย และอีก 2 คนก่อนหน้านี้”
- “ เพราะหากนำตัวมากักขังไว้ก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะเป็นศาลทหารหรือศาลปกติ ก็ยิ่งจะเป็นประเด็น สร้างปัญหา สร้างความยุ่งยากให้กับรัฐบาลทหารมากขึ้น”
- นี่เป็นคำบอกเล่าจากปากของผู้ลี้ภัยไทยคนหนึ่งที่รู้จัก ใกล้ชิดและเคยเคลื่อนไหวทางการเมืองกับลุงสนามหลวงมาก่อน
- ผมถามว่า แล้ว “ใคร”คือเป้าหมายต่อไป ผู้ลี้ภัยการเมืองไทยคนนี้ ตอบผมว่า “ไม่ทราบ แต่ที่แน่ ๆ หน่วยปฎิบัติการพิเศษเพื่อกำจัดบุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ ได้ถูกตั้งขึ้นมาแล้ว และมีการวางแผนปฎิบัติการอย่างจริงจัง ซึ่งเชื่อว่าเป็นปีกหนึ่งของหน่วยปฎิบัติการพิเศษ ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างลับ ๆ จากรัฐบาลคสช. รวมทั้ง คณะบุคคล องค์กรภาคเอกชน ที่ได้ประโยชน์จากสถาบันกษัตริย์และอาจจะรวมถึงกษัตริย์และราชวงศ์เองด้วย”
- นี่คือความโหดเหี้ยมอำมหิตของผู้มีอำนาจ ที่คนไทยจำนวนไม่น้อยหลงชื่นชมบูชา
- สรุปคือว่า ..อนาคตคนไทย ประเทศไทย ยังมืดมน
- และสำหรับประชาชนที่ต่อสู้กับอำนาจเผด็จการอำมาตย์ และพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งก็ยังต้อง...บาดเจ็บ ล้มตาย สูญหาย...กันอีกต่อไปอีกมากมาย
- เหนื่อย..อีกนาน
- จอม เพชรประดับ
- 14 พ.ค.2562


Jom Petchpradab

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar