fredag 6 januari 2012

นี่คืออีกชีวิตหนึ่งของลูกหลานไทยที่ถูกรังแกอย่างไม่ยุติธรรมจากระบบการศึกษาไทยที่อยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการของกษัตริย์ภูมิพล ได้ทำให้อนาคตของ " ก้านธูป " หมดลง เราอยากจะถามรัฐบาลเพื่อไทยที่ประชาชนส่วนมากเลือกมาว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ? เพราะ " ก้านธูป " ก็คืออนาคตของชาติผู้หนึ่ง

สัมภาษณ์โดย ฟ้ารุ่ง ศรีขาว

"ก้านธูป" เปิดใจมติชนออนไลน์ครั้งแรก!



แม้ว่าความเปลี่ยนแปลงของโลกจะเดินทางผ่านยุคแห่งการลงโทษโดยปราศจากการพิสูจน์ความผิดไปแล้ว แต่ในสังคมไทยยังมี "ข้อกล่าวหาต้องห้าม" ที่ใครก็ตามซึ่งถูกกล่าวหา ก็มักจะถูกสังคมพิพากษาจนแทบจะไม่ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ความผิด
"มติชนออนไลน์" สัมภาษณ์ "ก้านธูป" นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ถูกหมายเรียกในกระบวนการยุติธรรม และเป็นจำเลยของสังคมในคดี "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" ซึ่งถูก "ล่าแม่มด" ตั้งแต่ เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ จนถึงขณะนี้ ชีวิตของเธอผ่านความพลิกผันมากมาย จากที่เคยทำคะแนนสอบข้อเขียนเข้ามหาวิทยาลัยได้ 3 แห่ง แต่ท้ายที่สุด ก็มีเงื่อนไขที่ทำให้เธอไม่สามารถเป็น "นิสิต-นักศึกษา" ใน 3 สถาบันดังกล่าวได้
ไม่มีใครบอกได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความบังเอิญหรือโชคชะตาขีดกำหนดไว้ตั้งแต่แรก เพราะปัจจุบัน เธอกลายมาเป็น "ลูกแม่โดม" ที่มีบุคคลที่เธออยากเจริญรอยตามคือ "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" นักประวัติศาสตร์ผู้อำนวยให้เกิดข้อถกเถียงในสังคมและถูกมองว่าเป็นนักวิชาการที่รวบรวม "ข้อมูล" ได้อย่างมีน้ำหนักในการท้าทายกับความคิดและความเชื่อของคน ไม่ว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม
สัมผัสทรรศนะของ "ก้านธูป" ได้ในบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้
@ตั้งแต่จบมัธยมปลาย สอบติดที่ไหนบ้าง
ปี 52 ติดที่คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และไปสอบสัมภาษณ์ตามปกติ แต่ผลออกมาไม่ผ่าน แล้วในปีเดียวกันก็ติด (รัฐศาสตร์) คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่เดินทางไปสัมภาษณ์แล้ว ตัดสินใจไม่เข้าไปสัมภาษณ์ เพราะดูจากสถานการณ์ที่มีคนมาเยอะ คิดว่าตัวเองอาจจะไม่ปลอดภัย และหนูก็ไปคนเดียว จึงสละสิทธิ์ไม่ไปสัมภาษณ์ ส่วนปี 53 สอบติดที่ มศว.ประสานมิตร แต่เมื่อเข้าไปสัมภาษณ์แล้ว อาจารย์ไม่แฮปปี้กับการที่หนูสอบติด เมื่อไปสอบสัมภาษณ์ยังไม่ทันเสร็จอาจารย์เขาก็ให้กลับไปรอผลสัมภาษณ์ ก็ปรากฏว่าสอบสัมภาษณ์ ที่ มศว. ไม่ผ่าน จากนั้นปี 54 ก็มาสอบติดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
@วันสอบสัมภาษณ์ที่ม.เกษตรศาสตร์ คือก่อนหน้านั้นมีคนโพสต์ในเวบไซต์ให้ไปต่อต้านใช่หรือไม่
ใช่ค่ะ
@ที่บอกว่าอาจารย์ผู้สอบสัมภาษณ์ไม่แฮปปี้ คือมีปฏิกิริยาอย่างไร
ที่ม.ศิลปากรไม่มีปฏิกิริยา และสัมภาษณ์ตามปกติทุกอย่าง ส่วนที่ประสานมิตร พอ เราเดินเข้าไปก็แนะนำตัว แนะนำตัวยังไม่ทันจบ อาจารย์เขาก็เบรกแล้วบอกว่า ครูก็พอจะรู้ว่าเธอทำอะไรไว้บ้าง เพราะฉะนั้นก็กลับไปรอลุ้นผลสัมภาษณ์ที่บ้าน
@เปลี่ยนชื่อตอนไหน
ตอนสอบเข้า ม.ศิลปากรยังไม่เปลี่ยนชื่อ แต่ตอนมา มศว. เปลี่ยนชื่อแล้ว
@ความรู้สึกตอนสอบเข้า มธ. คิดว่าจะซ้ำรอย 3 มหาวิทยาลัยที่ผ่านมาไหม
ก็ลุ้นพอสมควรค่ะ ก็เตรียมใจไว้อยู่แล้ว ถ้าไม่ผ่าน
@เคยเจอผู้บริหารอย่าง อ.สมคิด เลิศไพฑูรย์ และอ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุลไหม
ไม่เคยเจอเป็นการส่วนตัว แต่เคยเรียนกับอ.ปริญญา ในวิชา TU100 ต้องเจออาจารย์ในคาบเรียน
@ตอนรับเพื่อนใหม่ ไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีจริงหรือไม่
ไม่จริงค่ะ เป็นการยืนกันกลางสนามบอล ต่อให้ใครไม่ยืนก็ต้องมีการกดดันจากคนรอบข้างอยู่แล้ว ต่อให้หนูหรือใครก็ตามก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ยืน
@ทราบหรือไม่ว่ามีข่าวลือว่าน้องไม่ยืน
ทราบค่ะ เห็นข่าว รู้สึกว่าไม่ make sense (สมเหตุสมผล) ที่เอาเรื่่องนี้มาโจมตี เพราะว่ามันไม่มีมูลความจริง แล้วลองจินตนาการดูก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว
@มาอยู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูก Sanction หรือไม่
ก็มีบ้าง โดยการเสียดสีประชดประชัน เอาไปพูดกลางชั้น แล้วที่หนักสุดคือปารองเท้าใส่ เหตุการณ์เกิดในช่วงแรกๆ ของการเข้ามาในธรรมศาสตร์
@ช่วยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังหน่อย
ตอนนั้นเป็นช่วงกลางคืนแล้วมีกลุ่มนักศึกษากลับมาจากออกค่ายโดยมี อาการเมามาเป็นกลุ่ม เมื่อลงจากรถบริเวณที่พวกหนูนั่งทำงานอยู่กับเพื่อนๆ เขายืนคุยกันอยู่ แล้วรองเท้าก็ลอยมาโดนเรา แล้วเขาก็วิ่งเข้ามาเก็บแล้วบอกว่ารองเท้าหลุด
@เขารู้หรือไม่ว่าเป็น "ก้านธูป"
คือตั้งแต่เขาลงมาจากรถก็มีเสียงซุบซิบนินทาแต่แรก และฮือฮาเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนนั่งอยู่ตรงนี้
@แสดงว่าทุกคนรู้จักและรู้ว่าเคยมีคดี
ก็รู้ เพื่อนที่คณะทุกคนก็รู้
@คำพูดประชดเหน็บแนมคืออะไร
ก็เช่นว่า ใครไม่รัก...ก็ออกไปจากประเทศนี้ซะ แนวๆ เดียวกับท่าน ผบ.ทบ.ที่ไล่คนออกนอกประเทศ
@ด้านดีของบรรยากาศในธรรมศาสตร์คืออะไร
ทุกคนมีความแตกต่าง และหนูมองว่าการที่ทุกคนแตกต่างเป็นสิ่งสวยงามของโลกใบนี้ และหนูไม่เคยหันกลับไปทำร้ายคนอื่น หรือไปแซงค์ชั่นกลับ หรือกระทั่งไม่ได้โกรธเพื่อนๆ ที่ทำอย่างนั้นกับหนู เพราะหนูเข้าใจว่าส่วนหนึ่งเขาได้รับข้อมูลมาอีกอย่างหนึ่ง
@ครอบครัวว่าอย่างไรบ้างเมื่อมีคดีขึ้นมา
ก็ให้กำลังใจกันดี
@เคยขึ้นเวทีเสื้อแดงจริงหรือเปล่า
จริงค่ะ เคยขึ้นเวทีเสื้อแดงตั้งแต่ตอนอยู่มัธยม เป็นเวทีในกรุงเทพฯ ช่วงรวมพล ไปที่บ้านป๋าเปรม เป็นปีที่มีการสลายม็อบเสื้อแดงรอบแรกในเดือนเมษายน (2552)
@ทุกวันนี้ ยังทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย
ทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยเหมือนที่นักศึกษาทั่วไปทำตามปกติคะ เป็นกลุ่มอิสระที่ทำงานร่วมกับทุกกลุ่มได้ และทำงานร่วมกับกลุ่มนอกมหาวิทยาลัยได้ด้วยซ้ำ
@ไม่เข็ดหรือไม่กลัวกับการโดนคดีอีกหรือ
หนูรู้สึกว่า ทำกิจกรรมไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการเมืองเสมอไป เพราะฉะนั้น คำว่า ไม่เข็ด ก็เลยไม่รู้จะตอบยังไง เพราะบางกิจกรรมก็ไม่เกี่ยวกับการเมืองเลย
@ทำกิจกรรมอะไรบ้าง
เกี่ยวกับต่อต้านการรับน้องการโซตัส การใช้ความรุนแรงต่อเพื่อนมนุษย์ เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย
@ทำกิจกรรมตอนน้ำท่วมหรือไม่
ก็พยายามจะไปช่วยให้ได้มากที่สุด เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง เพราะที่บ้านก็เป็นห่วง หนูก็เคยไปช่วยที่ศูนย์พักพิงที่ธรรมศาสตร์ แต่นั่งทำงานอยู่ดีๆ ก็มีคนเอากล้องมาถ่ายรูป หนูก็เลยไปทำที่อื่น เช่นที่ดอนเมืองแทน
@ครอบครัวห้ามทำกิจกรรมหรือไม่
ก็เตือน ก็ห้าม ไม่อยากให้ทำกิจกรรมมาก
@ทำไมยังอยู่ในเส้นทางการทำกิจกรรม ทั้งที่ถูกกล่าวหาในคดีร้ายแรง
ก็อยากจะทำทุกอย่างให้ เป็นปกติ ไม่อยากให้มันมีอิทธิพลกับชีวิตมากนัก เพราะไม่ว่ายังไง ชีวิตเราก็ต้องดำเนินต่อไป ส่วนคดี ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ
@ที่บ้านเป็นเสื้อแดง หรือเปล่า
ไม่ได้เป็นค่ะ
@แล้วเขาทำยังไงกับเรื่องนี้
เขาก็ห้าม ก็เตือน พยายามจะดึงกลับไป หนูก็เข้าใจที่บ้านว่า ทำไมถึงพยายามจะห้าม แต่ที่สุดแล้ว ก็ทนไม่ได้กับความไม่เป็นธรรมในสังคมนี้ คือต่อให้ไม่ใช่หนู แต่เป็นคนอื่น เขาก็ต้องทำแบบนี้เหมือนกัน ถ้าเขาได้เห็นอะไรแบบที่หนูได้เห็น ได้สัมผัส
@จุดเปลี่ยนที่ทำให้คิดแบบนี้
มีหลายจุดมากคะ คือ คน ที่ติดตามการ เมือง คงจะรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมในสังคมนี้ ที่มันเป็นมาอยู่ตลอด ไม่ว่าจะ 2 มาตรฐาน หรือการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม มันทำให้เราไม่สามารถหยุดเพื่อเอาตัวรอดได้
@ตอนที่ถูกกล่าวหาอายุ 17 ปี ชีวิตช่วงนั้นรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมด้วยหรือเปล่า
หนูรู้สึกว่า "การคิดได้" มันไม่เกี่ยวกับเรื่องอายุค่ะ ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ ถ้าคนมันจะคิดได้มันก็คิดได้
@อนาคตอยากทำงานอะไร
อยากเป็นอาจารย์ อยากเป็นครู อยากเจริญรอยตามอาจารย์สมศักดิ์ (เจียมธีรสกุล)
@ชอบเรียนวิชาอะไร
ตอนนี้หนูเพิ่งเรียนแค่ 6 ตัว ก็รู้สึกสนุกกับทุกวิชาที่ได้กำลังเรียนรู้อยู่
@ลงทะเบียนเรียนกับอาจารย์สมศักดิ์ด้วยหรือเปล่า
ก็ไปนั่งซิทอินเฉยๆ (ฟังบรรยาย โดยไม่ได้ลงทะเบียนเรียน) เมื่อเทอมที่แล้วอาจารย์สมศักดิ์ สอนที่รังสิตตัวเดียว ก็เลยไปนั่งซิทอินตัวนั้น ตัวเดียว เป็นวิชาประวัติศาสตร์รัสเซีย
@ไปซิทอินวิชาอื่นด้วยหรือเปล่า
ก็ไปนั่งซิทอินกับ คณะนิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์
@เรียนกับ "คณะนิติราษฎร์" ด้วยหรือเปล่า
ยังค่ะ ยังไม่มีโอกาส
@ ทำไมถึงเลือกเรียนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
เพราะหนูเคยทำกิจกรรมจิตอาสา แล้วรู้จักพี่คนหนึ่งที่เขาเป็นรุ่นพี่เรียนคณะนี้เหมือนกัน แล้วรู้สึกว่าทัศนคติของเขาในการมองสังคมสวยงามมาก จรรโลงใจ คือ หลักการคณะนี้ ทำให้เขาคิดได้ขนาดนี้ มันรู้สึกแฮปปี้กับความคิดเขา ก็เลยอยากเข้ามาเรียนรู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาคิดแบบนี้
@ถูกกล่าวหาในข้อหารุนแรงในช่วงนี้ คิดว่าเกิดจากอะไร
การใช้ข้อกล่าวหานี้มาโจมตีกันทางการเมือง... คือมันก็เคลื่อนไปตามกระบวนการของมัน เพราะว่าการเมืองมันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
@คิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อ หรือว่าเป็นปรากฎการณ์ที่สะท้อนสังคมนี้หรือเปล่า
หนูรู้สึกว่าต้องให้คนอื่นคิดกับหนูมากกว่า เพราะว่าหนูก็ยังใช้ชีวิตตามปกติของหนู ก็ไปกินข้าว ไปดูหนัง ไปเที่ยวเล่นและทำกิจกรรมตามปกติ
@ถูกขบวนการล่าแม่มดแล้วมีคนที่เรารู้จักส่วนตัวในขบวนการนั้นไหม
ไม่ได้รู้จักใครเป็นการส่วนตัว หรือต่อให้รู้จักส่วนตัว ก็ไม่ทราบว่าเขาอยู่ในขบวนการนั้นหรือเปล่า แล้วก็ไม่มีปัญหา ถ้าจะคบกับคนเหล่านั้น
@ทำไมคิดว่าเราสามารถคบกับคนที่ตามล่าเราได้
คือคณะสังคมสงเคราะห์ สอนให้หนูเรียนรู้แล้วก็อยู่ร่วมกับความแตกต่างในสังคมอยู่แล้วค่ะ เพราะฉะนั้น หนูก็เลยไม่มีปัญหา ถ้าจะอยู่กับคนที่แตกต่างกับหนู ขึ้นอยู่กับว่า คนคนนั้นเขาจะมีปัญหาหรือเปล่า ถ้าจะมาอยู่กับความแตกต่าง สิ่งที่แตกต่างอย่างหนู
@มีอะไรเป็นหลักในการดำเนินชีวิตสำหรับสิ่งที่เจอในอายุแค่นี้
มันก็เป็นแค่การเรียนรู้ เพราะทุกอย่าง สิ่งที่เข้ามาในชีวิต เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แล้วมันก็จะกลายมาเป็นบทเรียนเรา ที่ยังไงก็ต้องเรียนรู้ต่อไป มันต้องดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้คะ
@เคยเครียดไหม
ก็เครียดเป็นปกติ ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว ก็มีเครียดเรื่องเรียน เรื่องสอบ เรื่องอื่นๆ ด้วย
@ครอบครัวไม่อยากให้น้องมาทำกิจกรรม แล้วสามารถประนีประนอมกับครอบครัวยังไง
หนูก็มาทำกิจกรรม โดยไม่ให้มีผลกระทบ แล้วหนูก็พยายามทำอยู่หลังไมค์ (เบื้องหลัง) ไม่ออกหน้ามาก พยายามจะไม่ให้มีชื่อเข้าไปในกิจกรรม แต่ก็ยังทำอยู่ตามปกติ
@อยากเห็นสังคมเปลี่ยนแปลงไปแบบไหน
หนูคิดว่ามันก็กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ค่ะ ก็อยากให้เปิดกว้างกว่านี้ ยอมรับกันมากขึ้น เรียนรู้กันมากขึ้น
@คิดว่าทำไมต้องเป็นเรา ที่ถูกข้อกล่าวหานี้ด้วย
ข้อหานี้ใช้กล่าวหากันได้ง่ายมาก แล้วต่อให้ไม่เป็นหนู เดี๋ยวก็มีคนอื่นโดน แล้วมันก็กำลังมีอยู่เรื่อยๆ
@ขอเลื่อนพบเจ้าหน้าที่ สน.บางเขน ในวันที่ 11 ม.ค. นี้ เพราะอะไร
ติดสอบปลายเทอมที่ 1 คะ ยังสอบไม่เสร็จ เลื่อนสอบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ไปเป็น 11 ก.พ.
@หมายมาตรา 112 อ้างข้อเท็จจริงเหตุการณ์ในปีไหน
น่าจะเป็นปี 53 คือมีคนเผยแพร่ข้อความในอินเตอร์เน็ต โดยการแคปภาพในเฟซบุ๊กหลายอันมาลงในฟอร์เวิร์ดเมล์ ซึ่งไม่แน่ใจว่า การนำภาพตัดแปะในอินเตอร์เน็ต มาเป็นหลักฐานในการฟ้องแล้วจะเป็นหลักฐานฟ้องร้องได้จริงหรือ ในเมื่อมันตัดต่อยังไงก็ได้
@สรุปคือ มีข้อเท็จจริงว่ามีการตัดต่อภาพพร้อมข้อความ กล่าวหาว่า "ก้านธูป" โพสต์ข้อความบางอย่างแล้วนำมาเผยแพร่ จากนั้นก็มีการตามล่า ใช่หรือไม่
ใช่ค่ะ
@แล้วมหาวิทยาลัยดูแลอย่างไร
อาจารย์ที่ปรึกษาที่คณะ ก็โทรมาสอบถามด้วยความเป็นห่วง อาจารย์บอกว่า ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของมัน เรื่องความปลอดภัยอาจารย์ก็ช่วยดูแลให้
@เหตุที่ย้ายบ้านจากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่งตอน ม.4 เพราะถูกคุกคามหรือเปล่า
ไม่ได้ถูกคุกคามค่ะ แต่ครอบครัวย้ายอยู่แล้วก็ย้ายตามครอบครัว
@นอกจากการคุกคามในโลกอินเตอร์เนตแล้ว ในชีวิตจริง มีการคุกคามด้วยหรือไม่
ก็มีบ้าง อย่างปีที่แล้ว ก็มีคนตามไปบ้านที่จังหวัดเดิม มีคนไปสอบถามแถวบ้านว่ารู้จักหรือเปล่า โดยมีคนอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่บ้าง เป็นคนทั่วไปบ้าง
@ฝ่ายที่ให้กำลังใจ เขาพูดกับเราว่าไงบ้าง
เขาบอกว่า "เป็นกำลังใจให้" หนูว่าแค่คำนี้คำเดียว ทุกอย่างก็ลงตัวแล้ว หนูว่าเรื่องกำลังใจสำคัญที่สุด เพราะสิ่งที่ทำให้หนูหยัดยืนได้ ก็คือกำลังใจจากเพื่อนๆ กำลังใจจากอาจารย์ที่รัก
@ได้เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วรู้สึกประทับใจอะไรหรือเปล่า
ก็รู้สึกว่ามหาวิทยาลัยนี้ เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดกว้างที่สุด ในบรรดามหาวิทยาลัยที่หนูเคยสอบได้มา ก็รู้สึกประทับใจตรงนี้มาก
@นิยมชมชอบบุคคลในประวัติศาสตร์ไหม
อืม หนูไม่บูชาบุคคลในประวัติศาสตร์ค่ะ ชอบที่จะชื่นชมคนที่เรารู้จักตัวจริงๆ มากกว่า เพราะเชื่อว่าถ้าเป็นคนที่หนูรู้จัก หนูจะชื่นชมชื่นชอบได้อย่างสนิทใจ หรือรักได้อย่างสนิทใจมากกว่าบุคคลในประวัติศาสตร์ค่ะ
@หมายความว่าเรื่องราวของคนที่ถูกบอกเล่าโดยที่เราไม่เคยสัมผัสส่วนตัว - เราไม่ได้เชื่ออะไรแบบนั้น
ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญมากถึงขนาดเอาไปเคารพบูชาหรือรักใคร่ เราไม่ได้เชื่อ
@ชอบอ่านหนังสืออะไร
หนังสือประวัติศาสตร์และก็นวนิยาย

@ชอบเขียนเรื่องอะไรเก็บเอาไว้

ก็เขียนพวกกลอน เพราะหนูก็ถนัดแต่งกลอน แต่งโคลง ก็ไม่ได้เขียนแค่เรื่องการเมือง เขียนเรื่องความรัก เพ้อเจ้อ ธรรมชาติ ก็เขียนค่ะ

@มีกลอนอะไรที่อยู่ในใจตลอดเวลา

(หัวเราะ) ก็มีกลอนของพี่วิสา คัญทัพ แต่รู้สึกว่าพี่วิสาเขาก็..(หัวเราะ) เขาก็มีความเปลี่ยนแปลงอะไรไปแล้ว



Inga kommentarer:

Skicka en kommentar