มีการต่อต้านบางกลุ่ม ใดยเอาการเปรียบเทียบ การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่มาอ้าง
สร้างเรื่องสร้างราว ประเภทตอแหลกับความเป็นจริง แบบวาทะศรีธนนนชัย
ผมขอแสดงเหตุผลของผมบ้างว่า รัฐควรชดเชยหรือไม่
เอากันง่ายๆ กับการประท้วง 2 กรณี้ระหว่าง พธม.กับ เสื้อแดง
กรณีของ พธม.
การต่อต้านมุ่งประเด็นที่นายกทักษิณเป็นสำคัญ
เป็นการต่อต้านที่ตัวบุคลเป็นหลัก
กรณีของเสื้อแดง
มุ่งรักษาความยุติธรรม ความเป็นประชาธิปไตย
ทั้งสองอย่างมีความต่างกันอย่างเห็นใด้ชัด
ว่ากรณีไหนประท้วงเพื่อสังคมโดยรวมทั้งประเทศ ไม่ใช่โดยส่วนต้วหรือกลุ่มคนดั่งพธม.
และลักษณะการประท้วงจึงแตกต่างกันมากอีกด้วย
จริงอยูการประท้วงของเสื้อแดง ส่วนหนึ่งนั้นมาจากแรงบันดาลใจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายกทักษิณ
แต่ทักษิณเป็นเพียงสัญญาลักษณ์ของการเรียกร้อง
ความยุติธรรมและเป็นการแสดงออกทาง สังคมส่วนใหญ่ของประเทศ
ให้คนในสังคมเมืองใด้รับรู้ว่า คนที่ทำผลงาน ให้กับประเทศมีคนหลายคน
รับรู้และปกป้องต่อสู้ให้ผู้นั้น คนสังคมต่างจังหวัดปัจุบันพวกเขารับรู้และใด้ประโยชน์
อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่รับรู้แบบคนเมื่อง ที่นิยมชมชอบการเมืองข่าวสารแบบนามธรรม
สังคมคนกรุงเทพเช่นสังคมเมื่อง จึงนิยมวาทะกรรมโวหารการเมืองมากกว่าผลงานของรัฐบาล
เพราะคนสังคมเมืองไม่เดือดร้อนเรื่องการครองชีพ การกิน การอยู่ มีความอำนวยความสดวกสมบูรณ์
ซึ่งต่างกับสังคมคนบ้านนอกที่ชอบผลงานรัฐ ที่กินใด้ เขาใด้ประโยชน์โดยตรง
เขาเดือดร้อนเรื่องการครองชีพ การกิน การอยู่ และไม่มีคาวมสดวกสบายเช่นคนเมือง
เมื่อเขาใด้รับสิ่งที่เขาต้องการมาตลอดชีวิตพวกเขาจึงออกมาปกป้องรัฐบาลที่เขาชื่นชอบ ซึ่งก็คือนายกทักษิณ
ตามอุปนิสัยของแต่ละสังคม ในมุมมองศิลปของทั้งสองของสังคมโดยรวมจึงต่างกันอย่างสิ้นเชิง
มุมมองศิลปของคนเมืองจะชื่นชอบศิลปแบบ abstrat art หรือศิลปมโนธรรม (นามธรรม)
ซึ่งคนดูแล้วแต่จินตนาการ ตีภาพศิลปไปคนละแบบคนละจินตนาการ
ซึ่งคนบ้านนอกคอกนามองไม่ออก ดูไม่รู้รื่อง มุมมองทางศิลปจึงต่างกัน
คนบ้านนอกไร้การศึกษาจึงชื่นชอบศิลปแบบ (Classical Art) หรือศิลปตะวันตก รูปแบบภาพเหมือน
แสดงออกจินตนาการที่เขาดูออกดูแล้วง่ายต่อความเข้าใจในศิลปนั้นเหมือนๆกันไม่ซับซ้อนและคิดในทางเดียวกัน
ความต่างกันนี้เองจึงเกิดความต่างทางการเมือง
การประท้วงของทั้งสองฝ่่ยจึงต่างกันในอุดมการ
การชุมนุมประท้วงของพธม.ที่อุดมไปด้วยคนสังคมเมืองต่างกับการชุมประท้วงของเสื้อแดงที่อุดมไปด้วยคนต่างจังหวัด
จึงต่างกัน การชุมนุมของพธม. แม้ไม่ถืออำนาจรัฐก็จริงแต่เป็นการประชุมแบบม็อบมีเส้นใครแตะต้องไม่ใด้
การชุมนุมของพธม.จึงเป็นแบบ คือการชุมนุมเชิงรุก ออกจะยั่วยุ ให้เกิดเหตุร้ายหรือสร้างภาพความรุนแรง
โดยใช้สื่อที่ค่อนข้างเอนเอียง พยายามสร้างกระแสให้สังคมส่วนใหญ่ยอมรับมากกว่ายอมรับความชอบธรรมของรัฐแบบถ้าไม่ถูกใจกูคือไม่ถูกใจคนทั้งประเทศโดยเอากลุ่มตนเป็นเครื่องมือวัดแบบไม่ฟังเสียงคนส่วนใหญ่ของประเทศเลยแม้แต่น้อย
การชุมนุนของเขา จะมีการติดอาวุธ บุกยึดขโมยอาวุธในทำเนียบ
มาใช้ และใช้อาวุธเหล่านั้นทำลายฝ่ายตรงข้าม และเจ้าหน้าที่อย่างโจ่งแจ้ง
ให้เห็นในภาพต่างๆที่เล็ดรอดมาจากการปกปิดของสื่อหลักๆของประเทศ
ความมีอภิสิทธ์นี้เองถึงกับ มีการขับรถชนทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจปางตายมาแล้ว
โดยหาความผิดมิใด้ หากคิดกันในกรณีนี้ผมผู้เขียนบอกใด้เลยว่าคดีนี้คือคดี
ฆาตกรรม ที่ร้ายแรงขั้นประหารชีวิตเพราะผู้ขับมุ่งฆ่าแน่นอนไม่งั้นไมถอยหลังมาทับเจ้าหน้าที่อีกครั้งหลอก หลักฐานชัด จับใด้ทั้งรถและผู้ขับ ดั่งหลอกตนเองกับสำนึกในใจตน แต่คดีนี้มีความผิดเบาต่อการกระทำมากมีแค่ความผิดรอลงอาญา 2 ปี
การชุมนุมของพธม.จึงลุแก่อำนาจจนถึงกับยึดทำเนียบรัฐบาล
ยึดสนามบินทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ
ปล้นร้านค้าในสนามบินสุวรรณภูม ไม่เว้นกระทั่งร้านไอศคริม
ซึ่งเป็นความผิดชัดเจนโทษ ถึงขั้นประหารชีวิตกับข้อหาก่อการร้ายที่รับรู้กันทั่วโลก
โดยไม่ต้องกุขึ้นมา เพราะเห็นชัดแจ่มแจ้งไม่ต้องยุ่งยากต่อการแจ้งข้อหาหรือการสอบสวนเลย
คดีกลับมีการดึงจนแม้ปัจจุบันเวลานี้ก็ตามยังจับหรือจองจำผู้ต้องหาไม่ใด้เลยสักคนเดียว
ต่างจากการชุมนุมของเสือแดงที่ประกอบด้วยคนต่างจังหวัดบ้านนอกคอกนามาประท้วงเรียกร้องความยุติธรรม
กลับถูกรุกไล่จากรัฐ ม็อบของคนทั้งประเทศจึงลงเป็นม็อบฝ่ายรับจากการกระทำของรัฐมาตลอด
ถูกใส่ใคร้ ถูกกุข่าวจากทั้งรัฐและสื่อชั่วมาตลอด
อย่าว่าแต่จะถือปืนเลยแม้แต่กระบอกเดียว แค่ใช้หนังสติ๊กต่อสู้เพื่อปกป้องตนเองยังถูก
คดีกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายแล้ว ถือว่าเป็นผู้ต่อต้านอำนาจรัฐที่ใช้อาวุธร้ายแรง
ที่ใช้หนังสติ๊กและพุ ตะไล ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่ใชเพียงแค่ ปืนลูกซอง ปืนเอม 16 ปืนสไนเปอร์
แก้สน้ำตา อาพีจี รถถัง ทางเจ้าหน้าที่ทหารต้องลำบากกับการต่อสู้กับอาวุธร้ายแรงเช่นตะไล
และลูกโป่งที่ใช้ต่อสู้อากาศยานของกองทัพร้ายแรงมาก
จึงถือว่าคือผู้ก่อการร้ายที่ต้องจับกุมคุมขังแม้ประกันก็มิมีข้อยกเว้นใดๆอย่างน้อยต้องติดคุกก่อน 1 ปีจึงจะมีการขึ้นศาลพิจารณา
ข้อหาก่อการร้าย มาจากกรณี้เหล่านี้และหลังการสลายการชุมนุมเหล่าเสือแดงแม้หนีหลบกระสุนเข้ามา
อาศัยพึ่งพิ่งพระศาสนาก็ไม่เว้นที่ต้องถูกยิง ถูกล่าเช่นสัตว์ที่ต้องล้มตายอย่างอนาถ
ชัดเจนเกิดจากการกระทำของทหาร
กลุ่มผู้ชุมนุมกลับถูกข้อกล่าวหาว่าเผาบ้านเผาเมืองแม้แต่ CTW (Central world ) ก็ไม่วายเว้น
ภาพต่างๆดูออกมาเป็นการ์ดเสือแดง ในขณะนั้นอย่าว่าจะไปเผาหรือเดินย่างกายให้ทหารเห็นเลยแม้แต่คนเดียว
กระสุนจากปากกระบอกปืนอาจฝังในร่างใด้ทุกเวลา
กลับมีคนเผา CTW ให้เห็นอย่างโจ่งคร่ำ พวกเขากินดีหมี หนวดเสือจากที่ไหนจึงกล้าฝ่าแนวทหารมาได้อย่างอัศจรรย์
ดั่งผู้วิเศษมีฤทธิ์ เมื่อผมพิจารณาดูในรูปถ่ายของชาวต่างชาติที่ถ่าย
จึงเห็นว่าพวกเขามีของวิเศษ กันอาวุธของทหารใด้ชนิดปืนหรืออาวุธร้ายแรงใดๆของทหาร
กลายเป็นสากกระเบือทันที
เพราะเขาเหล่านั้นสวมเครื่องรางอันเรืองเวชที่ข้อมือ
ซึ่งคือเครื่องรางของเหล่าการ์ดพธม.นั่นเอง
จากภาพ จากคลิปของผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่ออกในยูทูปมากมาย
คนเมืองกรุงที่มากด้วยปัญญาเข้าหาข้อมูลมากแต่เลือกที่จะเชื่อว่าเผาบ้านเผาเมืองตามวาทะกรรมการเมืองเยี่ยงศิลป abstract เช่นคนมากความรู้คิดเฉกเช่นมโนกรรมมากกว่าความจริงคนนะตายจริงของคนเสื้อแดง ติดคุกจริงนะคนเสือแดงคนในเมืองจึงเชื่อว่าพธม.ตายจริง ติดคุกจริง แต่คนกรุงจึงมอง
การต้องโทษและความผิดของเหล่าพันธมิตรมองแบบ abstract นี่หรือผู้คนที่ยกตนว่าฉลาด รอบรู้กว่าคนบ้านนอกเช่นพวกผม
หนานเมืองร่ายลิลิต แดงพ่าย
คนกรุง ขบวนการคิด
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar