เรื่องของ “สัตว์การเมือง” ในสารขัณฑ์นั้น
ไม่ว่ายุคใดสมัยใดก็หนีไม่พ้นพวก “เขี้ยวลากดิน”
ที่ส่วนใหญ่ยังคิดถึงผลประโยชน์ของ “ตัวกู-พวกกู” เป็นที่ตั้ง!
พฤติกรรมของ “สัตว์การเมือง” ไม่ว่าโพลสำนักไหนไปสอบถาม “ไพร่”
ก็จะได้รับคำตอบเดิมๆว่าส่วนใหญ่ไม่ “สีดำ” ก็ “สีเทา” และเป็นพวก “วัวสันหลังหวะ”
แม้แต่ “สัตว์การเมือง” ที่ถือว่าสีค่อนข้าง “ขาว” ก็ยังเต็มไปด้วย “กิเลส-ตัณหา”
แต่ดูดีเพราะ “ดีแต่ปาก” หรือ “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่ผู้อื่น”
ยิ่ง “สัตว์การเมือง” ก๊วนไหนได้สวม “หัวโขน”
เกือบร้อยทั้งร้อยจะไม่ทำตาม “สัญญา” ที่ให้ไว้กับ “ไพร่”
โดยอ้างสารพัดเหตุผล
แต่สุดท้ายคือกลัวสูญเสียอำนาจและผลประโยชน์ “ของกู-พวกกู”
แม้แต่ “ก๊วนเจ๊ปู” ที่ “ไพร่ไม่มีเส้น” เอาเลือดเนื้อเข้าแลกจนได้สวม “หัวโขน”
ก็เริ่ม “หางโผล่” ไม่ใช่เล่นเกมชักเย่อ
แต่กำลังแสดงอาการ “ถ่มน้ำลายรดฟ้า”
แบบหน้าด้านๆ ไม่ว่าจะเรื่อง “รัด-ทำ-มะ-นวย” หรือเลขอาถรรพณ์ “112”
http://upload.prachatalk.com/image-AE72_4F0C409E.jpg
จึงไม่แปลกถ้า “ก๊วนเจ๊ปู” จะอยู่ไม่ถึงปี
ไม่ใช่เพราะถูก “ก๊วนสะตอ” และพวก “สลิ่ม” เตะตัดขา
แต่เป็นเพราะ “ไพร่” ตัดหางปล่อยวัด!
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
"สนิมเกิดแต่เนื้อในตน" ใช่คนอื่นทำลาย
บทความแสลงใจกองเชียร์
หนานเมือง สล่าง่าวเมืองหนือ
เฝ้าตักเตื่อนมันก็ใด้แค่"เป่าขลุ่ยให้ควายฟัง"
ควายไม่ฟัง หรือว่าหนานเป่าขลุ่ยไม่เพาะ?
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar