สื่อดาวสยามสูดปากเสียดาย ไม่ทันพาดหัวข่าว “ก้าวไกลกัดกันเละ” พิธา-ปิยบุตร ซัดกันนัว ไม่ทันข้ามวัน ธนาธร “ขอร้อง (เพลง)” ทั้งสองคนกอดกันแน่น (ไม่อยากฟัง?)
ควันหลงยังมีนักข่าวถาม วิวาทะเรียกเรตติ้งหรือเปล่า ไม่รู้นักข่าวคนไหน คงเพิ่งย้ายจากข่าวบันเทิงมาทำข่าวการเมือง จึงคิดว่าเป็นดราม่าแบบดาราละครหลังข่าว
ไม่อ่านบ้างเลยว่าเขาวิวาทะกันจริง ทั้งการมองอนาคตของพรรค ยุทธศาสตร์ยุทธวิธีสู้ศึกเลือกตั้ง ซึ่งปิยบุตรวิจารณ์แรงมาจากข้างนอก พิธาซัดกลับ “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” ปิยบุตรก็สวนหนัก “จับเสือมือเปล่า”
FC ล้อกันว่า เห็นไหม ที่สลิ่มด่าชังชาติ ทำลายความเป็นไทย นั้นไม่จริง ทั้งคู่ใช้คำพังเพยได้เฉียบคม
แน่ละมัน “หลุด” ให้เห็นอีโก้ ขาดวุฒิภาวะ อารมณ์บดบัง ซึ่งคงไม่สูญสลายชั่วข้ามวัน แต่ถ้าดูทั้งกระบวน เรื่องที่โต้เถียงกันไม่ใช่เรื่องจุดยืน คือไม่ใช่เรื่องแก้-ไม่แก้ 112 ปฏิรูปกองทัพ-ศาล แก้รัฐธรรมนูญ ฯลฯ แต่เป็นเรื่องวิธีการไปสู่เป้าหมาย เช่นปิยบุตรมองว่าอย่าพะวงเรื่องได้ ส.ส. ให้ปักธงความฝันแห่งอนาคต แต่พิธาซึ่งรับผิดชอบพรรครับผิดชอบผู้สมัคร ก็ต้องอะลุ้มอล่วยกับคนทุกกลุ่ม
ความขัดแย้งทางความคิดภายในพรรคอาจมีมากกว่านั้น เป็นเรื่องธรรมดาและธรรมชาติ ของอนาคตใหม่ก้าวไกล เลือกตั้ง 62 ถล่มทลายทะลุความคาดหมาย แต่ผู้สมัคร-สาขาพรรคแตกกันยับ แทบไม่เหลือผู้สมัครปี 62 อยู่ลงสมัครปี 66
ไม่ใช่แค่ความใหม่ไร้ประสบการณ์และความรีบด่วนอย่างเดียว มันเป็นธรรมชาติของพรรคที่ประกาศอุดมการณ์แรงกล้า อาสามาร่วมต่อสู้จากทุกสารทิศ
ยิ่งแรงกล้ายิ่งปะทะง่าย แต่ตลกร้ายคือแตกกี่เสี่ยงก็ยังเลือกอนาคตใหม่
นี่ต่างจากนักการเมืองที่แก่งแย่งกันเรื่องผลประโยชน์ แย่งเก้าอี้ ซึ่งเจรจากันได้ หมูไปไก่มา แต่พวกอุดมคติแรงกล้ามักยอมกันไม่ได้ ไม่ใช่แค่ในพรรคการเมือง นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหว ตั้งแต่ในมหาวิทยาลัยถึงท้องถนน ก็ถกเถียงจนบางทีทะเลาะกัน แต่ถึงเวลาเคลื่อนไหวมีเป้าหมายเดียวกัน
อุดมการณ์อนุรักษนิยมไม่เป็นอย่างนี้ เพราะต้องเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ เชื่อฟังคนดีย์ แต่พวกเห็นคนเท่ากันมักทะเลาะกันแบบนี้
ผู้ที่ผ่านการต่อสู้รุ่นเก่า อาจมองว่าไม่รู้จักอดทนอดกลั้น ไม่ศึกษา “วิธีจัดการความขัดแย้งในหมู่ประชาชน” อ่อนน้อมถ่อมตน น้อมรับเสียงวิจารณ์ ผู้พูดไม่มีผิด ผู้ฟังพึงสังวร ทำตัวเป็นนักเรียนน้อย อย่ายกตนข่มคนอื่น เป็นวีรชนเอกชน ฯลฯ
แต่มองอีกด้าน คนรุ่นใหม่ Gen Y Gen Z ก็โตมาจากการถกเถียงกัน โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ไม่มีใครละเว้นใคร เห็นต่างก็ถกตรงๆ เถียงจนตกผลึก ไม่เว้นฝ่ายเดียวกัน นี่เป็นวัฒนธรรมใหม่ แม้เห็นว่าควรศึกษาจากนักต่อสู้รุ่นเก่าบ้าง
พรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกลเป็นพรรค Mass ในโลกออนไลน์ คือทั้งแกนนำ ส.ส. FC ล้วนอยู่ในโลกออนไลน์ ต่างกับพรรคอื่นที่ ส.ส.รุ่นเก่าอยู่ในโลกออฟไลน์ งานศพงานบวช อย่างมากก็เข้ากลุ่มไลน์
วัฒนธรรมก้าวไกลจึงอยู่บนฐานของวัฒนธรรมออนไลน์ วัฒนธรรมคนรุ่นใหม่ ทั้งด้านบวกด้านลบ ฉะนั้น แม้ความขัดแย้งครั้งนี้ดูมีผลเสีย เพราะสะท้อนว่าขาดวุฒิภาวะ มีทัศนคติทางลบต่อตัวบุคคล ใช้อารมณ์นำ ฯลฯ ทำให้คนที่อยู่ห่างๆ ลังเล
แต่สำหรับ FC ในโลกออนไลน์ มองเป็นปกติ และมีผลกระทบน้อยมาก ถ้าแปลงเป็นความขัดแย้งที่สร้างสรรค์ ถกเถียงวิเคราะห์วิจารณ์อย่างเคารพกัน ก็ยิ่งดี
คือไม่ต้องกลบความขัดแย้ง ยอมรับความเห็นต่างอย่างเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เปิดกว้างหารือถกเถียง ตั้งประเด็นให้ FC มีส่วนร่วมเสนอแนะ ทำให้เป็นพรรคของมวลชนออนไลน์ นี่จะเป็นมิติใหม่
FC ก้าวไกลนั้นยังไงก็เลือก จนกว่าจะมีพรรคที่แหลมคมกว่า หนึ่งเพราะเลือกก้าวไกลเป็นสัญลักษณ์แห่งการท้าทาย แห่งความต้องการทะลุเพดาน แม้รู้ว่าทะลุไม่ได้ ก็ขอแสดงพลังกระทุ้ง
สองคือ ความคิด ทัศนะ รสนิยม ต้องตรงกัน แบบคนชั้นกลาง Gen Y บอกว่าเห็น ส.ส.ก้าวไกลเหมือนเห็นเพื่อนตัวเองอยู่ในสภา ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน ฉะนั้นไม่ต้องฟังนโยบายให้หมดก็รู้ว่าคิดตรงกัน เห็นต่างก็ปรับได้
และยังมีความรู้สึกแบบคนหนุ่มสาว ต่อให้อยู่ในชนบทห่างไกล ก็อ่านข่าวดูคลิปรังสิมันต์ โรม อภิปราย เห็นตัวผู้สมัครก็วัยใกล้เคียง เป็นคนติดดิน ดูไม่เหมือนนักการเมือง ก็ชนะใจ
ตรงนี้น่าสนใจอย่างที่ปิยบุตรชี้ ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่าง “พลังเก่า Vs พลังใหม่” ไม่ใช่แค่เอาประยุทธ์ไม่เอาประยุทธ์ เพราะประยุทธ์อวสานแล้ว
การเป็นตัวแทนพลังใหม่ ทัศนคติใหม่ ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาล ก็สร้างผลสะเทือนได้ เช่นนำเสนอทัศนคติใหม่ที่กล้าหาญ ต่อเหล้าเบียร์ สุราก้าวหน้า บุหรี่ไฟฟ้า ทัศนคติทางเพศ LGBTQ ทัศนคติใหม่ทางศาสนา (อภิปรายงบพัดยศ) การศึกษา (นักเรียนเลว) ความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ
เรื่องเหล่านี้ไม่มี “น้ำเต็มแก้ว” แค่ยกขึ้นจุดกระแสต่อเนื่อง แปลงจุดอ่อนเป็นจุดแข็ง เช่นแปลงความขัดแย้งเป็นเรื่องใหม่ ถกเถียงแนวคิด วิธีการ และเปิดรับฟังออนไลน์ ใครก็แสดงความเห็นได้
ก้าวไกลไม่ท้าทาย ไม่จุดประเด็นความคิดใหม่ ชูสวัสดิการชูบัตรผู้สูงอายุก็ไม่ต่างจากพรรคอื่นและสู้เขาไม่ได้
คุณอาจไม่ชนะ ส.ส. แต่ชนะใจคนชั้นกลางใหม่ แปลงเป็นอะไรได้มหาศาล
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7529652
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar