รัฐบาลแกล้งหลงทาง หรือจำใจหลงทาง...
บอกตรงๆนะครับว่า ปรากฏการณ์เหลืองในวันนี้ทำให้ผมแปลกระคนฉงนสนเท่ห์ใจเล็กน้อย...
ดังที่เคยเกริ่นไปบ้างแล้วว่า รัฐบาลเพื่อไทยพยายามจะย้อนเวลาไปในช่วงยุคก่อนการทำรัฐประหาร โดยพยายามบริหารอำนาจให้อยู่ในภาวะสมดุลที่สุด แก้ไขสิ่งที่แม้วทำผิดพลาดมาก่อนหน้านี้ ทีมรัฐบาลเชื่อว่าการที่พยายามย้อนเวลากลับไปที่จุดเดิม(restore)นั้นเป็นวิธีการที่ถูกต้องและมีความเป็นไปได้มากกว่าการแก้ไขจากในปัจจุบันโดยเชื่อว่าหลายๆฝ่ายพอจะรับได้ แต่ในมุมมองของผมๆว่า เป็นการกระทำที่ผิดอย่างสิ้นเชิง.... ประชาธิปไตยไม่ว่าที่ประเทศไหนๆก็มีรากเหง้าจากศักดิ์ศรีแห่งความมนุษย์ทั้งนั้น ยกเว้นประชาธิปไตยแบบตอแหลๆบางประเทศ ทักษิณไม่ใช่นักประชาธิปไตย และนักการเมืองในพรรคเพื่อไทยก็ไม่ใช่เช่นกัน การบริหารให้ประชาชนกินอิ่มนอนหลับนั้นเป็นแค่กลวิธีหนึ่ง "ซึ่งอาจ" ทำให้ประชาธิปไตยเกิดขึ้นได้ถ้ามองในมุมมองของมาสโลว์ แต่ถ้าทำ Strategic Route Map : SRM ของประเทศในเรื่องของการสร้างประชาธิปไตยสร้างความอยู่ดีกินดีต้องยิงให้ตรงจุด พื้นฐานรากเหง้าของประชาธิปไตยนั้นคือ เกียรติและศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ถ้าไม่สามารถให้คนไทยยืนขึ้นด้วยศักดิ์ศรีอย่างเต็มภาคภูมิชาตินี้ก็ไม่มีทางเป็นประชาธิปไตย และไม่ใช่คำอ้างที่ว่าคนต้องรวยก่อนถึงจะมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคน คนที่พูดเช่นนี้ไม่อาจนับได้ว่าเป็นนักประชาธิปไตย ดังนั้นการจะให้คนไทยรวยทั้งหมดแล้วค่อยเป็นประชาธิปไตยนั้นเป็นความคิดแบบอำมาตย์นิยมโดยแท้ (ซึ่งแนวคิดนี้ไม่ใช่ว่าสุเมธจะออกมาพูดเท่านั้น ทักษิณเองก็เชื่อเช่นนี้มาก่อนเช่นกัน) เมื่อประเทศเป็นไท คนไทยเป็นไท มีเกียรติและศักดิ์ศรีเท่ากัน การพัฒนาประเทศเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีภายใต้ประชาธิปไตยนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการให้คนอยู่ดีกินดีภายใต้อุ้งเท้านักการเมือง อำมาตย์และพ่อค้าเผด็จการอำนาจนิยมมา โจทย์ที่รัฐบาลต้องเอาไปทำคือ ทำอย่างไรคนไทยถึงจะเป็น "ไท" ยืนบนขาตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ต้องตกเป็นขี้ข้าหรือละอองฝุ่นให้กับเพื่อนร่วมโลก แต่รับรองได้เลยว่า วิธีการไปสู่เป้าหมายที่ว่านั้นไม่ใช่ที่รัฐบาลให้ใส่เสื้อเหลืองพาคนไปร้องไห้เป็นเด็กไม่ยอมโตแบบในวันนี้แน่นอน วันนี้อำมาตย์ให้คุณบริหารแค่เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการเมืองการปกครอง ศักดิ์ศรีของคนในชาติเขาไม่ให้คุณทำ คุณคิดว่าสิ่งนี้มันถูกต้องแบบนั้นจริงๆ หรือคุณอยู่ในภาวะจำยอม... เราจะทำอะไรก็ได้ จะเสก จะเป่า จะชี้เป็น ชี้ตาย อย่างไรก็ได้ เพราะเราคือ "ศาลเจ้า" | ||
โดย ราษฎรตาสว่าง การรู้จักคิด ใช้เหตุผล ศึกษาหาความรู้ เข้าใจถึงสภาพปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ว่ามีสาเหตุความเป็นมาอย่างไร ก่อนอื่นพวกเราต้องเปิดใจให้กว้างยอมรับความจริงว่าการปกครองที่ใช้ในเมืองไทยไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง แต่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการนายทุนศักดินา เราคิดว่าหลังจากการยึดอำนาจปี ๒๕๔๙เป็นต้นมา ประชาชนไทยมีการเคลื่อนไหวตื่นตัวมากขึ้นอย่างรวดเร็วในชั่วระยะเวลาเพียง ๖ ปี ซึ่งถือว่าเร็วมาก เพราะการที่จะสร้างสังคมให้ไปถึงระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงได้นั้น เราไม่สามารถจะกำหนดระยะเวลาได้ว่าจะใช้เวลานานแค่ใหนเพราะขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละสังคม นอกจากนี้ยังต้องใช้ปัจจัยพื้นฐาณในการสร้างสังคม ปัจจัยหลักคือความพร้อมทาง เศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิ่งสำคัญคือการตื่นตัวต่อสู้เรียกร้องของประชาชนในสังคม ปัจจัยเหล่านี้จะต้องมีการพัฒนาไปพร้อมกัน ซึ่งเราต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำ ช่วยกันให้ความรู้เผยแพร่ความจริงต่างๆให้ประชาชนได้รับรู้ ถ้าพวกเราช่วยกันทำหน้าที่ในฐานะเจ้าของประเทศร่วมกัน รัฐบาลที่มาจากประชาชนทำหน้าที่ในรัฐสภา ประชาชนก็ทำหน้าที่ของตนเองนอกรัฐสภา ช่วยกันต่อสู้กับระบอบเผด็จการอำมาตย์ แล้วความสำเร็จก็จะเป็นของพวกเราประชาชนเจ้าของประเทศ ด้วยความปรารถนาดี. |
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar