torsdag 25 april 2019

เกร็ดความรู้ 5 ประการเกี่ยวกับรัชกาลที่ 10



ใครยังไม่ได้อ่าน เชิญอ่านครับ จะเข้าใจเองว่า ผมหมายถึงอะไร
http://www.bbc.com/thai/thailand-38173269…
นี่คือต้นฉบับรายงานภาษาอังกฤษ คือเขาแปลมาน่ะ แต่ก็ต้อง #นับถือมาก
http://www.bbc.com/news/world-asia-38126928
บีบีซีไทย - BBC Thai เตรียมตัว "รับโทรศัพท์" หรือการ "เยี่ยมเยือน" ได้ มีความเป็นไปได้สูง
เผื่อใครไม่รู้ หลายวันมานี้ สื่อไทยถูก "ขอ-กดดัน" ให้อย่าแม้แต่เอ่ยถึงข้อเท็จจริงพื้นๆที่ว่า กษัตริย์องค์ใหม่ มีลูกชายอีก 4 คน
วันก่อนที่ The Nation ลงประวัติ แล้วเขียนว่า "ทรงมีลูกสาว 2 คน...และลูกชาย 1 คน..." (The Crown Prince has two daughters....and a son....) โดย "ลืม" ที่จะพูดว่า ทรงมีลูกชายอีก 4 คน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ เขาขอ-กดดันกันมา ไม่ให้แม้แต่จะแตะข้อเท็จจริงเรื่องนี้ (รวมถึงเรื่อง แต่ง 3 ครั้ง หย่า 3 ครั้ง)
(รายงาน The Nation อยู่ที่นี่ เรื่องมีลูกสาว 2 ลูกชาย 1 อยู่ย่อหน้าสุดท้าย http://www.nationmultimedia.com/news/national/30301061)
ดังนั้น ใครที่อยากเก็บรายงาน บีบีซีไทย - BBC Thai ภาษาไทยข้างต้นไว้ ก็ควรเก็บ มีโอกาสจะถูกถอดออกได้


เกร็ดความรู้ 5 ประการเกี่ยวกับรัชกาลที่ 10


สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร…
เกร็ดความรู้ 5 ประการเกี่ยวกับรัชกาลที่ 10
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร กษัตริย์พระองค์ใหม่ของไทย พระนามวชิราลงกรณมีความหมายว่า "ทรงเครื่องเพชรนิลจินดา หรืออสนีบาต" ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 ทรงเป็นพระราชบุตรพระองค์ที่สอง และเป็นพระราชโอรสพระองค์เดียว ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงขึ้นครองราชย์โดยมิได้คาดหมายเมื่อ 6 ปีก่อนหน้านั้น
หลังจากประเทศไทยตกอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์มานานหลายทศวรรษ การประสูติขององค์รัชทายาทชายจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสถาบันกษัตริย์ไทย โดยเฉพาะในยามที่ลำดับชั้นผู้กุมอำนาจทางการเมืองของไทยมีความไม่ชัดเจน หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในปี พ.ศ.2475 ตามด้วยการสละราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ในปี พ.ศ. 2478 และตามด้วยช่วงเวลาที่ไทยมีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์นานถึง 11 ปี
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงสำเร็จการศึกษาขั้นต้นจากโรงเรียนจิตรลดา และเมื่อพระชนมายุ 13 พรรษาได้เสด็จ ฯ ไปทรงศึกษาต่อที่โรงเรียนเอกชน 2 แห่งในประเทศอังกฤษเป็นเวลา 5 ปี หลังจากนั้น ทรงศึกษาต่อจนจบระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย แล้วทรงเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยการทหารดันทรูน ในกรุงแคนเบอร์รา เป็นเวลา 4 ปี
ครั้งหนึ่ง พระองค์เคยตรัสว่า ทรงประสบปัญหาในการเรียน อันเป็นผลมาจากการได้รับการเลี้ยงดูอย่างประคบประหงม นอกจากนี้ยังทรงมีผลการเรียนไม่ดีนักขณะทรงศึกษาที่วิทยาลัยการทหารดันทรูน
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงได้รับการศึกษาด้านการทหารขั้นสูงในประเทศไทย สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ทรงเข้ารับราชการในกองทัพไทย ทั้งยังทรงเป็นนักบินขับไล่และนักบินพลเรือน พระองค์มักทรงขับเครื่องบินโบอิ้ง 737 ด้วยพระองค์เองเวลาเสด็จ ฯ เยือนต่างประเทศ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ ขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อปี พ.ศ. 2515 แต่ขณะนั้นได้เกิดข้อกังขาถึงความเหมาะสมของพระองค์

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
พระองค์มิได้แสดงความสนพระทัยในโครงการพัฒนาประเทศต่าง ๆ ของพระราชบิดาดังเช่นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระขนิษฐา ทั้งยังทรงตกเป็นข่าวลือเกี่ยวกับสตรี การพนัน และธุรกิจผิดกฎหมาย
ในปี พ.ศ.2524 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เคยตรัสเป็นนัยว่าพระราชโอรสของพระองค์ทรงคล้ายกับ "ดอน ฮวน" ที่ทรงโปรดการใช้เวลาในช่วงสุดสัปดาห์กับเหล่าหญิงงามมากกว่าการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
ในการพระราชทานสัมภาษณ์กับสื่อไทยเมื่อปี 2535 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปฏิเสธข่าวลือเรื่องที่พระองค์เกี่ยวข้องกับบรรดาผู้มีอิทธิพล รวมทั้งข่าวลือเรื่องธุรกิจผิดกฎหมาย

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ในปี พ.ศ.2520 พระองค์อภิเษกสมรสกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และทรงมีพระธิดาด้วยกันหนึ่งพระองค์ คือพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ซึ่งประสูติในปี พ.ศ. 2521 แต่ในช่วงเดียวกันนั้นเองมีกระแสข่าวว่าพระองค์ทรงมีความสัมพันธ์กับดาราสาว สุจาริณี วิวัชรวงศ์ (นามเดิม ยุวธิดา ผลประเสริฐ) มีพระโอรสและพระธิดารวม 5 พระองค์ ระหว่างปี พ.ศ.2522-2530 พระองค์อภิเษกสมรสกับหม่อมสุจาริณี ในปี พ.ศ. 2537 ทว่า ในปี พ.ศ. 2539 ได้ทรงประกาศหย่าขาดจากหม่อมสุจาริณี และถอดถอนฐานันดรศักดิ์พระโอรสทั้ง 4 พระองค์ ซึ่งขณะนั้น กำลังศึกษาในสหราชอาณาจักร
ในปี พ.ศ. 2544 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อภิเษกสมรสกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และมีพระโอรสด้วยกันหนึ่งพระองค์ คือ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ซึ่งประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2548

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และอดีตพระชายา
ในปี พ.ศ. 2557 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ถูกถอดถอนออกจากฐานันดรศักดิ์ มาเป็นท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ขณะเดียวกันบิดามารดาและญาติของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์จำนวน 9 คน ถูกจับกุมในความผิดตามมาตรา 112 ฐานแอบอ้างเบื้องสูง ส่วนตำรวจนายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ได้เสียชีวิตขณะถูกควบคุมตัว
นอกจากนี้ ข้อกล่าวหาฐานแอบอ้างเบื้องสูงได้ถูกใช้กับบุคคลใกล้ชิดกับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อีกหลายคน อาทิ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง และตำรวจอีกนายหนึ่งที่ถูกจับกุมในคดี มาตรา112 เมื่อปีก่อนและเสียชีวิตขณะถูกควบคุมตัว ขณะเดียวกันองครักษ์ส่วนพระองค์คนหนึ่งได้ถูกถอดยศในความผิดฐาน "ไม่ปฏิบัติตามพระราชบัณฑูร" และ "เป็นภัยต่อราชวงศ์โดยการหาผลประโยชน์ส่วนตัว" ซึ่งต่อมาองครักษ์ส่วนพระองค์ผู้นี้ได้หายตัวไปและเชื่อว่าอาจเสียชีวิตแล้ว
รถยนต์พระที่นั่ง

ปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงใช้ชีวิตร่วมกับพลโทหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา อดีตพนักงานต้อนรับสายการบินไทย ซึ่งได้รับพระราชยศนายทหารปฏิบัติการพิเศษสำนักงานนายทหารปฏิบัติการพิเศษ ในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเคยพระราชทานยศ "พลอากาศเอก" ประจำกองทัพอากาศไทยให้แก่ "ฟูฟู" สุนัขพูเดิลทรงเลี้ยงด้วย
บทลงโทษที่รุนแรงของกฎหมาย มาตรา 112 ส่งผลให้ในประเทศไทยไม่มีผู้ใดกล้าอภิปรายอย่างเปิดเผยถึงเรื่องความเหมาะสมของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในฐานะกษัตริย์พระองค์ใหม่ ทว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มักพูดคุยกันอย่างลับ ๆ ถึงความเป็นไปได้ที่ตำแหน่งพระประมุขของไทยจะตกเป็นของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงได้รับความนิยมจากประชาชนและทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนมากกว่า อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ที่เปิดทางให้ผู้หญิงสามารถสืบราชสันตติวงศ์ได้ หากไม่มีองค์รัชทายาทผู้ชาย อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไม่ทรงมีพระราชประสงค์ให้ผู้อื่นสืบราชสมบัตินอกจากพระราชโอรสของพระองค์
ในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระพลานามัยทรุดลง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชน และประกอบพระราชกรณียกิจแทนพระราชบิดาบ่อยขึ้น

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ในอดีตมีข่าวลือว่าพระองค์ทรงมีความสัมพันธ์ด้านธุรกิจกับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกมองว่าเป็นภัยต่อกลุ่มอำมาตย์ที่จงรักภักดีต่อราชวงศ์
แต่หลังจากเหตุรัฐประหารในปี 2557 ที่ทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รัฐบาลทหารชุดใหม่ก็ดูจะให้การสนับสนุนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อให้พระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากพระราชบิดา ด้วยการจัดกิจกรรม Bike for Dad หรือปั่นเพื่อพ่อ เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ที่เป็นกันเองของว่าที่กษัตริย์พระองค์ใหม่
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงร่วมปั่นเพื่อพ่อ

เป็นการยากที่จะคาดเดาได้ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะทรงเป็นกษัตริย์แบบใด แม้จะทรงเป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญแต่พระองค์ยังคงมีพระราชอำนาจอย่างมาก และคงไม่มีผู้ใดจะกล้าปฏิเสธพระราชประสงค์หรือพระราชโองการของพระองค์
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีพระราชอำนาจเด็ดขาดในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นสถาบันที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย ด้วยทรัพย์สินราว 30,000-40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีรายได้ต่อปีซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งยังทรงบัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ ที่มีกำลังพลราว 5,000 นาย

พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 10
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านราชวงศ์ไทยชี้ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงไม่น่าจะมีพระบารมีและเป็นที่เคารพสักการะเท่าพระราชบิดา เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องสร้างขึ้นด้วยพระองค์เอง มิใช่สิ่งที่ทรงรับสืบทอดจากพระราชบิดา และการที่ทรงราชย์ขณะมีพระชนมพรรษาถึง 64 พรรษาแล้ว พระองค์คงมีเวลาในการสั่งสมพระบารมีไม่ยาวนานนัก
จากนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญในการจัดพระราชพิธีพระบรมศพของพระราชบิดา ซึ่งนี่อาจเป็นโอกาสดีที่จะช่วยเสริมบทบาทของพระองค์ ขณะเดียวกันพระองค์ยังคงสามารถพึ่งพาความจงรักภักดีที่พสกนิกรมีให้ต่อพระราชบิดาของพระองค์ ในการค้ำจุนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นสถาบันหลักของสังคมไทย

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar