fredag 19 april 2019

"สถานกงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก"


ไทยประกาศปิด "สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครมิวนิก" และเตรียมเปิด "สถานกงสุลใหญ่ ณ นครมิวนิก" แทน
พูดง่ายๆคือปิด เพื่อ "อัพเกรด" สำนักงานตัวแทนประเทศไทยในมิวนิก-รัฐบาวาเรียและรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก

"กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์" ที่ปิดไป นี่คือระดับต่ำสุด มีไว้ออกวีซ่าเท่านั้น ไม่ใช่นักการทูตอาชีพ ไม่ใช่คนไทยด้วยซ้ำ ท่านสุดท้ายก่อนปิด คือ Mrs. Barbara Riepl (กงสุลกิตติมศักดิ์) โดยมี Mrs. Stephanie Reinhart เป็นเลขานุการ

ทุกวันนี้ ประเทศไทยมีสำนักงานตัวแทนประเทศในเยอรมัน คือ สถานเอกอัตรราชทูตไทย ณ กรุงเบอร์ลิน และมีสถานกงสุลใหญ่แห่งเดียวคือ "สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต" ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ เพราะแฟรงก์เฟิร์ต เป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจ ส่วนที่เหลือเป็นเพียง "สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์" ที่ มิวนิก (ที่ปิดนี้), ฮัมบูร์ก, ชตุทท์การ์ท, และ ดึสเซลดอร์ฟ

ทำไมต้อง "อัพเกรด" ที่มิวนิกเป็น "สถานกงสุลใหญ่"?

ผมว่า ความจริงที่ว่า ทุกวันนี้ ประมุขประเทศไทยอยู่ที่มิวนิก กว่าครึ่งของปี (ตัวเลขปีกลาย 7 เดือนใน 12 เดือน) คงเป็นปัจจัยสำคัญแหละ กฎหมายหลายฉบับของไทย ไป "ออกประกาศเป็นกฎหมาย" ในระหว่างกษัตริย์ไทยอยู่ในมิวนิกนี่แหละ เรียกว่า ทรง "เซ็นชื่อ" หรือ "เอ๊กเซอร์ไซส์อำนาจอธิปไตยของประเทศไทย" ณ นครมิวนิกหลายครั้งหลายหนแล้ว

จะว่าไป อันที่จริง น่าจะ "อัพเกรด" ให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำนะ เช่น เปลี่ยนเป็นกระทรวงต่างประเทศไทย (สาขาสอง) หรือ ทำเนียบรัฐบาลไทย (สาขาสอง) - หรือให้สุดๆไปเลย เจรจากับเยอรมัน ขอเอามิวนิกเป็นเมืองหลวงแห่งที่สองของไทยเสียเลย ฮี่ฮี่
Image may contain: textImage may contain: text 

ตั้งกงสุลใหญ่ประจำมิวนิกคนแรก - เอาหัวหน้า "ศูนย์ปฏิบัติการมิวนิก" ของเสี่ยนี่แหละเป็น
ประกาศราชกิจจาฯวานซืนนี้ ตั้งคุณพินเทพ เทวกุล ณ อยุธยา เป็น "กงสุลใหญ่ประจำนครมิวนิก" (ภาพประกอบแรก)
เผื่อใครจำไม่ได้นะ เมื่อเดือนธันวา ผมรายงานว่า ไทยตกลงปิดสถานกงกุลกิตติมศักดิ์มิวนิก เพื่อ "อัพเกรด" เป็น สถานกงสุลใหญ่ ซึ่งผมเสนอว่า ต้องถือเป็น "สถานกงสุลพระราชทาน" เพราะเห็นได้ชัดว่า ตั้งขึ้นมาเพื่อรับใช้โดยตรงต่อกษัตริย์วชิราลงกรณ์ที่ใช้เวลาในมิวนิก-บาวาเรียกว่าครึ่งในแต่ละปี (ดูกระทู้นี้ https://t.co/LGKQ3Uf6Vh และกระทู้นี้ https://t.co/Hv0FTogeGb)

การประกาศออกมาว่าให้คุณพินเทพเป็นกงสุลใหญ่มิวนิกคนแรก ก็ยิ่งยืนยันเรื่องนี้ เพราะคุณพินเทพ นอกจากมีตำแหน่งเป็นอัครราชทูตไทยประจำเบอร์ลินอยู่ ที่สำคัญ ช่วงที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่เป็น "หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการมิวนิก" ของวชิราลงกรณ์ด้วย เรียกว่าที่ผ่านมา แม้จะมีตำแหน่งเป็นหมายเลขสองของสถานทูตไทยที่เบอร์ลิน ก็มาประจำทำหน้าที่บริการให้วชิราลงกรณ์ที่มิวนิกอยู่แล้ว

ดูกระทู้ของผมเมื่อเดือนกรกฎาคมปีกลาย ที่คุณพินเทพ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการมิวนิก ออกหนังสือเวียนให้ทูตไทยในประเทศต่างๆ รายงานการจัดงานวันเกิดวชิราลงกรณ์ ว่ามีใครเกี่ยวข้อง มีกิจกรรมอะไรบ้าง (ภาพประกอบที่สอง) และศูนย์ฯนี่แหละที่ทำหน้าที่คอยสอดส่องเรื่องราวของคนที่วิพากษ์วิจารณ์เจ้า (ข้าพเจ้าเป็นต้น) https://t.co/gtHy3noN01 และกระทู้นี้ https://goo.gl/uGBA31
เมื่อไรจะประกาศให้มิวนิกเป็นเมืองหลวงแห่งที่สองของไทยให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยก็ไม่รู้นะ
..................
ปล. อดนึกขึ้นมาแบบขำๆไม่ได้ว่า เมื่อ 7-8 ปีก่อน พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา "บ่น [กับทูตอเมริกัน] ว่าอดีตนายทหารคนสนิทของเขา ซึ่งตอนนี้เป็นทูตไทยประจำเยอรมัน ถูกบังคับให้ต้องออกจากเบอร์ลินบ่อยๆเพื่อไปคอยต้อนรับพระบรมฯที่มิวนิก." (โทรเลขวิกิลีกส์ 10BANGKOK192, 25 January 2010) https://goo.gl/3gHGTj

หุหุ ตอนนั้นคุณสิทธิคงนึกหวังว่า สักวันคงจะมีการเลิกสิ้นเปลืองทรัพยากรการทูตของไทยแบบนี้มั้ง




Inga kommentarer:

Skicka en kommentar