จาก บล๊อค ของ คุณ Andrew M.Marshall on July 13, 2011
ยานพาหนะส่วนตัว เครื่องบิน โบอิ้ง 737 ของ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร มหาวชิราลงกรณ์ ได้ถูกยึดไว้ที่ สนามบิน มิวนิค โดย ผู้พิทักษ์ทรัพย์สิน ซึ่งพยายามที่จะติดตามหนี้สินที่ยังติดค้างอยู่ จากบริษัท วอลเตอร์ เบาว์ เอจี ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างของประเทศเยอรมันที่ล้มละลาย. ยานพาหนะส่วนพระองค์ ได้ถูกยึดเนื่องจาก ข้อกล่าวหาในทางการเงินที่มีต่อรัฐบาลไทย – และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับ กรมทางหลวง – และไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับ หนี้สินส่วนพระองค์ของมงกุฎราชกุมาร. อย่างไรก็ตาม ผู้พิทักษ์ทรัพย์สินของบริษัทก่อสร้างประเทศเยอรมันนี้ ได้ยึดเครื่องบินส่วนพระองค์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ในการปฎิบัติอย่างแข็งกร้าวเพื่อ ทำความขายหน้าให้กับรัฐบาลไทย เพื่อที่จะจ่ายหนี้สินเสียทีหนึ่ง.
หนี้สินที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท วอลเตอร์ บาว์ นั้น มีจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ในกิจการของ บริษัททางด่วนดอนเมือง, ซึ่งก่อตั้งเพื่อดำเนินกิจการในทางด่วนจาก ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ไปยังที่ สนามบินนานาชาติแห่งเก่าของเมืองหลวงประเทศไทย. บริษัท วอลเตอร์ เบาว์ นั้น ล้มละลายไปเมื่อปี 2005 และ ผู้พิทักษ์ทรัพย์สิน พยายามที่จะกอบกู้เงินทุน เพื่อที่จะให้ เจ้าหนี้ของบริษัทนั้น ติดตามข้อเรียกร้องที่มีต่อรัฐบาลไทย เนื่องจากได้เปลี่ยนเงื่อนไขในสัญญาที่จะสร้างทางหลวง และ เพนื่องด้วยการปฎิเสธ ที่อนุญาติให้มีการขึ้นค่าทางด่วนสำหรับยานพาหนะที่ต้องใช้ถนนแห่งนี้, ซี่งแสดงให้เห็นว่า โครงการนี้ ไม่มีผลกำไรเลย. ในปี 2009, ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของประเทศไทยได้สั่งการชำระเงิน 29.2 ล้านยูโร บวกกับ 1.98 ล้านยูโร ในค่าใช้จ่ายบางส่วนสำหรับการละเมิดสัญญา, ผลการพิจารณาความฉบับเต็ม และ ประวัติที่เป็นปัญหาที่ทรมานอย่างยาวนานของ โครงการทางด่วนสนามบินดอนเมือง สามารถอ่านต่อได้ที่นี่: ซึ่งเป็นเสมือนนิยายที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีในเรื่องของการขาดคุณสมบัติและการคอรัปชั่นในทางฝ่ายรัฐบาล อนุญาโตตุลาการยังพบโดยเฉพาะว่า การลดค่าผ่านทางที่ประกาศโดยอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรในปี 2004 นั้น เป็น การละเมิดเงื่อนไขของข้อตกลงกับวอลเตอร์ บอว์ เมื่อผลการตัดสินได้ประการออกมา, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในเวลานั้น ได้ปฎิเสธผลการตัดสิน, และได้กล่าวว่าจะต่อสู้กับผลการตัดสิน ซึ่ง โดยการกระทำเช่นนี้ ก็เป็นอย่างที่ นักการเมืองไทยชอบกระทำกันเมื่อเผชิญกับปัญหา – นั่นก็คือ สร้างคณะกรรมาธิการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อกลบฝังปัญหาให้เข้าไปอยู่ในสารบบเดิมๆ ในงานราชการ. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง คมนาคม คือ นายโสภณ ซารัมย์ ได้กล่าวหาว่า ทางบริษัทของประเทศเยอรมันนั้น กำลัง“เล่นสกปรก”กับทางฝ่ายไทย.
แม้ว่า ยังไม่มีการชำระเงินใดๆ ต่อค่าเสียหายซึ่ง ศาลอนุญาโตตุลาการ ได้สั่งมา นาย เวอร์เนอร์ ชไนเดอร์ ผู้ตรวจสอบบัญชีของ ออกซ์เบอร์ก ซึ่งเป็นผู้บริหารการล้มละลายสำหรับ บริษัท วอลเตอร์ เบาว์, ตัดสินใจที่จะขอยึดของเครื่องบินที่จะใช้เป็นประโยชน์เพื่อบังคับให้ประเทศไทย เพื่อให้ชำระหนึ้สินเหล่านั้นเสียทีหนึ่ง โฆษกของเขาได้รับการยืนยันเครื่องบินได้ถูกยึดเรียบร้อยแล้ว; รายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ยังสามารถพบได้บนเว็บไซต์ ของบริษัทการเงิน คือ Deutschland The Times. ทาง Financial Times ยังได้กล่าวว่า การยึดเครื่องบินนั้น ได้มีการวางแผนอย่างรอบคอบ เพราะ เมื่อเจ้าฟ้าชายได้ทรงบินไปที่สนามบินในประเทศเยอรมันหลายแห่ง ในสัปดาห์ที่ผ่านมาล่าสุด รวมไปถึง เดรทส์เดน, ซาร์บรัคเก้น, นูเรมเบิร์กและ เบอร์ลิน – ไทเกิ้ล; มีข้อมูลเพิ่มขึ้นมาว่า เจ้าฟ้าชาย มหาวชิราลงกรณ์ เพิ่งทรงไปเยือนเยี่ยมชมโรงงานเครื่องลายครามที่เดรสเดิน สิ่งมีกลุ่มในคณะทั้งหมด 40 คน. พระองค์ไม่ได้รับคำเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับการยึดของเครื่องบิน จากรายงานของ ไฟแนนท์เชี่ยลไทม์ส
ตามที่อดีตเอกอัคราชฑูตของประเทศสหรัฐอเมริกา, นายอีริค จี จอห์น, ได้เขียนไว้ใน เคเบิ้ลลับทางการฑูต เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2009, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารวชิราลงกรณ์ ได้ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ของพระองค์ในประเทศเยอรมันนี.
.....................................
Thai prince's second jet faces impounding !!
FRANKFURT (Reuters) - A German insolvency administrator was on Sunday quoted as saying he was considering impounding a second jet used by the Thai Crown Prince, reported German tabloid Bild am Sonntag.
"We are considering further steps, including seizing the prince's second plane," the paper quoted insolvency administrator Werner Schneider as saying.
German insolvency officials seized a Boeing 737 used by Crown Prince Vajiralongkorn almost two weeks ago to force the Thai government to repay a debt linked to a Bangkok road construction project.
A court last week ruled the jet could be released upon payment of a 20 million euro deposit, an offer rejected by the Thai government, which maintains the jet is the personal property of the Prince and not the government.
Bild am Sonntag said the prince had the second plane flown over to Munich to replace the first one.
(Reporting by Victoria Bryan
บทความแปลโดย: ดวงจำปา
กรุงแฟร้งเฟริ์ท - (รอยเตอร์) ผู้บริหารการล้มละลายทางทรัพย์สินได้เปิดเผยว่า เขากำลังพิจารณายึดเครื่องบินลำที่สอง ซึ่งใช้โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร, ตามรายงานข่าวจาก หนังสือพิมพ์ซุบซิบข่าวสาร ไบล อัม ซอนเทก
“เรากำลังพิจารณาขั้นตอนต่อไป, รวมไปถึงการยึดเครื่องบินลำที่สองของเจ้าฟ้าชายด้วย” หนังสือพิมพ์นั้นได้อ้างว่า ตัวผู้บริหารการล้มละลายทางทรัพย์สินคือนาย เวอร์เนอร์ ชไนเดอร์ได้กล่าวไว้
เจ้าหน้าที่ทางการของฝ่ายบริหารการล้มละลายของประเทศเยอรมัน ได้ยึดเครื่องบิน โบอิ้ง 737 ซึ่งใช้โดย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร วชิราลงกรณ์ เมื่ือเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อบังคับให้รัฐบาลไทยให้จ่ายหนี้สินซึ่งเกี่ยวโยงไปกับโครงการการก่อสร้างทางด่วนในกรุงเทพมหานคร
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลได้พิจารณาและลงความเห็นว่า เครื่องบินส่วนพระองค์นั้น สามารถนำออกไปได้ เมื่อทางฝ่ายเยอรมัน ได้รับเงิน 20 ล้านยูโรในบัญชีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งข้อเสนอนี้ ได้ถูกปฎิเสธโดยทางฝ่ายรัฐบาลไทย, ซึ่งยังคงยืนหยัดอยู่ว่า เครื่องบินลำนี้ เป็นเครื่องบินทรัพย์สินส่วนพระองค์ ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลไทยแต่อย่างใด
หนังสือพิมพ์ ซุบซิบ ข่าวสาร ไบล อัม ซอนเทก ได้กล่าวว่า เจ้าฟ้าชาย ได้ทรงใช้เครื่องบินลำที่สองนี้ เป็นพาหนะในการเดินทางระหว่างกรุงมิวนิค แทนเครื่องลำแรก
รายงานข่าวโดย วิคตอเรีย ไบรอัน
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar