fredag 19 april 2019

เลือกตั้งประเทศล้าหลัง :คอลัมน์ ใบตองแห้ง



เลือกตั้งประเทศล้าหลัง:ใบตองแห้ง

คนไทยฮือฮา เลือกตั้งอินเดียใหญ่ที่สุดในโลก ผู้มีสิทธิ 900 ล้านคน หน่วยเลือกตั้ง 1 ล้านหน่วย ต้องเลือกตั้ง 7 รอบ ใช้เวลา 39 วัน แต่นับคะแนนวันเดียว
เลือกตั้งอินโดนีเซีย ผู้มีสิทธิ 192 ล้านคน รับบัตรเลือกตั้ง 5 ใบ เลือกทั้งประธานาธิบดี ส.ส. ส.ว. ส.จ. สภาท้องถิ่น ในวันเดียว แต่รู้ผลไม่เป็นทางการในค่ำวันนั้น
แม้แน่ละ ผลทางการต้องรอเดือนพฤษภา เพราะอินโดฯมี 17,000 เกาะ ต้องใช้ช้าง ม้า อาสาสมัคร ลำเลียงหีบบัตร แต่ก็เร็วกว่าบางประเทศ เลือกตั้งมาเกือบเดือน กกต.ยังไม่รู้เลย จะใช้สูตรไหนคำนวณ ส.ส.

รู้ไหม กกต.อินเดียมีแค่ 3 คน ประธาน 1 กรรมการ 2 เจ้าหน้าที่ 300 คน ไม่ต้องใช้พนักงานประจำ 2,000 คน เพราะ กกต.อินเดียจัดระเบียบให้เจ้าหน้าที่อื่นปฏิบัติ กกต.อินเดียไม่มีอำนาจล้นเกิน แบบคน 7 คน “เชื่อได้ว่า” ทุจริต ก็แจกใบส้มใบแดง ตัดสิทธิผู้แทนที่ประชาชนเลือกมา
แต่ กกต.อินเดียก็มีอำนาจเด็ดขาด สั่งห้ามรัฐบาลหาเสียงด้วยภาษีประชาชน สั่งเซ็นเซอร์โทรทัศน์พรรครัฐบาล ฐานใช้สื่อข้างเดียวเอาเปรียบฝ่ายค้าน (ทุกวัน ไม่เฉพาะคืนวันศุกร์)

ขนาดนั้น กกต.อินเดียยังถูกวิจารณ์ ถูกฝ่ายค้านขู่เอาเข้าคุก หาว่าเข้าข้างรัฐบาล เพราะ กกต.อินเดียไม่ได้มีที่มา “อิสระ” มาจากรัฐบาลและรัฐสภาแต่งตั้ง ตามหลักการยึดโยงประชาชน แต่ถูกด่าแค่ไหนเขาก็ไม่บ่น ไม่เคยฟ้องคนวิพากษ์วิจารณ์

เลือกตั้งอินโดฯ มีสีสันแตกต่าง คนไทยงง อย่างนี้ก็ได้หรือ เจ้าหน้าที่ประจำหน่วย แทนที่จะเข้มเครียดขึงขัง กลับแต่งตัวเป็นซอมบี้ ซูเปอร์ฮีโร่ มาสร้างสีสัน ไม่เหมือนบางประเทศ วางอำนาจจัง ประชาชนจะทำอะไรก็ผิดไปหมด
สิ่งที่คนไทยไม่สังเกต และไม่ค่อยรู้ คือเลือกตั้งอินโดฯจะไม่เห็นทหารเข้าแถวยาวเหยียด ไปลงคะแนนหน้าค่าย รับประกันอิสระ โปร่งใส ไม่มีใบสั่ง ที่เห็นไปยืนชะโงกดูกันนั่นแค่ภาพหลุดโดยไม่ตั้งใจ

ทหารตำรวจอินโดฯ ถูกห้ามใช้สิทธิเลือกตั้ง หลังจากประชาชนลุกฮือโค่นล้มเผด็จการในปี 2541 เพราะก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมาย ในยุคซูฮาร์โต ประชาชนจึงไม่ต้องการให้ทหารยุ่งเกี่ยวการเมืองอีก 

ซึ่งแปลกดี กองทัพก็ยอมรับ ทหารอินโดฯไม่เคยทำรัฐประหาร ผบ.ทบ.อินโดฯไม่เคยออกมาอวดอ้าง ทหารผูกขาดความรักชาติ นักการเมืองหนักแผ่นดิน หากทหารจะเล่นการเมือง ก็ถอดเครื่องแบบลงเลือกตั้ง เช่น พล.อ.บัมบัง ยูโดโยโน ประธานาธิบดีจากทหารสายลิเบอรัล
ทั้งนี้เพราะหลังยุคซูฮาร์โต อินโดฯปฏิรูปกองทัพจริงจัง แยกทหารออกจากการเมือง ออกจากผลประโยชน์ทางธุรกิจ วิทยุ โทรทัศน์ พร้อมกับปฏิรูปกฎหมาย กระจายอำนาจ แต่ที่สำคัญคือคนอินโดฯเข้าใจดีว่า นักการเมืองหรือทหารก็โกงเหมือนกัน ไม่เหมือนบางชาติ เชื่อรัฐบาลไม่โกงโดยไม่มีการตรวจสอบ
อินโดฯก็เหมือนเกาหลี ฟิลิปปินส์ ได้ประชาธิปไตยมาด้วยการนองเลือด แล้วก็มีปัญหาสารพัด นักการเมืองโกง นักการเมืองบ้าอำนาจ แต่ไม่เคยถอยหลัง ไม่เหมือนบางประเทศ นองเลือดไม่รู้กี่ครั้ง ก็ยังวนเวียนกับรัฐประหาร
บรรณาธิการจาการ์ตาโพสต์เขียนบทความ ไม่ว่าเลือกตั้งมีผลอย่างไร ก็มั่นใจว่า ประชาชนอินโดนีเซียยังเชื่อในประชาธิปไตย ไม่เหมือนเลือกตั้งไทย มีเงื่อนไขมากมายที่เอื้อให้ผู้นำรัฐบาลทหารกลับมาอยู่ในอำนาจต่อไปได้ ไทยแตกต่างจากอินโดฯ เพราะคนไทยจำนวนหนึ่งไม่คัดค้านที่รัฐบาลทหารจะกลับมาปกครองประเทศ

แหม่ พูดอย่างนี้ไม่รู้จักคนไทย ไม่เข้าใจประเทศไทย เหนือชาติใดในโลก เพราะคนไทย(จำนวนหนึ่ง) เชื่อว่า ศีลธรรมจรรยาค่านิยมความเป็นไทย สูงส่งเหนือหลักเกณฑ์กติกา ถ้าอยากให้คนดีปกครองบ้านเมือง จะใช้กติกาแบบไหนก็ได้ ขอให้ได้คนดีก็แล้วกัน เราตัดสินกันเองว่าใครเป็นคนดี ใครเป็นรัฐบาลไม่โกง

การเลือกตั้งของไทยจึงต้องให้คนดีแต่งตั้ง ส.ว. 250 คน มาเลือกคนดีเป็นนายกฯ การเลือกตั้งของไทย เกิดขึ้นทั้งที่คนส่วนใหญ่ยังโง่อยู่ โง่มาตั้งแต่ 2475 จึงต้องมีมหาเทพมากลั่นกรอง เลือกตั้งแล้วต้องให้เทพ 7 ตน ใช้เวลาพิจารณา 2 เดือน จึงอนุญาตให้เป็นส.ส. เพียงแต่ยังไม่มีสูตรคำนวณ ซึ่งเมื่อเก้าอี้มันไม่พอ ก็ต้องแบ่งๆ กันไป แบ่งแบบไทยมีน้ำใจ ได้ 58 ลดเหลือ 50 ได้ 22 ลดเหลือ 19 น้อมนำคำสอนพระพุทธเจ้า ต่อแขนต่อขาให้ 0.4 0.5 0.6 0.7 ได้ครบคน
ประเทศไทยใช้ศีลธรรมก้าวข้ามกฎเกณฑ์มาไกลแล้ว ไม่ใช่ประเทศล้าหลัง พวกที่ยังเลือกตั้งตามกติกาต่างหาก ล้าหลัง วุ่นวาย แต่กติกาของเราก็เป็นประชาธิปไตยนะ เพราะมาจากประชามติ 16.7 ล้านเสียง พวกแพ้ประชามติแล้วมาหาว่ารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยคือแพ้แล้วพาล

ด้วยศีลธรรมความเป็นไทย ประเทศนี้วิบัติอย่างไรก็สงบ ก็ต้องสยบยอม ไม่มีการนองเลือดหรอก เพราะทุกคนรู้ดีว่า นองเลือดอย่างไรก็ไม่ได้ประชาธิปไตย มีแต่ตายฟรีซ้ำรอย

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar