söndag 21 april 2019

ตัวอย่างของรัฐบาล คสช.ของกษัตริย์วชิราลงกรณ์ที่ถูกสั่งสอนว่าให้เป็นคนดีไม่โกงกินประเทศชาติ ?

อูฟู่กันน่าดู ยุคเปลี่ยนผ่านจาก คสช.เป็นพลังประชารัฐ ถลุงอีก ๒ หมื่นกว่าล้านช่วง ๓ เดือนสุดท้าย



เหมือนทางปฏิบัติในระบบราชการไทยตอนปลายปี กระทรวงทบวงกรมต้องเร่งจ่ายเงินงบประมาณให้เกลี้ยงเกลา เพื่อปีต่อไปจะได้รับจัดสรรให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือเพิ่มขึ้น ขืนใช้ไม่หมดปีหน้าอด รัฐบาล คสช.ชุดยึดแย่งเขามาก็เช่นกัน ฉันใดก็ฉันนั้น
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ชวนรัฐมนตรีสายการเงินมานั่งแถลง ว่าช่วงเวลาสองสามเดือนที่เหลือก่อนเข้าสู่รัฐบาลหลังการเลือกตั้ง รัฐบาลชุดยึดแย่งนี่ต้องเร่งจับจ่ายงบประมาณอีกสัก ๒ หมื่นกว่าล้านบาท เพื่อกระตุ้นอะไรต่ออะไรทางเศรษฐกิจ แบบที่เคยกระตุ้นมาแล้วไม่มีอาการกระตุกนั้นน่ะ
และเพื่อให้ไม่เป็นที่ครหาว่าดีแต่ใช้เงิน หาไม่เป็น ทั่นรองฯ รู้ทันจึงรีบบอกด้วยว่าทีมประชารัฐจะทำการขูดเลือดทางไซเบอร์ “เตรียมจัดเก็บภาษีผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์” แม้นว่าล่าสุดการใช้มาตรการนี้ได้ผลดีอยู่แล้ว ก็ต้องขยับขยายไว้เผื่อรัฐบาลหน้าด้วย
จะว่าเตรียมไว้ให้เพราะมั่นใจพลังประชารัฐตั้งรัฐบาลให้เฮียตู๊บ ๔.๐ กลับมาเป็นนายกฯ อีกได้ ก็ไม่เชิง เพียงแต่ชุดนี้มีความรอบคอบสูง ความรับผิดชอบเป็นเลิศ เป็นห่วงอนาคต จึงต้องรีบหนุนเสียแต่ตอนนี้ ขณะที่สั่งอะไรได้ง่ายๆ ไม่มีใครกล้าท้วงกล้าหือ
“เตรียมพร้อมด้านสถานะทางการคลังของไทยสำหรับรับมือ หากเข้าสู่ภาวะวิกฤตก็ยังสามารถขับเคลื่อนประเทศไปต่อได้” สำหรับรายละเอียดว่าจะเอาเงินไปทำอะไรบ้าง ก็เซมเซม เช่นช้อปช่วยชาติ ลดภาษีท่องเที่ยว และช่วยผู้ปกครองซื้ออุปกรณ์การเรียน ฯลฯ
นั่นหลังจากเถียงไม่ขึ้นเรื่องจีดีพีปีนี้ขุนอย่างไรก็ไม่โต เห็นทีจะไม่เกิน ๓ เปอร์เซ็นต์แน่ๆ และยังมีเรื่องต้องใช้เงินอีกเยอะ การเลือกตั้งที่ผลาญไปเกือบ ๖ พันล้านแล้วยังประกาศผลไม่ได้ รอวันที่ ๙ พฤษภา หลังเสร็จราชพิธีราชาภิเษก (นี่ก็รายจ่าย)
แล้วยังที่ทางสำหรับ ส.ส. ใช้ประชุมกันสร้างไม่เสร็จ จะขอกลับไปใช้ที่เก่าก็หมดหวังหลังเย็นแล้ว ทุกอย่างกลายเป็นสมบัติพระราชฐานมิบังควรแตะต้อง ก็เลยใช้วิธีเช่าที่ห้องประชุมบริษัททีโอทีไปก่อนพลางๆ จะนานกี่เดือนกี่ปีมิรู้ได้
 
รองประธานฯ สนช. บอกว่าจะกินงบประมาณแผ่นดินอีกเดือนละ ๑๑ ล้านบาทกว่าๆ ครั้นจะใช้เงินจากงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่เพียงพอ แม้เดือนพฤษภาคมนี่เองก็ยังไม่มี “จึงเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีขอใช้งบกลางจำนวน ๖๐ ล้านบาท” จนกระทั่งสิ้นปี
มิใย @Pphassamon ประชากรรายหนึ่งบ่นไว้บนทวิตภพ “บริษัทรับเหมา (สร้างตึกรัฐสภาแห่งใหม่) จ่ายซิคะ ทำไม่เสร็จตามสัญญา เงินไม่มีก็มารีดภาษีกับประชาชน” คสช.ทั่นหรือจะฟัง ไม่ให้ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ไปฟ้องข้อหาหมิ่นผู้ปกครอง ก็ดีเท่าไหร่แล้ว
ขนาดเรื่องหลานชายนายกฯ ลูกของน้องชายหัวแก้วหัวแหวน พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ร่ำรวยผิดปกติ ตั้งบริษัทรับเหมาใช้ที่อยู่บ้านพักในค่ายทหาร เงินลงทุนหลัก (หนึ่ง) ล้าน แต่รับงานมูลค่ากว่า ๓๐๐ ล้าน ล้วนเป็นการก่อสร้างของกองทัพทั้งนั้น
เรื่องที่กำลังดังมากตอนนี้แต่ดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เพิ่งได้รับประกันแอ่นอกยันจาก ป๋า ว่าเก่ง (เหมือนกัน) แต่ไม่โกง จะไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจอะไร ขนาดทรัพย์สินตนเอง ๑๓๘ ล้านยังธรรมดา น้อยไปเสียด้วยเทียบ น้องแดง ไม่ได้
แต่ชาวบ้านร้านถิ่นไม่สามารถที่จะอดทึ่งและงงงวยไม่ได้ เมื่อเห็นหลานคนน้อง นายปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งเก่งเข้าไปใหญ่ อายุเพียง ๒๗ ปีเป็นเจ้าของบริษัทพี-ไรท์แอนด์บริส จำกัด เพิ่งจดทะเบียนเมื่อ ๘ เดือนที่แล้ว เพิ่งรับงานก่อสร้างอาคารกองพันทหารราบที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๑๔ กองทัพภาคที่ ๓ มาหมาดๆ
นายปฏิพัทธ์คนนี้เมื่อปี ๒๕๕๙ ตกเป็นข่าวที่จู่ๆ ได้ยศเป็นร้อยตรี “ในตำแหน่งนายทหารฝ่ายกิจการพลเรือนของกองทัพภาคที่ ๓ โดย พล.อ.ปรีชาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อหลายสำนักยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง และระบุว่า ใคร ๆ ก็ทำกัน”
นายปฏิพัทธ์ตอนนี้ลาออกจากราชการแล้ว มาได้สัมปทานก่อสร้างอาคารของทัพภาค ๓ ร่วมกับพี่ชาย มูลค่า ๑๑.๘ ล้านบาท จะว่าเพราะฝีมือพี่ชาย นายปฐมพล จันทร์โอชา เจ้าของบริษัทรับเหมาอีกรายที่เคยเป็นข่าวโด่งเมื่อปี ๒๕๕๗ ตอนตั้งใหม่ๆ ใช้ที่อยู่ในค่ายทหาร
หจก.คอนเทมโพรารีฯ ของนายปฐมพลผู้พี่นี่ก็สุดเก่ง ช่วงสามปีที่ผ่านมารับงานก่อสร้างในโครงการของรัฐกว่า ๑๘ ราย มูลค่ารวมกันกว่า ๓๐๕ ล้านบาท รวยไม่รวยดูได้จากภรรยาซึ่งเป็นหุ้นส่วนบริษัทด้วย สำนักข่าวอิศราตาดี เห็นสกู๊ปบทความเกี่ยวกับคนดังไฮโซในนิตยสารแพรว มีนางวัลละภา จันทร์โอชา อยู่ด้วย
 
ลูกสะใภ้ พล.อ.ปรีชาคนนี้รสนิยม แพงมาก ใช้กระเป๋าถือยี่ห้อเฮอร์เมสหลายใบ ใบสีเหลืองพิเศษ (แอมเบรอ) ราคา ๗ แสนกว่าบาท อีกใบรุ่นคอนสแต๊นซ์ ราคา ๓ แสน ๗ หมื่น กับรุ่นโนเอ จิ๊บจ้อย ๒ หมื่น ๕ พันเท่านั้น
ส่วนกระเป๋าใส่เศษตังค์ยี่ห้อแชนเนล ราคาแค่ ๖ หมื่นกว่าๆ ด้านรสนิยมนาฬิกาไม่แพ้ลุงป้อม คุณนายวัลละภาวัยยังใส ใช้ปาเต็กฟิลลิปส์ แจแน้ฟ ราคาเบาะๆ ๑ ล้าน ๖ แสนบาท ของเหล่านี้เธอไม่หน่อมแน้มกับใคร ยินดีให้สาธารณะเข้าชมได้ทางหน้าอินสตาแกรม
ดูเอาแล้วกันยุคเปลี่ยนผ่านจาก คสช. เป็นพลังประชารัฐ อูฟูกันแค่ไหน เดี๋ยวปีหน้าค่าไปเพิ่มอีกเป็นหน่วยละสี่บาทกว่า ก็คงช่วยให้รัฐบาลหน้า เข้มแข็ง-มั่งคั่ง-มั่นคงอย่างที่ สมคิดฝัน

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar