เรื่อง งูอยู่ในบ้าน
โดย กาหลิบ
แรกที่สุดขอแสดงความยินดีกับ “ชัยชนะ” ของพรรคเพื่อไทย
ในฐานะไทยรักไทยคืนชีพ เหมือนที่เคยแสดงความยินดีกับพรรคพลังประชาชนมาแล้วครั้งหนึ่ง
กว่าจะเป็นเสียงข้างมากในวันนี้
แต่ละท่านก็ได้ช่วยฝ่าฟันอุปสรรคทางเทคนิคต่างๆ มาอย่างทรหดอดทน
เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอย่างน้อยก็เป็นกำลังใจ
สำหรับมวลชนผู้สละชีวิตและวิญญาณให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมานานปี
แต่สิ่งที่ตามมาติดๆ คือคำเตือนว่าอย่าประมาท เรา “ชนะ” ในระบบเลือกตั้ง
เพราะประชาชนท่านมุ่งมั่นศรัทธาอย่างท่วมท้น จนผู้อยู่ตรงข้ามกับระบอบประชาธิปไตย
ที่ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจให้เราเข้าสู่อำนาจรัฐในขั้นต้น
และไม่ท้าทายอำนาจของประชาชนในขั้นตอนนี้
ผู้ที่ก่อรัฐประหารมาแล้ว สั่งฆ่านายกรัฐมนตรีเลือกตั้งมาแล้ว
และสั่งฆ่าหมู่ประชาชนที่ไร้อาวุธใน เวลากลางวันแสกๆ กลางถนนของเมืองหลวงมาแล้ว
เราจะหวังให้เขาสยบยอมต่อมติมหาชนง่ายๆ ได้หรือ
คำถามคือเขาจะเดินหมากในศึกชิงเมืองครั้งนี้ต่อไปอย่างไรมากกว่า
งานของรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยชี้นำจึงมี ๒ ส่วน ได้แก่
การบริหารราชการแผ่นดินตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง
กับการปกป้องระบอบประชาธิปไตยจากศัตรูรอบด้าน
อุปมาเหมือนเราได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่สวยงามจับตา
เราตื่นเต้นยินดีและช่วยกันลงแรงตกแต่งบ้านจนน่าอยู่
บางคนทาสี บางคนถูพื้น บางคนรดน้ำต้นไม้ บางคนต่อไฟ
ต่างช่วยกันตามความรู้ความสามารถของตน
ไม่นานบ้านนั้นก็จะพร้อมมูลและให้ความผาสุกกับผู้อยู่อาศัยได้ยิ่งขึ้น
ปัญหาคือบ้านหลังนี้มีงูพิษแอบอยู่ในซอกมุม มันเห็นคนมากมัน
ก็หลบลึกเข้าไปในมุมมืดจนเรามองไม่เห็นตัว
เพราะมันรู้ดีว่าหากออกมาเลื้อยแสดงตัวชัดเจน คนในบ้านคงรุมตีตายแน่
สิ่งที่เจ้าบ้านต้องช่วยทำคือ พร่ำเตือนและชี้ซอกมุมต่างๆ
ที่งูเหล่านั้นอาจเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่
เราต้องบอกคนในบ้านให้อยู่ในความรอบคอบระมัดระวังเสมอ
เพราะเรายังไม่รู้ว่ามีงูกี่ตัว แต่ละตัวมีพิษสงร้ายกาจขนาดไหน
หากไม่คอยเตือนให้ต่อเนื่อง
คนในบ้านอาจเพลิดเพลินเจริญใจกับบ้านใหม่ และแสวงหาความสำราญกันอย่างเต็มที่
จนพลาดท่าเสียทีถูกงูมันฉกกัดตายได้ในบ้านที่สวยงามนั้นเอง
เราเคยผ่านประสบการณ์ของรัฐบาลสมัคร สุนทรเวชและรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์มาแล้ว
โรคเห่อชัยชนะจนลืมระวังพิษพยาบาทของศัตรูที่อยู่รายล้อมนั้น
อาการสำคัญขั้นตรีทูตคือความล้มเหลวและความเสียหาย
ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบอบประชาชนทั้งๆ ที่ประชาชน “ชนะ” แล้วอย่างน่าภูมิใจ
ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางปัจจัยเก่าๆ ที่ยังไม่เปลี่ยน อาทิ
กองทัพที่ยังยืนยันในใจว่าตนเองไม่รับคำสั่งจากรัฐบาล
โดยเฉพาะกองทัพบก
และโดยเฉพาะกับรัฐบาลของประชาชน เพราะถือว่ารัฐบาลเป็นเพียง “จ็อคกี้”
ที่ขี่ม้าให้กับเจ้าของคอกผู้อยู่เหนือขึ้นไปในโครงสร้างของอำนาจรัฐ
ความหมายลึกลงไปอีกชั้นคือเป็นกองทัพรอรับคำสั่งจากผู้ที่อยู่เหนือขึ้นไปนั้นเอง
หรือจะเรียกว่าผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญก็คงจะไม่ห่างจากความจริงนัก
ซึ่งอาจเป็นคำสั่งให้ทำลายรัฐบาลนั้นได้ทุกเมื่อด้วย
สถาบันตุลาการที่ตัดสินคดีความตามนโยบายการเมืองของผู้มีบารมีฯ
ถึงผู้พิพากษาที่เป็นไทแก่ตนเองจะมีมากและแสดงตัวชัดเจนอย่างกล้าหาญขึ้น
แต่กระแสหลักของอำนาจศาลยังเป็นไปเพื่อการรักษาระบอบ
และสถานภาพเดิม (status quo) ของผู้มีบารมีฯ
กฎหมายปัจจุบันจึงยังเดินตามหลักเดิมของกฎหมายตราสามดวง
ที่ชนชั้นปกครองทั้งสามส่วนรวมอำนาจกันอย่างลงตัวและตัดประชาชนออกไปเสียจากสมการนั้น
สื่อมวลชนกระแสหลักที่ยังถูกควบคุมด้วยสัญญา สัมปทาน ใบอนุญาต
และผลประโยชน์ร่วมกับผู้มีอำนาจรัฐในทางอื่นๆ ถึงขั้นสะกดจิตตัวเอง
ให้เห็นแต่ความดีงามอันล้นพ้นของฝ่ายหนึ่ง หรือหลอกตัวเองว่า
อีกฝ่ายหนึ่งเลวทรามต่ำช้าจนคบไม่ได้
สุดท้ายก็เลยยืนคนละข้างกับมวลชนทั้งที่เรียกตัวเองอย่างเท่ว่าสื่อมวลชน
ว่างปากขึ้นมาก็เรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคต่างๆ
เสมือนตนเองมีเกียรติตามธรรมชาติอย่างสื่อสากลเขา
องค์กรที่มิใช่รัฐ หรือ NGOs สายที่ประสานประโยชน์กันอย่างลงตัวแล้ว
ยกเอาบารมีของตนไปค้ำประกันความมั่นคงให้กับเจ้าของประเทศไทย
โดยลืมประชาชนที่ตนเองเอามาอ้างทำมาหากินเสียสิ้น
เราจึงได้ยินชื่อของนายแพทย์ประเวศ วะสี คุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ฯลฯ เสมอๆ
เมื่อมีการปรับดุลอำนาจและเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ท่านผู้มีชื่อเสียงกึกก้องเหล่านี้
จะยกอำนาจทางศีลธรรมจริยธรรม (moral authority) มาชี้นำรัฐบาลนั้นๆ
ให้เห็นโลกอย่างที่ตัวเองเห็น และทำให้เงินทองไหลมาในทางเดียวกันนั้นด้วย
ในฐานะเงินสนับสนุนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ
ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้มิได้เปลี่ยนไปตามมติมหาชนเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔
และไม่ได้แปรผันตามการสู่อำนาจของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยเลย
ใครใกล้ศูนย์อำนาจของพรรคเพื่อไทยก็โปรดเป็นรัฐบาลไปให้ดีที่สุด
นำอำนาจรัฐมาแปลงให้เป็นผลประโยชน์แก่มวลชนให้มากที่สุด
แต่คนที่ไกลออกมาหน่อยหรือไม่ประสงค์จะวิ่งเข้าไปใกล้
ก็โปรดอยู่ด้วยกันในรอบนอกนี้ต่อไปเถิด
ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่กว้างไกลและลึกซึ้งกว่านี้กำลังจะเกิด
และยังต้องการทุกท่านให้มาช่วยเป็นกำลังสนับสนุนอยู่
ขอความกรุณาท่านพี่น้องสองชิ้นว่า
อย่าเอาไข่ไปใส่ในตะกร้าเดียวกันหมด
ตกแตกเมื่อไหร่ขบวนประชาธิปไตยอาจจะเสียหายอย่างแก้คืนไม่ได้.
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar