และสำหรับปัญหาเกี่ยวกับความผิดอาญาฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี สำหรับการแสดงความคิดเห็นถือเป็นการดูหมิ่นเบื้องสูง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ควรจะมีการสะสางให้เสร็จสิ้น และตนก็คิดว่าปัญหาดังกล่าว เป็นเรื่องที่อ่อนไหว ซึ่งจะต้องหาผู้ที่มีความชำนาญการเป็นพิเศษ ในการหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ และตนก็ไม่อยากให้ประชาชนใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพบ่อยเกินไป และไม่ต้องการให้คนไทยใช้กฎหมายนี้ในทางที่ผิด นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวด้วยว่า รัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ถูกบังคับใช้หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2549 ซึ่ง "อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง" หลังกระบวนการหารือ ซึ่งรัฐบาลควรจะถามประชาชนว่า ต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใด อีกทั้งควรจะทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย แต่ รัฐบาลจากนี้ไปจะไม่เริ่มต้นใหม่ทั้งหมด และสิ่งที่ตนสนใจเป็นอับแรกคือ "การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ"
พร้อมกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวว่า สิ่งแรกที่จะทำให้การปรองดองเกิดขึ้นจริง คือ ทุกๆ คนต้องกลับไปก่อนคำตัดสินของศาล และตนจะไม่ยอมรับการนิรโทษกรรม สำหรับผู้ที่จะต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของประชาชนในเหตุการณ์ความ รุนแรงเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งการปรองดองแตกต่างจากการนิรโทษกรรม
อย่างไรก็ดีในขณะที่มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พยายามที่จะแสวงหาหนทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาประเทศไทย ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือ ผู้อยู่เบื้องหลังการบริหารงานของพรรคเพื่อไทย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ตอบประเด็นนี้อย่างชัดเจนว่า จริงที่พี่ชายของตน มีประสบการณ์ทางการเมืองอย่างสูง แต่ตนก็มีความสามารถพอที่จะตัดสินใจเองได้ ดังนั้นตนคิดว่า ตนจะเป็นผู้นำด้วยตัวของตัวเอง
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar