หนึ่งภาพที่ติดตาตรึงใจ
จำได้ไม่รู้ลืม ภาพที่ได้เห็นคลิปวีดิโอ เมื่อพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ถูกกระสุนปืนจากระยะไกลทรุดล่วงลงดุจนกปีกหัก ภาพที่ท่านทุลักทุเลถูกหามถูกลากจากผู้ที่จงรักนำตัวส่งโรงพยาบาล และท่านก็มาเสียชีวิตบนเตียงนอนที่โรงพยาบาล แม้ท่านจะไม่สบายมากนักจากการถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ร่างกายของท่านก็มีอวัยวะครบบริบูรณ์ เมื่อสิ้นลม
ในวันที่ท่านถูกยิง ในวันที่ท่านถูกนำตัวท่านส่งโรงพยาบาล มีประชาชนที่ไม่กลัวตายเฝ้าติดตามท่านไปที่โรงพยาบาล ไปเป็นเกราะป้องกันท่านให้ เอาชีวิตตนเองไปเสี่ยงกับกระสุนปืนที่จ้องทำลายล้างอย่างไม่กลัวตาย ปกป้องให้กับท่าน ไม่ให้ทหารที่ไหนมายุ่งเกี่ยวกับท่านเป็นอันขาด ให้ท่านได้รับการรักษาอย่างสะดวก หลายคนที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าไปที่โรงพยาบาลในวันนั้นเพื่อเป็นเกราะเป็นยามเฝ้าให้ เหตุเพราะ ถูกบล็อกเส้นทางจากทหารและตำรวจไม่ให้เข้าไปถึงสถานที่ ต้องทนนอนร่ำไห้อยู่ที่บ้าน ด้วยหัวใจที่อเนจอนาถยิ่งนัก
เมื่อชีวิตท่านสิ้นลง ไม่มีกองเกียรติยศที่ไหนนำศพท่านอออกจากโรงพยาบาลในฐานะวีรบุรุษของชาติ ทั้งที่ท่านทำงานให้กับชาติประชาชนมาตลอดชีวิตของท่านแม้จนนาทีสุดท้ายของชีวิต ไม่มีการปูนบำเหน็จให้ ไม่มีการพระราชทานเพิ่มชั้นยศ มีแต่ไพร่ที่เป็นทาสหัวใจของท่านเป็นกองเกียรติยศของประชาชนให้เท่านั้น และเมื่อนำศพท่านมาที่วัด ก็ประชาชนอีกนั่นแหละเป็นเจ้าของศพ ปกป้องให้ท่านจนวาระสุดท้าย
1ปีกว่าที่ท่านจากไปชื่อ พล.ต.ขัตติยะ ยังตรึงใจคนไทยไม่รู้ลืม ท่านคือทหารของประชาชนเกินครึ่งประเทศจริงๆ แม้ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครลืม ยังนำชื่อนี้มาเอ่ยทุกครั้งเพื่อปลุกขวัญในการต่อสู้
อีกหลายภาพต่อมาต่างกรรมต่างวาระ ในเวลาอีก1ปีต่อจากนั้นมา
กรรมที่มีผู้ก่อ แต่กระแดะเหมือนพวกตนที่ก่อนั้นดีเลิศประเสริฐศรีเหลือเกิน อาวุธหลายแสนนัดนำเอามาใช้ในสงคราบเข่นฆ่าประชาชน ใช้ไปแล้วเป็นแสนนัดหลังจากปฏิบัติการเสร็จ แม้ว่ามันไม่ใช่ใบเสร็จที่จะบอกได้ว่าลูกปืนจากกระบอกปืนที่เบิกไปลูกกระสุนมาจากปืนกระบอกไหน แต่นัยของมันก็ฟ้องชัดเจนแล้วว่า ลูกปืนที่เข่นฆ่าประชาชนน่าจะมาจากใคร
กระบวนการยัดเยียดให้คนตายเป็นผู้ผิด
กระบวนการใช้สื่อบิดเบือนข่าวว่าพวกตนในไม่ได้ทำ
กระบวนการยุติธรรมทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศไทยหยุดนิ่ง เหมือนว่าคนที่ตายนั้นไม่ใช่คนไทย
พวกตัวทำลายล้างประชาชนนั้น ร่ำรวยทันตาเห็นอย่างมโหฬาร จากเงินภาษีของคนที่พวกมันร่วมกันเข่นฆ่า แล้วสร้างภาพให้ตนเองอย่างสวยหรู เป็นทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง ได้ยศได้ตำแหน่งกันถ้วนหน้า
“ทั้งหมดได้ดีเพราะกิจกรรมฆ่าคนไทยผู้บริสุทธิ์มือเปล่าทั้งนั้น” อเนจอนาถใจจริงๆกับประชาชนตาดำๆ
สิ่งที่พวกประชาชนไม่ได้กระทำ
“เผาบ้านเผาเมือง” ก็ได้สร้าง “วลี”อมตะกันไปเลยให้ทั่วโลกประจักษ์ ว่าคนไทยผู้บริสุทธิ์ นั้นเลวอย่างไม่มีชิ้นดี
“ผู้ก่อการร้าย” สร้างนิยาย สร้างตำนานขึ้นมาใหม่ คล้ายกับว่าเมืองหลวงของประเทศไทยนั้นไม่ปลอดภัยแล้วเมื่อมีประชาชนส่วนที่รักประชาธิปไตยออกมาต่อต้าน ทำยังไงก็ได้ที่พวกประชาชนเจ้าของประเทศต้องเลว มันสร้างวาทกรรมขึ้นมาให้หมด
ที่หลงเหลือกลาย “เป็นนักโทษ” โดยที่ยังไม่ได้รับการพิพากษาจากศาล เอาประชาชนไปขังฟรีๆ ไม่ให้ประกันตัว บางคนต้องล่ามโซ่ตรวนด้วยซ้ำ เอากันให้ชัดๆไปเลย ประชาชนกับพวกเข่นฆ่าเป็นศัตรูถาวร แบบนั้น
พวกที่เข่นฆ่าประชาชนกลายเป็นผู้บริสุทธิ์เป็นคนดีเป็นผู้เสียสละ ส่วนประชาชนผู้ถูกเข่นฆ่าถูกกระทำ ต้องตายฟรี ต้องติดคุกติดตะราง กลายเป็นโจร
“สวรรค์ไม่มีตา” เราทราบกันดีอยู่แล้ว แต่เรื่องของความยุติธรรม มันแสดงผลให้เห็นโดยธรรมชาติในตัวมันเอง
วันดีคืนดี เครื่องบินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้ครอบครอง ก็ต้องมีอันต้องไปจอดทิ้งไว้ในต่างประเทศไม่สามารถเอากลับเมืองไทยได้ เหตุผลอะไรมิอาจทราบความนัย อะไรคือเบื้องหลังการถูกยึดเครื่องบินครั้งนี้
วันดีคืนดี เครื่องบิน ก็ล่วงหล่นแหลกลาน เหตุแห่งการปฏิบัติหน้าที่ แถบชายแดน ทหาร5นาย ตายทั้งลำ
วันดีอีกเหมือนกัน เครื่องบินที่บรรทุกทหารผู้ยิ่งใหญ่ได้ดีเป็นถึงพล.ต.คุมกำลังหลัก ว่าที่อนาคต ผบ.ทบ. ก็ล่วงหล่นตามมาแหลกลานอีกในทันทีเหมือนกัน ตายทั้งหมดเช่นเดียวกัน ทหาร8ศพ ช่างภาพที่เป็นบุตรทหารอีก1ศพ
วันดีมากๆ เครื่องบินที่ไปรับศพ พล.ต.ผู้ยิ่งใหญ่นั้นก็ล่วงหล่นลงมาอีกทหารตาย 3คนรวด รอดตายเพียงคนเดียว
ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงเดือนในเวลาไล่เลี่ยกันเป็นลูกโช่
และทั้งหมดที่กล่าว มีส่วนสำคัญมากๆ ที่เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด
และ มีส่วนสำคัญอย่างสูงที่ฆ่าประชาชนแล้วยังใส่ร้ายประชาชน ทรมานประชาชนอีก มีบางคนสั่งการให้กระบวนการยุติธรรมผิดเพี้ยนไป อยู่ในนั้นด้วย
“ฟ้ากำหนดให้ ทั้งหมดล่วงลงจากฟ้าทั้งนั้น”
ไม่ต้องพูดถึง มี กองเกียรติยศไปรับศพ ประกอบพิธีอย่างยิ่งใหญ่ เลื่อนชั้นยศกัน ทิวแถว9ขั้น เงินปูนบำเหน็จให้กับญาติ มหาศาล และอีกแล้ว “วีรบุรุษสำหรับขุนนาง”
มีสิ่งหนึ่งที่จะบอก กลุ่มทหารทั้งหมดนี้เกียรติยศที่ได้รับได้แค่นามธรรม แม้แต่ร่างกายที่สิ้นแล้วก็ยังไม่อาจมาประกอบพิธีได้สมบูรณ์ได้
ยังจำกันได้ไหม
ภาพที่เครื่องบินลอยอยู่กลางอากาศแล้วขว้างวัสดุโลหะภายในบรรจุแก๊สพิษลงมา ถ้าโดนใคร คนผู้นั้นคงจะไม่รอดแน่ เพราะความสูงที่หล่นลงมา มันแรงเหลือเกิน แต่ถ้าไม่โดนแค่ได้รับสารพิษจากกระป๋องดังกล่าวนั้น ก็สุดทนแล้ว มันทรมานแสนสาหัสนัก
เครื่องบินลำสุดท้ายที่ล่วงหล่นลงมาไฟไหม้ทั้งลำนี้เลยครับ ที่มาจาก ราบ11 ที่มาแห่งเดียวกับเครื่องบินที่ทิ้งแก๊สน้ำตาลงมาที่หัวประชาชนในวันนั้น แต่จะลำเดียวกันหรือไม่อันนี้ไม่ทราบจริงๆ
ผมจะไม่พยายาม โยงอะไรเป็นอะไรแล้วเอาความเชื่อส่วนตัวมาใส่เป็นอักษรให้ท่านๆทั้งหลายได้อ่าน
แต่..เชื่อไหมว่า ข้อเขียนทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้ใช้ความคิดตัวเองเลย ทั้งหมดเอามาจากห้องซีบ็อก ของไทยว้อยทั้งหมดhttp://www.thaivoice.org/
แสดงว่า ท่านๆทั้งหลายที่เสพสื่อมาอย่างช้านานเกือบทั้งหมด เชื่อไปในทิศทางเดียวกันว่า
“กรรมกำลังสนองตอบกันแล้ว”
ทั้งหมดหล่นจากฟ้าลงมาทั้งนั้น ร่างถูกฉีกขาดเป็นเสี่ยงๆ ทั้งนั้น
ก่อนจบ..กระผมผู้เขียน ขอน้อมคารวะศพท่านพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อีกครั้งครับ ที่ได้นำนามของท่านมาเขียนลงในข้อเขียนนี้
จะบอกว่า.. ท่านคือวีรบุรุษของประชาชนจริงๆ ยศถาบรรดาศักดิ์ก็แค่ของนอกกายนำไปด้วยไม่ได้ จะ “พล.ต.”หรือ “พล.อ.” มันไม่สำคัญ
ความสำคัญมันอยู่ที่ว่า “ท่านเลือกที่จะเป็นแค่พล.ต. ในตำแหน่งนักรบของประชาชน”ครับ
จำได้ไม่รู้ลืม ภาพที่ได้เห็นคลิปวีดิโอ เมื่อพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ถูกกระสุนปืนจากระยะไกลทรุดล่วงลงดุจนกปีกหัก ภาพที่ท่านทุลักทุเลถูกหามถูกลากจากผู้ที่จงรักนำตัวส่งโรงพยาบาล และท่านก็มาเสียชีวิตบนเตียงนอนที่โรงพยาบาล แม้ท่านจะไม่สบายมากนักจากการถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ร่างกายของท่านก็มีอวัยวะครบบริบูรณ์ เมื่อสิ้นลม
ในวันที่ท่านถูกยิง ในวันที่ท่านถูกนำตัวท่านส่งโรงพยาบาล มีประชาชนที่ไม่กลัวตายเฝ้าติดตามท่านไปที่โรงพยาบาล ไปเป็นเกราะป้องกันท่านให้ เอาชีวิตตนเองไปเสี่ยงกับกระสุนปืนที่จ้องทำลายล้างอย่างไม่กลัวตาย ปกป้องให้กับท่าน ไม่ให้ทหารที่ไหนมายุ่งเกี่ยวกับท่านเป็นอันขาด ให้ท่านได้รับการรักษาอย่างสะดวก หลายคนที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าไปที่โรงพยาบาลในวันนั้นเพื่อเป็นเกราะเป็นยามเฝ้าให้ เหตุเพราะ ถูกบล็อกเส้นทางจากทหารและตำรวจไม่ให้เข้าไปถึงสถานที่ ต้องทนนอนร่ำไห้อยู่ที่บ้าน ด้วยหัวใจที่อเนจอนาถยิ่งนัก
เมื่อชีวิตท่านสิ้นลง ไม่มีกองเกียรติยศที่ไหนนำศพท่านอออกจากโรงพยาบาลในฐานะวีรบุรุษของชาติ ทั้งที่ท่านทำงานให้กับชาติประชาชนมาตลอดชีวิตของท่านแม้จนนาทีสุดท้ายของชีวิต ไม่มีการปูนบำเหน็จให้ ไม่มีการพระราชทานเพิ่มชั้นยศ มีแต่ไพร่ที่เป็นทาสหัวใจของท่านเป็นกองเกียรติยศของประชาชนให้เท่านั้น และเมื่อนำศพท่านมาที่วัด ก็ประชาชนอีกนั่นแหละเป็นเจ้าของศพ ปกป้องให้ท่านจนวาระสุดท้าย
1ปีกว่าที่ท่านจากไปชื่อ พล.ต.ขัตติยะ ยังตรึงใจคนไทยไม่รู้ลืม ท่านคือทหารของประชาชนเกินครึ่งประเทศจริงๆ แม้ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครลืม ยังนำชื่อนี้มาเอ่ยทุกครั้งเพื่อปลุกขวัญในการต่อสู้
อีกหลายภาพต่อมาต่างกรรมต่างวาระ ในเวลาอีก1ปีต่อจากนั้นมา
กรรมที่มีผู้ก่อ แต่กระแดะเหมือนพวกตนที่ก่อนั้นดีเลิศประเสริฐศรีเหลือเกิน อาวุธหลายแสนนัดนำเอามาใช้ในสงคราบเข่นฆ่าประชาชน ใช้ไปแล้วเป็นแสนนัดหลังจากปฏิบัติการเสร็จ แม้ว่ามันไม่ใช่ใบเสร็จที่จะบอกได้ว่าลูกปืนจากกระบอกปืนที่เบิกไปลูกกระสุนมาจากปืนกระบอกไหน แต่นัยของมันก็ฟ้องชัดเจนแล้วว่า ลูกปืนที่เข่นฆ่าประชาชนน่าจะมาจากใคร
กระบวนการยัดเยียดให้คนตายเป็นผู้ผิด
กระบวนการใช้สื่อบิดเบือนข่าวว่าพวกตนในไม่ได้ทำ
กระบวนการยุติธรรมทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศไทยหยุดนิ่ง เหมือนว่าคนที่ตายนั้นไม่ใช่คนไทย
พวกตัวทำลายล้างประชาชนนั้น ร่ำรวยทันตาเห็นอย่างมโหฬาร จากเงินภาษีของคนที่พวกมันร่วมกันเข่นฆ่า แล้วสร้างภาพให้ตนเองอย่างสวยหรู เป็นทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง ได้ยศได้ตำแหน่งกันถ้วนหน้า
“ทั้งหมดได้ดีเพราะกิจกรรมฆ่าคนไทยผู้บริสุทธิ์มือเปล่าทั้งนั้น” อเนจอนาถใจจริงๆกับประชาชนตาดำๆ
สิ่งที่พวกประชาชนไม่ได้กระทำ
“เผาบ้านเผาเมือง” ก็ได้สร้าง “วลี”อมตะกันไปเลยให้ทั่วโลกประจักษ์ ว่าคนไทยผู้บริสุทธิ์ นั้นเลวอย่างไม่มีชิ้นดี
“ผู้ก่อการร้าย” สร้างนิยาย สร้างตำนานขึ้นมาใหม่ คล้ายกับว่าเมืองหลวงของประเทศไทยนั้นไม่ปลอดภัยแล้วเมื่อมีประชาชนส่วนที่รักประชาธิปไตยออกมาต่อต้าน ทำยังไงก็ได้ที่พวกประชาชนเจ้าของประเทศต้องเลว มันสร้างวาทกรรมขึ้นมาให้หมด
ที่หลงเหลือกลาย “เป็นนักโทษ” โดยที่ยังไม่ได้รับการพิพากษาจากศาล เอาประชาชนไปขังฟรีๆ ไม่ให้ประกันตัว บางคนต้องล่ามโซ่ตรวนด้วยซ้ำ เอากันให้ชัดๆไปเลย ประชาชนกับพวกเข่นฆ่าเป็นศัตรูถาวร แบบนั้น
พวกที่เข่นฆ่าประชาชนกลายเป็นผู้บริสุทธิ์เป็นคนดีเป็นผู้เสียสละ ส่วนประชาชนผู้ถูกเข่นฆ่าถูกกระทำ ต้องตายฟรี ต้องติดคุกติดตะราง กลายเป็นโจร
“สวรรค์ไม่มีตา” เราทราบกันดีอยู่แล้ว แต่เรื่องของความยุติธรรม มันแสดงผลให้เห็นโดยธรรมชาติในตัวมันเอง
วันดีคืนดี เครื่องบินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้ครอบครอง ก็ต้องมีอันต้องไปจอดทิ้งไว้ในต่างประเทศไม่สามารถเอากลับเมืองไทยได้ เหตุผลอะไรมิอาจทราบความนัย อะไรคือเบื้องหลังการถูกยึดเครื่องบินครั้งนี้
วันดีคืนดี เครื่องบิน ก็ล่วงหล่นแหลกลาน เหตุแห่งการปฏิบัติหน้าที่ แถบชายแดน ทหาร5นาย ตายทั้งลำ
วันดีอีกเหมือนกัน เครื่องบินที่บรรทุกทหารผู้ยิ่งใหญ่ได้ดีเป็นถึงพล.ต.คุมกำลังหลัก ว่าที่อนาคต ผบ.ทบ. ก็ล่วงหล่นตามมาแหลกลานอีกในทันทีเหมือนกัน ตายทั้งหมดเช่นเดียวกัน ทหาร8ศพ ช่างภาพที่เป็นบุตรทหารอีก1ศพ
วันดีมากๆ เครื่องบินที่ไปรับศพ พล.ต.ผู้ยิ่งใหญ่นั้นก็ล่วงหล่นลงมาอีกทหารตาย 3คนรวด รอดตายเพียงคนเดียว
ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงเดือนในเวลาไล่เลี่ยกันเป็นลูกโช่
และทั้งหมดที่กล่าว มีส่วนสำคัญมากๆ ที่เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด
และ มีส่วนสำคัญอย่างสูงที่ฆ่าประชาชนแล้วยังใส่ร้ายประชาชน ทรมานประชาชนอีก มีบางคนสั่งการให้กระบวนการยุติธรรมผิดเพี้ยนไป อยู่ในนั้นด้วย
“ฟ้ากำหนดให้ ทั้งหมดล่วงลงจากฟ้าทั้งนั้น”
ไม่ต้องพูดถึง มี กองเกียรติยศไปรับศพ ประกอบพิธีอย่างยิ่งใหญ่ เลื่อนชั้นยศกัน ทิวแถว9ขั้น เงินปูนบำเหน็จให้กับญาติ มหาศาล และอีกแล้ว “วีรบุรุษสำหรับขุนนาง”
มีสิ่งหนึ่งที่จะบอก กลุ่มทหารทั้งหมดนี้เกียรติยศที่ได้รับได้แค่นามธรรม แม้แต่ร่างกายที่สิ้นแล้วก็ยังไม่อาจมาประกอบพิธีได้สมบูรณ์ได้
ยังจำกันได้ไหม
ภาพที่เครื่องบินลอยอยู่กลางอากาศแล้วขว้างวัสดุโลหะภายในบรรจุแก๊สพิษลงมา ถ้าโดนใคร คนผู้นั้นคงจะไม่รอดแน่ เพราะความสูงที่หล่นลงมา มันแรงเหลือเกิน แต่ถ้าไม่โดนแค่ได้รับสารพิษจากกระป๋องดังกล่าวนั้น ก็สุดทนแล้ว มันทรมานแสนสาหัสนัก
เครื่องบินลำสุดท้ายที่ล่วงหล่นลงมาไฟไหม้ทั้งลำนี้เลยครับ ที่มาจาก ราบ11 ที่มาแห่งเดียวกับเครื่องบินที่ทิ้งแก๊สน้ำตาลงมาที่หัวประชาชนในวันนั้น แต่จะลำเดียวกันหรือไม่อันนี้ไม่ทราบจริงๆ
ผมจะไม่พยายาม โยงอะไรเป็นอะไรแล้วเอาความเชื่อส่วนตัวมาใส่เป็นอักษรให้ท่านๆทั้งหลายได้อ่าน
แต่..เชื่อไหมว่า ข้อเขียนทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้ใช้ความคิดตัวเองเลย ทั้งหมดเอามาจากห้องซีบ็อก ของไทยว้อยทั้งหมดhttp://www.thaivoice.org/
แสดงว่า ท่านๆทั้งหลายที่เสพสื่อมาอย่างช้านานเกือบทั้งหมด เชื่อไปในทิศทางเดียวกันว่า
“กรรมกำลังสนองตอบกันแล้ว”
ทั้งหมดหล่นจากฟ้าลงมาทั้งนั้น ร่างถูกฉีกขาดเป็นเสี่ยงๆ ทั้งนั้น
ก่อนจบ..กระผมผู้เขียน ขอน้อมคารวะศพท่านพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อีกครั้งครับ ที่ได้นำนามของท่านมาเขียนลงในข้อเขียนนี้
จะบอกว่า.. ท่านคือวีรบุรุษของประชาชนจริงๆ ยศถาบรรดาศักดิ์ก็แค่ของนอกกายนำไปด้วยไม่ได้ จะ “พล.ต.”หรือ “พล.อ.” มันไม่สำคัญ
ความสำคัญมันอยู่ที่ว่า “ท่านเลือกที่จะเป็นแค่พล.ต. ในตำแหน่งนักรบของประชาชน”ครับ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar