ศาลโลกตัดสินเจ๊ากันไปคดีพระวิหารให้ถอนทัพทั้งคู่ พธม.คุ้มคลั่งไม่ต้องไปฟังมันสั่งยึดเขมรเป็นเมืองขึ้น
ประธานศาลระหว่างประเทศนายฮิซาชิ โอิวาดะ ขณะอ่านคำสั่งศาลเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ให้ทั้งไทยและกัมพูชาถอนทัพพ้นพื้นที่พิพาท ส่งผลให้แกนนำพันธมิตรกับสาวกคุ้มคลั่งบอกไม่ต้องไปฟังคำตัดสิน หัวหมอให้ส่งตำรวจเข้าไปแทน ขณะที่บางรายยุให้ทหารไทยเร่งรบยึดเขมรเป็นเมืองขึ้น
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
18 กรกฎาคม 2554
ศาลโลกตัดสินเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ ให้ไทยและกัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท และกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหาร พร้อมให้ไทยหยุดการขัดขวางเขมรบริเวณทางเข้า-ออกประสาทพระวิหาร
ศาลสูงสุดของสหประชาชาติมีคำสั่งในวันจันทร์นี้ ให้ทั้งกัมพูชาและไทยถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทรอบๆ ปราสาทพระวิหารในทันที และ เริ่มการเจรจาแก้ไขปัญหาชายแดนที่ยืดเยื้อมานานหลายสิบปี
“ทั้งสองฝ่ายจะต้องถอนบุคลากรทางทหารที่ประจำอยู่ในเขตปลอดทหารเฉพาะกาล และละเว้นจากการปรากฏตัวทางทหารในเขตนั้น” คำสั่งที่อ่านโดยประธานยุติธรรมระหว่างประเทศ นายฮิซาชิ โอวาดะ ระบุ
ศาลโลกยังระบุอีกว่า “สถานการณ์ยังไม่แน่นอนมั่นคง” และ “อาจจะเลวร้ายลงไปอีกได้” จึงทำให้ต้องตั้งเป็นเขตปลอดทหารขึ้นมาในอาณาบริเวณดังกล่าว และขอให้ไทยกับกัมพูชาเริ่มการเจรจา
นอกจากนั้นศาลยังมีคำสั่งให้สองฝ่ายยอมรับผู้สังเกตการณ์จากสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าประจำในพื้นที่อีกด้วย
และให้ประเทศไทยยุติการขัดขวางทางเข้า-ออกปราสาทพระวิหาร รวมถึงสั่งให้ 2 ฝ่ายละเว้นการปฎิบัติการใดๆ ที่จะทำให้เกิดการปฎิบัติการทางทหาร โดยให้เหตุผลว่า ศาลไม่เห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์กับไทย ที่ร้องให้ศาลจำหน่ายคดี ที่กัมพูชาร้องให้พิจารณาคำตัดสินเดิมปี 2505 ทิ้งไป และเห็นว่ากัมพูชามีสิทธิในการยื่นฟ้องต่อศาลโลก และให้ถอนทหารออกจากพื้นที่
ตัวแทนไทยพอใจคำตัดสิน
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความป่าเถื่อนของระบอบเผด็จการราชาธิปไตยทีไม่ได้ใช้กฏหมายปกครองประเทศ หากใช้ระบบกฏกูแทน เหมือนกับกรณีใช้ กกต. ขัดขวางพรรคเพื่อไทยไม่ให้คุณยิ่งลักษณ์จัดตั้งรัฐบาลที่ประชาชนส่วนมากได้เลือกมา แล้วพี่น้องชาวไทยเราจะยอมอยู่ใต้ระบอบป่าเถื่อนนี้ต่อไปอีกหรือ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar