" นางงามบุกทำเนียบสมัคร กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี" เป็นการปลดแอกออกจากความคิดศักดินาที่กดขี่สตรีมาอย่างยาวนานของสังคมไทยให้ก้าวขึ้นสู่ยุคใหม่ที่หญิงไทยมีบทบาทในสังคมเท่าเทียมกันระหว่างหญิงชาย มีสิทธิเสรีภาพสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

" นางงามบุกทำเนียบสมัคร "กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี

เมื่อเวลา 12.00 น. นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ต้อนรับผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2012 จำนวน 30 คน ในโอกาสที่เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลและขอเข้าพบเพื่อสนับสนุนนโยบายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของรัฐบาล ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเดินทางถึง ผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2012 ได้ทยอยลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จัดจุดบริการรับสมัครสมาชิกกองทุนฯ ไว้บริเวณตึกสันติไมตรี

จากนั้นนายจุลภาส เครือโสภณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำผู้ประกวดเข้าพบรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีภายในห้องสีฟ้า ซึ่งจัดเป็นสถานที่รับรองผู้เข้าประกวด โดยนางนลินีกล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ได้มาพบและพูดคุยกันเรื่องการสนับสนุนการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เนื่องจากทุกวันนี้ทั่วโลกได้ให้ความสำคัญและยอมรับผู้หญิงมากขึ้น เช่นเดียวกับสังคมไทย แต่เราก็ยังเห็นผู้หญิงบางคนถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือถูกกดขี่และใช้ความรุนแรงอยู่ ส่วนหนึ่งอาจมาจากค่านิยมที่สังคมมักมองผู้หญิงว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เป็นผู้ตาม หรือเป็นเพศที่อ่อนแอ ซึ่งปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาที่ควรมองข้าม เพราะตราบใดก็ตามที่ทุกคนพูดถึงความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงและชาย แต่ไม่หยิบยื่นโอกาสให้แก่ผู้หญิงเหล่านั้นความคิดดังกล่าวก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้

“กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่มีผู้นำเป็นผู้หญิง ซึ่งนิตยสารนิวสวีคของสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นสุดยอดผู้หญิงนักสู้ของโลก 1 ใน 150 คน เนื่องในวันสตรีสากลประจำปีนี้ โดยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมีเจตนารมณ์ที่จะเสริมสร้างศักยภาพของสตรีให้ได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบและสร้างสรรค์ เกิดความเสมอภาค และประคับประคองให้ผู้หญิงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี

รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับองค์กรสตรี ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศ เพื่อให้โอกาสสตรีในทุกพื้นที่ ทุกชุมชน ได้ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมพัฒนา จากกองทุนที่รัฐบาลจะมอบให้ เพื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสร้างงาน สร้างอาชีพ คุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี ตลอดจนพัฒนาความรู้และคุณภาพชีวิตของสตรีให้สามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายได้

โดยตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ - 18 มีนาคม 2555 มีผู้หญิงให้ความสนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีทั่วประเทศแล้วทั้งสิ้น 4,780,154 คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสตรีไทยต้องการที่จะพัฒนาตนเอง ดูแลช่วยเหลือครอบครัว ชุมชน และสังคมที่ตนเองอาศัยอยู่ รวมถึงผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ด้วย

แนวคิดของการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ คือ งามอย่างมีคุณค่า ซึ่งหมายถึง การมีบุคลิกภาพที่สง่างาม มีความมั่นใจ และมีปฏิภาณไหวพริบอันชาญฉลาด ซึ่งมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่ว่า สร้างสรรค์พลังสตรี ให้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ พูดง่าย ๆ ก็คือ การส่งเสริมให้ผู้หญิงมีโอกาสได้ใช้ความฉลาดที่มีอยู่ในการช่วยเหลือสังคมนั่นเอง

โอกาสนี้ ผู้เข้าประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีถึงแนวทางการสนับสนุนการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยนางสาวชวัลลักษณ์ อังเกอร์ โมกศิริ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 4 กล่าวว่า สนใจเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์ ส่วนตัวเรียนอยู่ที่ International School Bangkok ได้จัดตั้งชมรม Traffic Jam เพื่อรณรงค์จัดหาทุนนำไปช่วยเหลือสตรีที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ดังนั้น ในอนาคตหากได้รับเงินจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะนำไปต่อยอดจัดทำโครงการเพื่อพัฒนาความรู้และจิตใจของผู้หญิงเหล่านี้ต่อไป

ด้านนางสาวกรรณิกา ขันแก้ว ผู้เข้าประกวดหมายเลข 28 แสดงความเห็นว่า ตนเป็นคนพะเยา ที่นั่นมีปัญหาการอพยพของแรงงานไปทำงานในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะผู้หญิง เหลือแต่เด็กและคนชราอยู่ในหมู่บ้าน จึงคิดว่าหากสตรีในชุมชนรวมกลุ่มกันและใช้ประโยชน์จากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน ก็น่าจะช่วยให้แรงงานกลับคืนถิ่น และสามารถชำระหนี้ได้บางส่วน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความชื่นชมผู้เข้าประกวดว่า ทุกคนมีความงามทั้งภายนอกและภายใน แม้จะยังเด็กแต่มีความคิดที่กว้างไกล อยากช่วยเหลือสังคมโดยเฉพาะผู้หญิงไม่ให้ถูกหลอกและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้หญิงด้วยกัน และยังเชิญชวนให้ผู้เข้าประกวดสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯ โดยหากสมัครภายในวันที่ 31 มีนาคม นี้ จะได้รับสิทธิคัดเลือกเป็นคณะกรรมการกองทุนฯ แต่หลังจากนั้นก็ยังสามารถสมัครได้โดยไม่กำหนดเวลา

ทั้งนี้ คุณสมบัติของผู้สมัครต้องเป็นสตรีไทยที่มีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สมัครได้ที่ที่ทำการหมู่บ้าน พัฒนากรตำบล และกศน.ตำบล เฉพาะกรุงเทพมหานคร สมัครได้ที่ กศน. เขต และศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 12 เขต ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ติดตามรายละเอียดหรือลงทะเบียนออนไลน์ได้ทาง www.womenfund.thaigov.go.th โทร. 1111 กด 6 จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้นำผู้เข้าประกวดไปลงทะเบียนเพื่อสมัครเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วย