โดยปูนนก
และแล้วเวลาแห่งการรอคอยที่จะเปลี่ยนประเทศให้เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยมีอำนาจอธิปไตยสูงสุดมาจากมวลชนชาวไทยอย่างสมบูรณ์ก็ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว ไม่คิดว่า พรบ. ปรองดอง ที่ถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในสภา จะกลายเป็นชนวนที่ถูกจุดขึ้นเพื่อนำไปสู่ระเบิดประชาธิปไตยได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
การเร่งให้เกิดความขัดแย้ง ให้ขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวางทั้งภายในสภา และภายนอกสภา ที่เกิดขึ้นจากพรรคประชาธิปัตย์ และ กลุ่มพันธมิตร อีกทั้งอำนาจของศาลที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น เป็นการส่งสัญญาชัดเจนว่า มือที่มองไม่เห็นที่ปกครองประเทศนี้อยู่ ต้องการล้มรัฐบาลที่มาจากประชาชนลงให้จงได้
เมื่อปลายปี 2554 ก็มีความพยายามทำให้น้ำท่วมประเทศไทย เพื่อหวังจะให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในประเทศ และเป็นเหตุให้รัฐบาลที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ต้องล้มลงไปเพราะไม่สามารถบริหารประเทศได้ แต่ด้วยการบริหารจัดการอย่างยอดเยี่ยม การร่วมมือร่วมใจของท่านนายกยิ่งลักษณ์ และประชาชนที่ช่วยกันสนับสนุนและช่วยเหลือกันและกันอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ทำให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายไปได้ รัฐบาลยังคงบริหารงานได้ และยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไปสิ่งนี้ส่งผลให้ อำนาจของมือที่มองไม่เห็นที่ปกครองประเทศนี้อยู่เริ่มสั่นคลอน และมองดูด้วยความหวาดหวั่นต่ออำนาจของประชาชนที่เติบโตขึ้นอย่างไร้การควบคุม
เวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมาประเทศไทยถูกปกครองด้วยอำนาจมืด ทำให้มีกลุ่มคนจำนวนเพียงหยิบมือที่มีอิทธิพล.. ร่ำรวย.. มีอำนาจ.. และปกครองประชาชนอยู่บนยอดสูงสุดของปิรามิดแห่งประเทศนี้ ประชาชนชั้นล่างผู้ทุกข์ระทมไม่เคยสามารถจะเข้าถึงโอกาสที่จะดำเนินชีวิตตามที่ตนเองปรารถนา ทรัพยากร.. เศรษฐกิจ และการบริหารของประเทศนี้ถูกผูกขาดด้วยคนเพียงไม่กี่ตระกูล ที่สูบเลือดเนื้อ รีดนาทาเร้น ใช้อำนาจย่ำยีบีฑาผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศให้ต้องทนทุกข์ทรมานมาอย่างยาวนาน
โดยอาศัย “ความเชื่อ..ความศรัทธาอย่างงมงาย” ประชาชนได้ถูกสั่งสอนให้ศรัทธาโดยปราศจากข้อสงสัย (หรือถ้าสงสัยก็ต้องตาย) ประชาชนต่างยื่นมืออันสั่นระริก ด้วยความหิว และสิ้นหวัง จบขึ้นเหนือศรีษะด้วยความเชื่อว่า จะได้กุศลผลบุญจากความเมตตาของเทวดาบนฟากฟ้าประทานลงมาให้เพื่อจะได้พ้นทุกข์โศกได้บ้าง แต่น่าเศร้าสิ่งที่ประชาชนคิดว่ามองเห็นนั้นคือ เทวดา กลับกลายเป็น นกกระสาที่คอยจ้องจับกินกบที่อยู่ในบึงอย่างอิ่มเอม
วันที่ 19 กันยายน 2549 เมื่อสายพานของรถถังเคลื่อนเข้ายึดอำนาจการบริหารจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นของประชาชน ทำให้ประเทศทั้งประเทศ “ช็อค” กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะภายในปีเดี่ยวกันก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่เดือนคนไทยทั้งชาติต่างชื่นชมและภาคภูมิใจกันถ้วนหน้าว่า “โชคดีที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เพราะได้อยู่ใต้ร่มพระบารมีของกษัตริย์ที่ทรงบุญญาบารมียิ่งใหญ่ไพศาลที่สุดในโลก และมีรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีที่เก่งที่สุดในโลก” แต่ 3 เดือนให้หลังกองทัพไทยก็ยึดอำนาจรัฐบาลที่มีนายกที่ดีที่เก่งทีสุดในโลกเสียแล้ว
อำนาจมืดของมือที่มองไม่เห็นจะไม่ยอมให้ประชาชนมีอำนาจขึ้นมาเพื่อปกครองตนเองตามความต้องการ จากวันนั้นถึงวันนี้เวลาผ่านไปกว่า 5 ปีสถานการณ์ได้ผ่านการต่อสู้อันปวดร้าว สูญเสียแม้กระทั่งชีวิต และทรัพย์สินมากมาย ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าประชาชนเริ่มเข้าใจถึงอำนาจและสิทธิที่ตนเองพึงมีพึงได้ และถูกแย่งชิงไปเช่นไร กระแสคนเสื้อแดงที่กำลังไหลบ่าท่วมท้นประเทศไทยในแทบทุกหัวระแหงขณะนี้ ได้กลายเป็นเหมือนกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากที่กำลังโถมทับ “อำนาจมืดของมือที่มองไม่เห็น” ให้จม และถูกกลืนหายไปในสายธารแห่งการเปลี่ยนแปลงของโลกาภ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar