นโยบายและแผนการณ์ของฝ่ายอำมาตย์ก็ยังคงเดิมคือไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญปี ๕๐ เพราะ ร.ธน. ปี ๕๐ ในหมวดพระมหากษัตริย์เขียนไว้โดยให้อำนาจแก่ประธานองคมนตรีเป็นผู้เสนอชื่อผู้ที่จะขึ้นเป็นรัชกาลที่ ๑๐ ไว้ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงกระโดดออกมาขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างสุดชีวิตโดยเฉพาะในหมวดพระมหากษัตริย์จะแตะต้องไม่ได้ และไม่มีการปรองดองโดยเด็ดขาด เพราะเป้าหมายหลักคือการเปลี่ยนรัชกาลที่ ๑๐ การยึดอำนาจ วันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ ๒๕๔๙ก็เพื่อจุดประสงค์อันนี้ จึงได้เขียน รธน. ปี ๒๕๕๐ ขึ้นเพื่อให้อำนาจประธานองคมนตรีคือ เปรม ดังนั้น การจะเปลี่ยนผ่านได้หัวหน้าอำมาตย์คือเปรมต้องคุมอำนาจรัฐบาล และรัฐสภาให้ได้ เพื่อจะได้เสนอตัวรัชกาลที่ ๑๐ คือพระเทพ ฯ ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป ฉนั้นฝ่ายอำมาตย์จึงต้องการโค่นล้มรัฐบาลปู และห้ามแก้รัฐธรรมนูญปี ๕๐ แล้วค่อยทำลายมวลชนฝ่ายประชาชธิปไตยให้อ่อนแอ พอได้โอกาศก็ให้พวกทหารลูกสมุนยึดอำนาจ คือเป้าหมายหลักของพวกอำมาตย์ พวกเราจะมาคอยและยังหวังความเมตตาจากฝ่ายอำมาตย์ สิ่งที่พวกเราจะได้รับก็คือ " กระสุนพระราชทาน" อีกครั้งเท่านั้นเอง พี่น้องเอ๋ยจงลุกขึ้นมาต่อสู้เดินหน้าต่อไปจนกว่าจะได้ชัยชนะ ...

by  big60

อาวุธเดียวของเราที่มีคือ "มวลชน" หน้าที่หลักของเขามีอย่างเดียวคือ "ทำลายมวลชน" ให้ได้ ทำได้เขาก็ชนะแล้ว เริ่มต้นเขาผิดพลาดที่กระหน่ำโจนตีมวลชนฝั่งเราว่าเป็น รากหญ้า คลื่นไต้น้ำ คนไร้คุณภาพ การศึกษาต่ำ เพื่อมุ่งดิสเครดิตมวลชนฝ่ายเราว่าไร้คุณภาพ ถึงเป็นเสียงข้างมากก็ใช้ไม่ได้

ซึ่งนับเป็นคุณูปการมหาศาลแก่ฝั่งเรา เพราะเท่ากับสร้างมวลชนให้ฝั่งเรา นับวันจึงยิ่งมาก จนกลายเป็ผนังทองแดงกำแพงเหล็กที่น่าเกรงขามไป และการต่อสู้ของเรามีอยู่สองอย่างให้เลือกคือ เมื่อชนะเลือกตั้ง ก็ทำทุกอย่างทันที โดยไม่ต้องคำนึงถึงอะไรทั้งนั้น มีปัญหาอะไรก็อาศัยมวลชนตีตะลุยอย่างเดียว

เจ็บเป็นเจ็บ ตายเป็นตาย ประเทศเสียหายก็ต้องยอม ได้ชัยชนะเด็ดขาดหรือไม่ก็แพ้ในครั้งเดียวไปเลย เลือกแบบนั้นก็ไม่จำเป็นต้องรักษามวลชน ทุ่มครั้งเดียวเห็นผลทันตา จะอยู่จะไปรู้ทันที ถูกใจคนเลือดร้อน ตั้งแต่อดีตทุกครั้งที่ผ่านมา เป็นฝั่งเราที่เห็นแก่ความเป็นพี่น้องร่วมชาติ เห็นแก่ความเสียหายของชาติ เห็นแก่ชีวิตคนไทยด้วยกัน ถ้ามันจะสูญเสีย จะหลีกเลี่ยงทุกครั้ง ไม่มีความโหด ไม่มีความอำมหิตเหมือนเขา

ที่ผ่านมาจึงจบลงด้วยการ อโหสิให้เขา ทั้งๆที่สูญเสียชีวิต สูญเสียญาติพี่น้อง มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ลองมองย้อนดูจะเห็นชัดเจน และเขาก็โหดจริง อำมหิตจริง ลองมองย้อนดูก็จะเห็นเช่นกัน ทั้งยิง ทั้งทุบตี ทั้งกระทืบ ไม่ว่าเป็นหญิงหรือชาย ตายแล้วก็ยังทำร้ายซากศพ เหมือนพวกอสูรกระหายเลือด

และครั้งนี้ เราก็ยังคงเหมือนเดิม คือเลือกใช้วิธี ปรองดองอโหสิ เพื่อป้องกันการเสียเลือดเนื้อชีวิตของฝั่งเราและฝั่งเขา โดยคิดว่า"ยังไงก็คนไทย" แต่ว่าเขาก็ยังเป็นเขา ยังกระหายเลือดเหมือนเดิม ปฏิเสธทางออกทุกทาง ยังทำทุกทาง บีบเราทุกอย่าง ให้เดินไปสู่ทางแตกหัก เพื่อเขาจะได้อ้างใช้อาวุธเข่นฆ่าได้อีก

ติดอยู่ที่มวลชนเรามากเกินไป จนเขาไม่กล้าเสี่ยง ไม่แน่ใจว่าจะฆ่าได้หมด เขาจึงทุ่มทุกอย่างลงที่มวลชน เพื่อหาทางทำลายให้แตกสลายให้ได้  การทำลายครั้งนี้ จึงไม่ใช่โจมตีเหมือนเดิม แต่แทรกซึมกลมกลืน เปลี่ยนทิศทาง มวลชนอ่อนลงกว่านี้เมื่อไหร่ จะเห็นความกระหายเลือดของเขาทันที หน้าที่นี้ไม่มีไครเหมาะเกินห้อยร้อยยี่สิบ ที่เก็บตัวเงียบตลอดมา มันเงียบเพราะมันมีงาน

และตอนนี้ เขาก็คงคิดว่า มวลชนเราล้าลงไปเยอะแล้ว จากการตีกลุ่มอุดรของขวัญชัยจนแตกกระจาย ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจนัก แต่เนื่องด้วยเวลาจำกัด จึงอาจชิงลงมือเสี่ยงก็ได้ เราจึงได้เห็นคำทายจากคนฝั่งเขา เรื่องดวงเมืองบ้าง เรื่องดวงนายกบ้าง ที่จริงไม่ใช่คำนาย แต่เป็นการปูทางในสิ่งที่เขาจะทำ เพื่อหาความชอบธรรมว่า ที่เกิดขึ้นมันเกิดจากโชคชะตาเขาไม่ได้เจตนาให้เกิด ถ้าหมอนี่ทำนายได้ขนาดนั้น มันก็เก่งพอๆกับพระพุทธเจ้าแล้ว แต่ดูแล้วยังไงก็ไม่ใช่ มันแค่ขี้กากเท่านั้นเอง