lördag 20 april 2013

รบเถิดนารีขี่ม้าขาว ภายใต้ยุทธศาสตร์ สงครามปราบกบฎ.....





[IMG]
.....เมื่อประกาศชักธงรบแล้ว....ไฉนจะไม่รบได้อย่าง..?
......ภายใต้ยุทธศาสตร์......สงครามปราบกบฏ...

ยุทธวิธี....เปลี่ยนกฏโจร.....ให้เป็น.....กฏประชาชน.

....นั้นไม่ง่ายและไม่หมู.....มันเป็นการล้มอำนาจโจรทั้งกระดาน
เมื่อกฏเปลี่ยน....โจรก็ไม่สามารถจะดำรงค์อำนาจความเป็นโจร
อยู่ได้...ต่างเป็นวัวสันหลังหวะทั้งสิ้น...แต่ละคนมีคดีติดตัวกันอยู่มากมาย
มีทรัพย์สินเงินทอง..และผลประโยชน์จากการปล้นชาติ ปชช จำนวน
มหาศาล....จะต้องถูกเช์คบิลเรียกเอาคืนทั้งหมด...คงต้องแตกหักและยอมกันไม่ได้

.......เมื่อทางฝ่ายรัฐบาล ปชช ได้ประกาศชักธงรบ..ด้วยการดับเครื่องชน....
ไม่มึงก็กู...ต้องพังกันไปข้างหนึ่ง...ด้วยสัญชาตญาณโจรแล้ว...คือสู้ตายแน่นอน...
จะไม่มีใครยอมใครอีกต่อไป..
....................................................................................................................................................................
“นายดิเรก ถึงฝั่ง" ส.ว.นนทบุรี รองประธานวิปรัฐสภา ลั่นเป็นสิทธิ ส.ส.-ส.ว.แถลงการณ์โต้แย้งศาล รธน.ได้ ยันไม่เป็นการละเมิดอำนาจศาล...
วัน ที่ 19 เม.ย. ที่รัฐสภา นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี รองประธานวิปรัฐสภา กล่าวถึงการออกแถลงการณ์ของสมาชิกรัฐสภา คัดค้านไม่ยอมรับการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นสิ่งที่สมาชิกรัฐสภาทำได้ ไม่เป็นการละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเพียงการโต้แย้งว่าศาลไม่ควรรับเรื่อง เนื่องจากอำนาจ 3 ฝ่าย คือฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ปกติจะไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน

แต่ การกระทำของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการเบรกและก้าวก่ายการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ทำให้สมาชิกรัฐสภาเกิดความไม่สบายใจ อาจเกิดปัญหาในการบริหารประเทศในอนาคตได้ คาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้ารัฐสภา จะได้ส่งข้อโต้แย้งและคำชี้แจงให้ศาล รัฐธรรมนูญรับทราบต่อไป

"โดย ส่วนตัวเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่น่ารับคำร้อง เพราะไม่เห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 68 จะเป็นการล้มล้างการปกครองตรงไหน ซึ่งในอดีตศาลรัฐธรรมนูญ ก็เคยประกาศในเว็บไซต์ของศาลรัฐธรรมนูญเองว่า ให้ยื่นผ่านอัยการสูงสุดได้" นายดิเรก กล่าว.
ไทยรัฐ..

..................................................................................................................................................................

                      โดย   ปูนนก....

ท่าน นายกทักษิณและพรรคเพื่อไทยพยายามอย่างยิ่งที่จะประนีประนอมกับฝ่ายอมาตย์ ด้วยการยอมถอยแทบทุกอย่าง ยอมก้มหน้าไม่โต้ตอบต่อการกระทำใดๆ ของฝ่ายอมาตย์เพียงเพื่อมุ่งเร่งสร้างผลงานทางเศรษฐกิจให้เป็นที่ประจักษ์ ต่อประชาชน ยอมรับสภาพแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำท่วมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนโดยไม่ปริปาก ไม่โต้ตอบกับคำว่ากล่าวถากถางรายวันจากผู้ไม่ประสงค์ดี ยอมหยุดการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ตาม คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ยอมขัดใจกับพี่น้องคนเสื้อแดงที่คอยอุ้มชูและหนุนให้ได้เป็นรัฐบาลในขณะนี้ โดยชะลอการนำร่าง พรบ. นิรโทษกรรมเข้าสภา แม้กระทั่งยอมรับผลการเลือกตั้ง กทม. ที่ ปชป. ชนะไปด้วยคะแนนที่น่าเคลือบแคลง แต่ทว่าฝ่ายเผด็จการอมาตย์กลับมิได้ยอมลดความอำมหิตในการทำลายล้างพรรคเพื่อ ไทย และฝ่ายประชาธิปไตยลงไปแต่อย่างใด
การที่ ปปช. รับเรื่องที่ท่านนายกยิ่งลักษณ์ ปล่อยเงินกู้ให้กับสามีจำนวน 30 ล้าน บาท โดยอ้างว่าแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ข่าวลือที่พิสูจน์ได้ชัดว่าจะมีการเคลื่อนกำลังทหารเพื่อทำการรัฐประหาร หรือการลอบสังหารนายกยิ่งลักษณ์ รวมทั้งการที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องพิจารณาการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ของ สส. และ สว. แสดงให้เห็นชัดว่าฝ่ายเผด็จการอมาตย์มีจุดมุ่งหมายชัดเจน ว่าถึงอย่างไรก็จะต้องล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและทำลายกองทัพประชาธิปไตยนี้ ให้หมดสิ้นลงไปให้จงได้

การพูดเข้ามาในที่ชุมนุมคนเสื้อแดงวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ของท่านนายกทักษิณ การต่อสู้อย่างเผ็ดร้อนในสภาเรื่องการลงมติวาระแรกของการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่าง การขอเลื่อน พรบ. นิรโทษกรรม ขึ้นมาเป็นวาระแรกในการประชุมวิสามัญครั้งหน้า รวมทั้งการออกมาประกาศชัดเจนทั้ง สส. สว. ว่าจะไม่ยอมรับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะเข้ามาก้าวล่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นอำนาจโดยชอบของฝ่ายนิติบัญญัติ เหล่านี้ก็แสดงให้เห็นถึงท่าทีที่ฝ่ายรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย และฝ่ายประชาธิปไตยก็ไม่ยอมถอยอีกแล้วเช่นกัน ความปรองดองไม่ต้องพูดถึงเพราะคงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดและเชื่อแน่ว่ารัฐบาลซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีท่านอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้คอยให้คำชี้แนะ จะต้องมีการวางแผนรองรับทุกเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้นับจากเวลานี้เป็น ต้นไป

ส่วนฝ่ายเผด็จการอมาตย์ก็คงจะมีทางเลือกให้เดินได้น้อยลง เพราะลำพังศาลรัฐธรรมนูญซึ่งมีอยู่เพียง 9 คน ก็คงทำอะไรไม่ได้มาก ถ้าคำสั่งที่ออกไปไม่มีผู้ปฏิบัติตาม ตัวช่วยที่หวังว่าจะมาช่วยเป็นกำลังหลักให้ดังเช่นแต่ก่อนคือกองทัพ ก็มิได้แนบแน่นสนิทสนมกลมเกลียวกันเช่นเดิม คำสั่งที่ “อ้างว่า” มาจากสวรรค์ ก็เริ่มที่การตั้งคำถามกันมากขึ้นว่า เป็นคำสั่งจากสวรรค์จริงหรือ? และประการสำคัญฝ่ายมวลชนก็ล้วน “ตาสว่าง” และเข้าใจอะไรกันมากขึ้นกว่าปี 2549 ชนิด เทียบกันไม่ได้ รวมถึงที่ไม่อาจมองข้ามได้ก็คือ การสนับสนุนจากต่างประเทศซึ่งถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มิได้เป็นไปในรูปแบบประชาธิปไตย ก็ยากที่จะได้รับการยอมรับจาก นานาชาติ และอาจจะถูกต่อต้านด้วยซ้ำ ดังเช่นที่ ฮิลลารี่ คลินตัน เคยส่ง sms ช่วยนายกยิ่งลักษณ์ ให้เดินทางไปกัมพูชา ในเวลาที่กำลังเกิดวิกฤตมาแล้ว

น่า อึดอัดแทนเผด็จการอมาตย์จริงๆ ถ้าเป็นท่าน ท่านจะทำเช่นไรในสภาวการณ์เช่นนี้ เดินหน้าดันทุรังไปก็ฉิบหายเห็นๆ อยู่เฉยๆ ก็อับอายประชาชี จะยอมถอยก็หมดอำนาจวาสนาตายคาสนามแน่ๆ ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมจิวยี่ ถึงเงยหน้าพูดต่อฟ้าว่า “ฟ้าให้จิวยี่มาเกิดแล้ว ใยให้ขงเบ้งมาเกิดด้วยเล่า” แล้วกระอักเลือดตาย

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar