...ประชาธิปไตย V/S อำมาตย์เผด็จการ....

โดย  ราษฎรตาสว่าง -สัญญาณการต่อสู้ได้เริ่มยกระดับเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ.... -ในรัฐสภา...การต่อสู้ระหว่างรัฐบาลตัวแทนของประชาชน V/S ฝ่ายค้านสมุนอำมาตย์.....ประชาชนโปรดระวังและเตรียมตัวให้พร้อม.....รอดูสถานการณ์...อย่าได้ประมาท..... -นอกสภาฝ่ายพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าทุกชนชั้นผู้รักประชาธิปไตย V/S พวกสมุนอำมาตย์...  (ทหารเฒ่าและลูกน้อง  ศาลรัฐธรรมนูญเถื่อน   องค์กรอิสระเถื่อนต่างๆ  นักวิชาการทาสขายตัว   สื่อมวลชนชั่วสารเลว    หมู่ข้าทาสที่ตามืดบอด   นายทุนหน้าเลือด   กลุ่มพันธมิตรผู้ทำลายชาติ )...  ซึ่งพวกเขาจะออกมาก่อกวนสร้างปัญหาให้ประเทศชาติและสังคมอย่างแน่นอน..... -โปรดติดตามสถานการณ์.......เพราะทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหัวหน้าอำมาตย์....  ว่าหัวหน้าอำมาตย์จะปล่อยให้รัฐบาลและฝ่ายค้าน   แก้ปัญหาประเทศชาติตามครรลองในระบบรัฐสภา....ก็คงจะผ่านไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร....แต่.... -ถ้าอำมาตย์ยังเห็นแก่ตัวไม่ยอมรับความจริง...ยังมัวเมาหลงในอำนาจราชศักดิ์   สั่งสมุนทุกฝ่ายออกมาก่อเรื่องวุ่นวายขัดขวางก่อเหตุ    เพื่อจะได้สั่งฆ่าประชาชนเหมือนในอดีตอีกครั้ง....ประวัติศาสตร์ก็คงจะต้องจบลงเหมือนที่โหรหลวงทำนายไว้ว่า "วงศ์จักรีจะมีเพียงเก้ารัชกาล"......... -ท้ายนี้ฝากถามถึง....หัวหน้าอำมาตย์และลูกสมุนอำมาตย์เผด็จการทั้งหลายว่า...   ท่านได้ศึกษาเรียนรู้ของคำว่า... "ประชาชนผู้รักชาติและต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย".  มากน้อยแค่ไหน? ...  เพราะการต่อสู้เพื่อความถูกต้องยุติธรรมเพื่อสิทธิเสรีภาพ...   มันเกิดขึ้นมานานแล้วหลายชั่วอายุคน..(ไม่ใช่เกิดเมื่อห้าหกปีที่แล้วเหมือนที่อำมาตย์โกหกหลอกตัวเองเพราะกลัวความจริง)....  การต่อสู้ได้ถูกปลูกฝังไว้ในสายเลือดของนักต่อสู้รุ่นแล้วรุ่นเล่า....ไม่เคยหมดเชื้อแม้พวกเขาจะถูกฆ่า.. ถูกจับกุมคุมขัง... ก็ไม่มีใครหวั่นกลัว...มีแต่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆทั่วทุกภาคของประเทศและพวกเขาจะต่อสู้เรียกร้องกับพวกอำมาตย์ชั่ว ...   จนกว่าประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไทยที่แท้จริง...และ -สำหรับประชาชน...พวกเขาได้ศึกษาเรียนรู้ความจริงแล้วว่า  "อำมาตยาธิปไตย"  ไม่ใช่เทวดาแต่เป็นคนธรรมดาทำตัวอยู่เหนือประชาชน ....เป็นคนที่เห็นแก่ตัว   จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์   เป็นเหลือบศักดินาที่ไม่พอเพียงเกาะกินเงินภาษีประชาชนไม่เคยทำงาน และยังโกงกินทรัพยากรของประเทศชาติ     ดังนั้นประชาชนไทยได้ตัดสินใจเลือกอนาคตตัวเองแล้ว....   พร้อมคำตอบให้ตัวเองว่า.....  อยากให้ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง   เหมือนนานาอารยะประเทศที่เขาเจริญแล้ว. ........................................................................... โดย  โลกสีแดง มติเพื่อไทย หักศาลรธน. - ตกลงเลื่อนวาระนิรโทษกรรม วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 17:36 น. ข่าวสดออนไลน์ มติเพื่อไทย หักศาลรธน. - ตกลงเลื่อนวาระนิรโทษกรรม มติร่วมที่ประชุม คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค คณะกรรมการประสานภารกิจ และที่ประชุม ส.ส.พรรค 1) กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ที่ประชุมเห็นว่า... 1. รัฐสภามีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติ มาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ... ”ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับพิจารณาเรื่องนี้” รัฐสภาจึงไม่ต้องดำเนินการตามศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก จะร่วมกันออกคำแถลงการณ์ชี้แจงต่อพี่น้องประชาชน ถึงเหตุผลในการคัดค้านการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ก้าวล่วงอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กำลังดำเนินการกันอยู่ในรัฐสภาปัจจุบัน 3. สมาชิกรัฐสภาที่ร่วมกันพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญกันอยู่ในขณะนี้ จะร่วมกันหารือเพื่อหาทางออกจากวิกฤตความขัดแย้งนี้ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้กระบวนการทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างถูกต้อง และชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 4. วันที่ 18 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น. รัฐสภาจะเปิดประชุมเพื่อลงมติในระเบียบวาระที่ยังค้างอยู่ โดยเฉพาะในประเด็นที่มีการเสนอญัตติให้มีการแปรญัตติเป็นเวลา 60 วัน แต่ไม่ครบองค์ประชุม แต่เพื่อให้การดำเนินการในรัฐสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พรรคจึงสนับสนุนให้มีการพิจารณาระเบียบวาระดังกล่าวใหม่ เพื่อให้กระบวนการต่างๆ ในรัฐสภาเกิดความเรียบร้อยต่อไป 2) การพิจารณาข้อเสนอเลื่อนระเบียบวาระการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยในระดับต่างๆ ได้พิจารณาอย่างกว้างขวางรอบคอบ ทั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรค / คณะกรรมการประสานภารกิจ / และที่ประชุม ส.ส.พรรค มีมติเห็นชอบร่วมกัน ดังนี้ “พรรคมีมติ เห็นชอบ และสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ ส.ส. วรชัย เหมะ และขอให้มีการพิจารณาเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมา เป็นวาระแรก เพื่อสามารถพิจารณาให้ทันการเปิดสมัยประชุมหน้า โดยให้มีการพิจารณาเลื่อนระเบียบวาระ ในการประชุมวันพฤหัสบดีที่ 18 เม.ย.นี้” ทั้งนี้ เห็นว่า ควรยึดหลักการที่จะช่วยนิรโทษกรรม และช่วยเหลือประชาชนทุกฝ่ายก่อน โดยยังไม่พิจารณา นิรโทษกรรมแกนนำของทุกฝ่ายในขณะนี้ แต่จะนำเรื่องการนิรโทษกรรมแกนนำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนอีกครั้ง อย่างรอบคอบ ในโอกาสต่อไปในอนาคต

  17 เมษายน 2556

การแผ่วแรงของพธม. และการตกต่ำของปชป.ที่มีเรื่องโรงพักตำรวจทดแทนและค้านทุกเรื่องเพื่อขัดขวางจนลืมดู​ว่าผลประโยชน์ตกอยู่กับใคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนำข้าว ค่าแรง300บาท การลงทุนรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง การแก้รธน. และการที่ตลก.รธน.ก็ถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือจากประชาชนหลายหมู่เหล่า
ตลอดจนการที่มีโทรศัพท์คนจริงเสียงจริงออกมาเบรคเสธ.อ้ายให้เลิกคิดแช่แข็งประเทศไทย​ ต้องสลายการชุมนุมแบบสายฟ้าแลบ เป็นการแสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งภายในพัฒนาพร้อมเผชิญหน้ากัน ทำให้เกิดการตัดสินใจเผชิญหน้าทั้งสองทาง ทั้งทางที่เปิดเผยและทางที่ไม่เปิดเผย เพราะต่างฝ่ายต่างรอไม่ได้อีกต่อไป
นี่ถือการเป็นการปะทะทางการเมือง แม้เกิดขึ้นช้าแต่ว่าเกิดขึ้นแล้ว
อีกอาวุธหากสององค์กรขัดแย้งกันปชป.คงโดดป่วนสภา ก็ถึงเวลายุบสภาเลือกตั้งใหม่ พร้อมขอมติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับไปเลย งานนี้ประชาชนย่อมสนับสนุนฝ่ายต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

.................................