söndag 23 november 2014

"สมศักดิ์ เจียมฯ" ฝากข่าว. จากแดนไกล : บทวิพากษ์ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-พท.-นปช." ชุดใหญ่....(โปรดกรุณาเปิดใจให้กว้าง ยอมรับกับความเป็นจริงที่ทำให้เจ็บปวดหัวใจก็ต้องยอม..เพราะหลายคนต่างหลายมุมองเหลายความคิด จงร่วมด้วยช่วยกันช่วยกันเป็นแสงสว่างชี้นำทางเพื่อร่วมกันปลดปล่อยตัวเองและประเทศชาติเป็นไทให้ได้ ด้วยความปราถนาดี..)

by   matichon Online
"สมศักดิ์ เจียมฯ" โพสต์เฟซต่อเนื่อง วิพากษ์ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-พท.-นปช." ชุดใหญ่

นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ที่กลับมาสื่อสารผ่านทางเฟซบุ๊กอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ยังคงเดินหน้าโพสต์ประเด็นวิพากษ์การเมืองยุคปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในกลุ่มการเมืองที่ถูกนายสมศักดิ์เขียนวิพากษ์ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย และนปช. นี่คือเนื้อหาบางส่วนจากบทวิพากษ์ดังกล่าว

อืม พูดถึงเรื่องใครบ้างที่ต้านรัฐประหาร หรือคนที่ต้านรัฐประหารเป็นใคร ... ขอโพสต์อันนี้ดีกว่า ร่างๆ ไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เดิมคิดว่าจะเขียนให้ยาวกว่านี้ แต่ "สนิมจับ" เล็กน้อย "ฝืด" เขียนต่อไม่ออก แต่เนื้อหาจบในตัวเองแหละ คงอ่านเข้าใจแน่ว่าผมสื่อสารอะไร



ผมเชื่อว่า ไม่มีผู้รักประชาธิปไตยคนใด จะคิดเรียกร้องให้ใครต้องออกมาแสดงออกต่อต้านการรัฐประหารอย่างเสี่ยงภัย ต่ออิสรภาพของเขาอย่างเกินสมควรแน่


แต่ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ผมเห็นว่า ไม่เป็นการไม่แฟร์แต่อย่างใดที่จะกล่าวว่า ท่าทีของนักการเมืองที่อ้างว่าอยู่ค่าย "ประชาธิปไตย" (เพื่อไทย-นปช.) เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง


ท่าทีเหล่านี้ ไม่สามารถอ้างว่าเป็นเพราะ "ทำไม่ได้" "เสี่ยงเกินไป" แน่ ความจริงคือ สามารถ "ทำอะไรได้มากกว่าที่ผ่านมา 6 เดือน" แต่การที่นักการเมือง "เพื่อไทย-นปช." มีท่าที "เงียบ" ถึงระดับนี้ (ย้ำ "ถึงระดับนี้") ถึงที่สุดแล้ว มาจากการที่คุณทักษิณ ตัดสินใจ "เกียร์ว่าง"

อันนี้ ต่อเนื่องจากกระทู้ที่เพิ่งโพสต์นะครับ เรื่องการที่นักการเมืองเพื่อไทย-นปช. "เงียบ" หรือ แทบไม่มีท่าทีอะไรในเชิงต้านรัฐประหาร (และปล่อยให้เป็นเรื่องของคนในแวดวงอื่น หรือไม่ ก็คนตัวเล็กตัวน้อยที่เชียร์เพื่อไทยทำๆ กันไปเอง (ผมตระหนักดีว่า ในกลุ่มคนที่ออกมาแสดงออกต้านรัฐประหารอย่างกล้าหาญยิ่ง โดยเฉพาะในวันแรกๆ หลายคนเชียร์คุณทักษิณ ยิ่งลักษณ์ เพื่อไทย .. นึกตัวอย่างแบบเร็วๆ เช่น กลุ่มสุภาพสตรี ... ที่เดินนุ่งผ้าซิ่นประท้วงทีพหลโยธิน อนุสาวรีย์ หรือแม้แต่กรณีคุณ "เต้ มดแดง" ที่โดนรวบตัวด้วย)


อย่างที่ผมเขียนในกระทู้ข้างล่าง ผมยืนยันว่า เพื่อไทย-นปช. ทำได้มากกว่าที่ทำได้ แต่ที่ไม่ทำ หรือ "เงียบ" ไมใช่เพราะทำไมได้ แต่เพราะมาจากการตัดสินใจของคุณทักษิณที่จะ "เกียร์ว่าง"


เอาตัวอย่างตั้งแต่แรกๆ เลย ผมมีความเห็นมาตลอดตั้งแต่รัฐประหารแล้วว่า คุณยิ่งลักษณ์ และรัฐมนตรีและนักการเมือง เพื่อไทย หลังรัฐประหาร ไม่สมควรไปรายงานตัว ผมไม่คิดเรียกร้องว่า ต้องทำแบบ "พี่อ๋อย" ที่ไม่เพียงไม่ไปรายงานตัว แต่ยังออกมาเขียนท้าทายต่อต้านด้วย


ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ แต่แค่ไม่ต้องไป "รายงานตัว" ทุกคน อยู่บ้านนั่นแหละ ถ้าเขาจะมา "เชิญตัว" (จับ) ก็ให้มาเอง ที่คุณยิ่งลักษณ์ ("ขอตายในสนามประชาธิปไตย") และ รมต. คนอื่นๆ ทยอยเดินหน้าไป "รายงานตัว" เป็นอะไรที่น่าอนาถใจมาก


อันนี้ ไม่ต้องพูดถึงการไปปรากฏตัวของคุณวีระ แรมโบ้ บนเวที คสช. หรือออกมาพูดให้สัมภาษณ์ในลักษณะ หวานๆ ต่อ คสช. (ไหนๆ ก็พูด "เรื่องเก่า" แล้ว ขอพูดไปด้วยนิดว่า ผมไม่เห็นด้วยเลยกับที่คุณ อ. "ยิ้ม" [นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ - มติชนออนไลน์] ออกมาเขียนพยายามดีเฟนด์ที่คุณวีระไปปรากฏตัว อ่านแล้วเซ็งมากๆ ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะต้องไปคอยแก้ตัวทำนองว่า "เราอาจจะไม่รู้ว่า เขาถูกบีบ ยังไง บลา บลา..." ถ้าคนตัวเล็กตัวน้อย ยอมเสี่ยงกันมาก ออกไปประท้วงให้ถูกจับ ถูกดำเนินคดี อย่างน้อยๆ ที่สุด คนอย่างคุณวีระ หรือคนอืนๆ ก็ควรต้องไม่ออกไปยืนสลอน หรือพูดให้สัมภาษณ์หวานๆ กับ คสช. ได้ .. เขาจะบีบบังคับอะไรได้ขนาดนั้น? ...

อะไรคือประเด็นใหญ่ที่สุด หรือเป็น "บทเรียน" สำคัญที่สุด ถ้าจะวิจารณ์ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เพื่อไทย-นปช.-เสื้อแดง จากจุดยืนประชาธิปไตย?


ผมคิดเรื่องนี้มาตลอด 6 เดือน และอยากเสนอว่า ถ้าจะสรุปแบบรวบยอด อาจจะออกมาได้ดังนี้


- ขบวนการการเมืองที่จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยตัวขบวนเอง จะต้องเป็นประชาธิปไตยด้วย


- ขบวนการที่ตัวเองไม่เป็นประชาธิปไตย ต่อสู้ไป อาจจะชนะก็ได้ แต่สิ่งที่ได้มา ไม่ว่าชัยชนะใหญ่ (มีอำนาจเป็นรัฐบาล) หรือดอกผลที่ได้ระหว่างต่อสู้ ก็จะไม่มีลักษณะเป็นประชาธิปไตยเท่าไร


(การสรุปรวบยอดแบบนี้ ความจริง มาจากประเด็นรายละเอียดมหาศาลที่ต้องอภิปรายกัน [เช่น "ประชาธิปไตย" คืออะไร?] แต่ในที่นี้ ผมแค่ต้องการเขียนแบบสั้นๆ เอาไว้)

มีประเด็นหนึ่งที่ผมเห็นเสื้อแดงหลายคนพูดๆกัน ทำนองว่า ยังไงเสียก็เกิดรัฐประหารแน่ เพราะอีกฝ่ายจ้องล้มรัฐบาลอยู่แล้ว ...


อันที่จริง ผมก็เห็นว่า มีคนต้องการล้มรัฐบาลอยู่ตลอด


แต่อันนี้ มันคนละเรื่องกับว่า ล้มได้สำเร็จ คือ การจะล้มได้หรือไม่ได้ มันไม่ใช่ขึ้นอยู่กับมีคนอยากล้มอย่างเดียว คนอยากล้ม ไม่ว่าระดับมวลชน หรือ ... ใหญ่กว่านั้น ... ไม่ใช่อยากได้อะไรแล้วทำให้มันเกิดขึ้นได้โดยอัตโนมัติ


ผมอยากให้ทบทวนดีๆ นะ 2 ปีกว่าที่ยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลน่ะ มีม็อบหรือสถานการณ์ล้มรัฐบาลอันไหน "จุดติด" บ้าง? ไม่ว่าพยายามยังไง ม็อบเสธ.อ้าย 2 ครั้ง ม็อบหน้ากากขาว และอีกสารพัด ไม่มีอันไหนจุดติดเลย ไมมีสถานการณ์ให้ใครจะมาอ้างยึดอำนาจได้เลย


แต่ที่มา "จุดติด" ในที่สุด ก็เพราะความผิดพลาดอย่างมหันต์ของฝ่ายนำของรัฐบาลเอง (ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ และอีกหลายคน)


ผมคิดว่าคนที่พยายามพูดว่า "ยังไง อีกฝ่ายก็จ้องล้มอยู่แล้ว.." ไม่กล้าเผชิญความจริง ที่จะยอมรับว่ามีความผิดพลาดมหันต์ของฝ่ายนำรัฐบาล


อันนี้โยงกับกระทู้ที่ผมพูดถึง "บทเรียน" รวบยอด เรื่อง จะสู้เพื่อประชาธิปไตย ขบวนต้องเป็นประชาธิปไตยด้วย เมื่อเช้า


คือองค์ประกอบอย่างหนึ่งแน่ๆ ของประชาธิปไตย ไม่ว่าในแง่การปกครองประเทศใหญ่ หรือในปริมณฑลที่เล็กลงมา ในระดับพรรคการเมือง หรือ ขบวนการการเมือง


คือการที่ผู้นำทำผิดแล้ว ต้องมี accountability (การเอาผิดได้) คือการที่ ประชาชน มวลชน สมาชิกพรรค กรรมการอื่นๆ ของพรรค มี "อำนาจต่อรอง" สามารถที่จะทำให้ ผู้นำ accountable ต่อความผิดพลาดของตน ที่ไม่ใช่มีผลต่อตัวผู้นำที่ทำผิด แต่ที่สำคัญส่งผลความลำบาก และความเสียหายร้ายแรง ต่อชีวิต อิสรภาพ และสถานะ การเมืองโดยกว้าง ของคนตัวเล็กๆ สมาชิกขบวน ฯลฯ อย่างมหาศาล ไม่ต้องพูดถึงประชาชนทั่วไปอีก

big60 
 24 พฤศจิกายน 2014                                                                                
 พึ่งรู้รึ หมอนั่นมันตัดสินใจเกียร์ว่าง ตั้งแต่มันสั่งถอยไม่ให้สู้โน่นแล้ว ไม่ใช่เกียร์ว่างตอนนี้ ก็บอกแล้วหมอนี่ เป็นพ่อค้าและนักบริหาร ไม่ใช่นักต่อสู้ ถ้าจะสู้มันก็สู้แบบพ่อค้า คือรอเวลารอจังหวะราคาสินค้าขึ้นลง ไม่ได้มองที่แพ้หรือชนะเป็นที่ตั้ง ถ้าลงต้นทุนไปแล้ว ต้องได้กำไรชัวร์ๆมันถึงจะเอา...หมอนี่ ต้องเอาไว้บริหารอย่างเดียว เอามานำในการต่อสู้ ก็แพ้ทั้งปี ไม่ได้โจมตีมันนะ วิจารณ์แบบตรงไปตรงมา ถ้ามันสู้แบบแตกหัก โอกาศชนะสูงสุด มีทั้งพี่ทั้งน้อง สมัยมันมีอำนาจ ถ้าตัดสินใจหักดิบตั้งคนตนเองคุมกำลังทั้งหมด จะเกิดอะไรก็สู้ยิบตาอย่างเดียว โอกาศชนะสูงมากกว่าแพ้...สมัยยิ่งลักษณ์ เมื่อเข้ามาใหม่ กำลังอยู่ในช่วงจังหวะงุนงงของคู่ต่อสู้ และพลังมวลชนของตนเองแข็งแกร่งที่สุด ตัดสินใจหักดิบ เปลี่ยนหัวหน้าคุมกำลังใหม่ทั้งหมด โดยอ้างจากการยึดอำนาจงวดที่แล้ว ไครจะว่ายังไงช่างมัน ไครต่อต้านก็กำจัดออกจากวงจรอำนาจเหมือนที่เขาทำกับเรา...ป่านนี้มันจบไปตั้งนานแล้ว แถมจะได้คนมาเข้าข้างเยอะด้วย คนเขาตามผู้ชนะทั้งนั้นแหละ ไม่มีไครอยากตามผู้แพ้หรอก มันเสี่ยงต่อการถูกกำจัด เมื่อยอมแพ้ มันก็ต้องถูกกำจัดถูกไล่ล่าแบบนี้แหละ ไครเขาจะยอมให้ศรัตรูที่แข็งแกร่งกว่าดำรงค์อยู่ได้ ขืนเขาปล่อยไว้ เขาก็แพ้อีกเท่านั้นแหละ -

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar