söndag 7 maj 2017

มาครง 65.5% เลอเปน 34.5%เป็นไปตามคาดว่า มาครงจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป


 
 มาครง 65.5% เลอเปน 34.5%

นี่คือผลเอ๊กซิสโพลล์ หลังจากปิดหีบเลือกตั้งเมื่อไม่กี่นาทีก่อน (สองทุ่มฝรั่งเศส ตีหนึ่งไทย)​ ความจริงในเมืองส่วนใหญ่ของฝรั่งเศส ปิดหีบเลือกตั้งตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว (หนึ่งทุ่มฝรั่งเศส เที่ยงคืนไทย)​ แต่เมืองใหญ่ๆ เช่นปารีส ปิดช้ากว่าหนึ่งชั่วโมง
เป็นไปตามคาดว่า มาครงจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป
แต่อาจจะไม่เป็นไปตามคาดเล็กน้อย (ถ้าผลนับคะแนนออกมาตามเอ๊กซิสโพลล์นี้)​ คือ เดิมคิดว่ามาครงจะได้ประมาณ 60% เลอเปน 40%
การที่เลอเปนได้คะแนนถึงใกล้ 35% นี้ก็จัดว่าสำคัญไม่น้อย เพราะครั้งสุดท้ายที่พรรคขวาจัดของเธอ (พรรค FN) หลุดเข้ามารอบสอง พ่อของเธอซึ่งเป็นตัวแทนพรรคในขณะนั้น ได้คะแนนเพียง 20% (ชีรัค ผู้สมัครคู่แข่งซึ่งได้เป็นประธานาธิบดี ได้ถึง 80% เพราะใครต่อใครพร้อมใจกันไปโหวตให้เพื่อแสดงการแอนตี้พรรค FN)
นักวิชาการฝ่ายซ้ายบางคนจึงเสนอว่า มาครงชนะคราวนี้ เลอเปนจะชนะในปี 2022 เพราะเชื่อว่า มาครงพอได้เป็นประธานาธิบดีจะล้มเหลว เพราะจะ more of the same คือจะเป็นเหมือนเดิมที่ผ่านมา ไม่ว่าจะในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจในประเทศหรือนโยบายเกี่ยวกับอียู ซึ่งประสบความล้มเหลว จนคนฝรั่งเศสเกิดความเบื่อหน่าย และเกิด “มู้ด”​ ทำนอง “แอนตี้ระบบ”​ (หรือที่คนที่นี่ชอบเรียกกันว่า Antisystème) ขึ้นอย่างกว้างขวาง จนทำให้ รอบสองครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พรรคหลักสองพรรค (พรรครีพับบลิกัน กับพรรคสังคมนิยม) ไม่ผ่านเข้ามารอบสองเลย และแม้แต่มาครงก็นำเสนอตัวเองว่า เป็นพวก “นอกระบบ”​ แต่นักวิชาการฝ่ายซ้ายเสนอว่าเขาจะเป็นเหมือนๆพรรคหลักที่ผ่านมา แล้วก็ล้มเหลวอีก แผ้วทางให้พรรคขวาจัดของเลอเปนชนะในอีก 5 ปีข้างหน้า
ก็ต้องรอดูกันต่อไป ผมเองไม่รู้สึกว่าตัวเองรู้รายละเอียดมากพอจะแสดงความเห็นได้ นี่เพียงแต่เล่าให้ฟัง (และ 5 ปีก็เป็นเวลาที่ยาวนานมากทางการเมือง)
สิ่งหนึ่งที่ไม่มีข้อสงสัยคือเรื่อง “มู้ด”​ ในลักษณะ “ต่อต้านระบบ” ดังกล่าว เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ที่ฝรั่งเศส แต่ในประเทศหลักของตะวันตกส่วนใหญ่ แต่ก็เหมือนกรณีฝรั่งเศสนี้ ดูเหมือนว่า คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึกว่า เมื่อไม่ชอบ “ระบบ”​ ที่เป็นอยู่แล้ว จะหันไปเลือกคนที่มีลักษณะ “แอนตี้ระบบ”​ อย่างเต็มที่ กรณีฝรั่งเศส ผู้สมัครที่ออกมาในลักษณะ "แอนตี้ระบบ" นอกจากเลอเปนเองที่แพ้ในคืนนี้ ก็คือ เมลงชง ก็หลุดในรอบแรกไป แม้ว่าจะมาแรงมากในสัปดาห์หลังๆก่อนการเลือกรอบแรก บางคนอาจจะบอกว่า ในอเมริกา “มู้ด”​ ดังกล่าว “ชนะ”​ ด้วยการที่ทรัมพ์ได้เป็นประธานาธิบดี ซึ่งจริงในแง่ที่ทรัมพ์ชนะ แต่ต้องไม่ลืมว่า เอาเข้าจริง ประชาชนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ได้เลือกเขา คือประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ถึงกับพร้อมจะเอียงไปทางนั้นขนาดนั้น แต่ระบบเลือกตั้งอเมริกัน ทำให้ทรัมพ์ชนะเข้ามาได้

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar