fredag 19 maj 2017

3 ปีถอยโลก : คอลัมน์ ใบตองแห้ง



3 ปีถอยโลก:ใบตองแห้ง

3ปีรัฐประหาร คสช.ไม่ยักแถลงผลงาน ทั้งที่ตัวเลขเศรษฐกิจดี๊ดี อ้าว ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีคนไทยจะมีเงินซื้อกระทะเกาหลีหรือ ถึงแม้ร้านเค้กเมืองตรังต้องปิดกิจการ ไปกว่า 20 แห่ง แต่ผู้ประกอบการก็ไม่โทษรัฐบาลเพราะถือหลักพึ่งตนเอง

รัฐบาลยังโชว์ผลงานลงทะเบียนคนจน ได้ตัวเลขมโหฬาร 14 ล้านเสียง น่ายินดีที่คนแห่มาลงทะเบียน แสดงความเชื่อมั่น ศรัทธา ในรัฐบาล คสช.ว่าจะช่วยแน่ๆ 1,500-3,000 แม้ยืนยันไม่ใช่ประชานิยม เพราะท่านนายกฯ อบรมว่า ผู้มีรายได้น้อยต้องเปลี่ยนตนเอง อย่าเกียจคร้าน รอรัฐบาลช่วยเหลือตลอดเวลา
3 ปีรัฐประหาร คนไทยได้อะไร ได้ความสงบ ได้รัฐบาลที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ดูเหมือนมีประสิทธิภาพกว่ารัฐบาลเลือกตั้ง แถมยังขยัน ทำงานเกือบ 200% (แล้วคุณพยาบาลจะอ้างว่าทำงานหนักคนเดียวได้ไง)

ความสงบแลกมาด้วยการจำกัดเสรีภาพ ไม่สามารถตรวจสอบอำนาจได้ แต่ท่านบอกว่าคนส่วนใหญ่ไม่เดือดร้อนอะไร ขอเวลาอีกไม่นาน คนชั้นกลางก็ท่องเที่ยวถ่ายเซลฟี่ไป มีอะไรไม่พอใจก็พึ่งลูกขุนออนไลน์ ตัดสินคนเลว คนชั่ว ฆ่าหมาฆ่าแมว ขับรถนิสัยไม่ดี จากผ่า GT200 ก็มาผ่ากระทะ (ห้ามผ่าเรือดำน้ำจีนนะ มันแพง)

ใช่ละครับ ก่อนรัฐประหาร ม็อบไล่รัฐบาลยุบสภาแล้วยังปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้ง บ้านเมืองถึงทางตัน เศรษฐกิจพังยับ พอกองทัพยึดอำนาจ คนจำนวนมากก็โล่งอก หวังว่าสงบเสียที จะได้ทำมาหากิน
แต่ 3 ปีผ่านไปเป็นไง อ๊ะอ๊ะ ไม่ได้บอกว่าไม่ดีขึ้น ไม่ใช่ว่าไม่มีฝีมือ ใช่เลย 3 ปีเศรษฐกิจโลกวิกฤต ปีนี้เพิ่งดีขึ้น 3 ปีรัฐบาลนี้ทำดีหลายอย่าง เช่น ทุ่มงบพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐาน ไม่ต้องรอถนนลูกรังหมดก่อน เมื่อพบปัญหาก็ใช้อำนาจแก้ไขฉับไว อย่างการประมง ค้ามนุษย์ ไอเคโอ ฯลฯ ไม่มี ม.44 ทำไม่ได้นะ ดูข่าวเรือประมงจอดตาย ถ้าเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง ประท้วงกันวอดวายไปแล้ว แบบเดียวกับกวาดล้างหาบเร่แผงลอย เหลือไว้แต่สตรีตฟู้ดโชว์ฝรั่ง

รัฐบาลนี้ยังปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ คิดเพื่ออนาคต ไทยแลนด์ 4.0 เศรษฐกิจดิจิทัล ส่งเสริมสตาร์ตอัพ สมาร์ตฟาร์มเมอร์ (ห้ามใส่เสื้อเก่า) สารพัดสตรองเก้อ กระทั่ง “ทักษิณคิด ประยุทธ์ทำ” อย่าง EEC เช่าที่ดิน 99 ปี ก็ยังเอา
แต่นอกจากการส่งออกที่ดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลก การลงทุน ภาคเอกชนก็ยังติดลบ บรรยง พงษ์พานิช เบรก BOI หัวทิ่มว่าที่คุยฟุ้งลงทุนสามปีโต 1.7 ล้านล้าน ความเป็นจริงคือ ลดลงทุกปี ทั้งๆ ที่สถาบันวิจัยป๋วย อึ๊งภากรณ์ ชี้ว่าไทย ลดภาษีล่อใจมากที่สุดในอาเซียน ยอมเสียรายได้ปีละ 2 แสนกว่าล้าน (ซื้อเรือดำน้ำได้ 20 ลำ) ต่างชาติก็ยังไม่อยากลงทุน

แน่ละ ปัจจัยมีหลายอย่าง กฎระเบียบราชการ คุณภาพคน พ่อแม่ส่งลูกเรียนปริญญาไม่ยอมเรียนอาชีวะ ฯลฯ เศรษฐกิจไทย “เทฟล่อนลอก” ไปแล้ว ต้องยกเครื่องพัฒนาศักยภาพครั้งใหญ่

คำถามสำคัญคือ ระบอบที่รัฐธรรมนูญ 2560 และคสช.วางไว้ เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพหรือไม่ และจะมีเสถียรภาพ มั่นคง นำประเทศกลับสู่ภาวะปกติ ที่เอื้อต่อการค้าการลงทุนหรือไม่

ถ้าระบอบนี้เป็นจริงได้ ก็มั่นคงสิครับ มั่นคงอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน จนคุณจะเห็นประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิม อยู่ภายใต้การกระชับอำนาจ ยุทธศาสตร์ชาติ คุมพรรคการเมือง คุมสื่อ คุมความคิดเห็นประชาชน คุมความมั่นคงไซเบอร์ (กระทั่งขู่ปิดเฟซบุ๊ก นี่หรือเศรษฐกิจดิจิทัล 4.0)

นี่ไม่ใช่ประเทศไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนในภูมิภาค จุดเด่นของเรา 30-40 ปี คือเป็นประเทศที่เปิดกว้าง มีเสรีที่สุดในย่านนี้ แต่นี่กำลังสวนทาง ไม่ต้องพูดถึงดิจิทัล 4.0 ยิ่งสวนทางไปใหญ่
การพัฒนาศักยภาพ พัฒนาคน ยกเครื่องการศึกษา ก็แนะนำ ให้อ่านบทความแอนดรูว์ บิ๊กส์ ไดโนเสาร์ 4.0 อยากให้เด็กไทยเก่งเทคโนโลยี ประดิษฐ์หุ่นยนต์ แต่ห้ามตั้งคำถาม ต่ออำนาจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม ให้ท่องอาขยานไหว้กราบผู้ใหญ่ แล้วบอกให้คิดเป็น
ภูมิปัญญาไทยติดกับมานานเพราะความคิดจารีตตีกรอบ ครอบงำ 3 ปีที่ผ่านมายิ่งปิดกั้น แล้วจะพัฒนาศักยภาพการแข่งขันอย่างไร

รัฐประหาร 3 ปี ไม่ใช่ไม่มีฝีมือ ไม่ใช่ไม่ขยัน โถ อุตสาหะ ทำดี 200% แต่ปัญหาเป็นเพราะ “อุดมคติ” ของการรัฐประหารต่างหาก ที่พยายามจะถอยโลก หมุนโลกกลับ ทั้งที่โลกเปลี่ยนไปแล้ว แต่ยังอยากดึงรั้งควบคุมไว้

สุดท้ายระวังติดกับ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ เอาแค่ไปสู่เลือกตั้งก็ยังลำบาก กลัวได้นักการเมืองเลวก็อยู่ต่อ สิครับ แต่นักลงทุนที่เคยดีใจว่ามีรัฐธรรมนูญมีเลือกตั้ง นับวันยิ่งตัดสินใจยาก

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar