söndag 21 maj 2017

ข่าว"เสี่ยจัสติน" ตำรวจขู่ แค่ "ดู" ก็อาจมีความผิด

Image may contain: 1 person, text
Somsak Jeamteerasakul
ตำรวจขู่ แค่ "ดู" ก็อาจมีความผิด หรือ "ทำไม ตร.-ดีอี-กสทช.จึงชอบทำอะไรงี่เง่า ที่ทำไม่ได้ ไม่ได้ผลหรือได้ผลตรงข้าม?"

ตำรวจขู่ แค่ "ดู" ก็อาจมีความผิด
(หรือ "ทำไมตำรวจ-กท.ดีอี-กสทช. จึงคิดหรือชอบทำอะไรงี่เง่าพิเรนทร์ๆ ที่ใครๆก็รู้ว่าทำไม่ได้ ไม่ได้ผล หรือได้ผลตรงข้าม?" - คำตอบอยู่ท้ายกระทู้)
หน้าหนึ่ง Bangkok Post วันนี้ มีสัมภาษณ์ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรื่องมาตรการจัดการกับเว็บหมิ่นฯ อ่านรายงานในภาษาอังกฤษที่นี่ https://goo.gl/Q5kvyf
ข้างล่างนี้ ผมแปลสรุปให้ฟังเป็นภาษาไทย
....................
คุณฐิติราช กล่าวว่า เว็บหมิ่นฯเกี่ยวข้องกับคน 3 พวก (1) ผู้ผลิตเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย (2) คนดูที่เขียนคอมเม้นท์, แชร์ หรือคลิ้ก ไลค์ (3) คนที่ดูโดยไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ
คนกลุ่มที่ 2 และ 3 ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทย
คุณฐิติราชกล่าวว่า ตำรวจได้ดำเนินมาตรการทางกฎหมายกับคนที่แชร์เนื้อหาที่ผิดกฎหมาย
[ผมขอเพิ่มเติมเองในที่นี้ว่า คุณฐิติราช "ตู่" เอาคน "ไลค์" เข้าไปรวมกับคนที่แชร์หรือคอมเม้นท์ด้วย เป็น "กลุ่มที่ 2" ราวกับว่าการไลค์มีผลเท่ากับการคอมเม้นท์หรือการแชร์ แต่จนบัดนี้ ยังไม่มีกฎหมายใดสามารถเอาผิดคน "ไลค์" ได้ - สศจ.]
ตอนนี้ ได้เวลาที่ตำรวจจะดำเนินการกับคนกลุ่มที่ 3
"คนกลุ่มที่ 3 เพียงแต่ตามดู พวกเขาไม่ได้เขียนคอมเม้นท์ ขณะนี้ตำรวจกำลังหาเครื่องมือที่จะบอกได้ว่าคนกลุ่มที่เพียงแต่ดูนี้เป็นใคร และจะสอบสวนว่า ทำไมพวกเขาจึงชอบดู" ฐิติราชกล่าว
"ดูเนื้อหาที่หมิ่นฯ อาจจะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดได้"
อย่างไรก็ตาม ฐิติราชกล่าวว่า ในตอนแรก ตำรวจจะไม่ดำเนินการทางกฎหมายกับคนกลุ่มที่เพียงแต่ดูนี้
ตำรวจจะเข้าหาพวกเขา พูดคุยด้วย และตักเตือนพวกเขาก่อน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่คนที่เพียงแต่ดูทุกคนจะได้รับการเตือนก่อน ตำรวจจะสกรีนดูว่า ใครบ้างที่มีความเป็นไปได้ที่จะกระทำผิดกฎหมาย การดำเนินการจะพิจารณาเป็นรายๆไปโดยเอาข้อมูลที่ได้จากการสืบสวนมาพิจารณาประกอบ
[ขออนุญาตเพิ่มเติมความเห็นผมเองนิด : โห นี่ยิ่งกว่าหนัง "ไมเนอริตี้ รีพอร์ต" ของสปีลเบิร์ก-ทอม ครูซ์ อีกแฮะ แค่คนดูเฉยๆ ตำรวจจะบอกล่วงหน้าได้แล้วว่า ใครบ้างจะทำผิดในอนาคต ถ้าไม่เก่งเกินมนุษย์ก็บ้า - สศจ.]
"เราต้องสกรีนพวกเขา (คนกลุ่มที่ 3 ที่ดูเฉยๆ) และหาทางดำเนินการเพื่อประกันไม่ให้พวกเขาเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มที่ 2" ฐิติราชกล่าว
....................
ทำไมตำรวจ-กท.ดีอี-กสทช จึงคิดหรือชอบทำอะไรงี่เง่าพิเรนทร์ๆ ที่ใครๆก็รู้ว่าทำไม่ได้ ไม่ได้ผล หรือได้ผลตรงข้าม?
ตั้งแต่ออกคำสั่ง "แบน" ผม, อ. Pavin Chachavalpongpun และคุณ Andrew MacGregor Marshall โดย กท.ดีอี ที่มั่วอ้าง "คำสั่งศาล" ที่ไม่มีจริง (และมีไม่ได้ทางกฎหมาย) ไปจนถึงขอให้เฟซบุ๊ค บล็อก กระทู้บางอันของผม (https://goo.gl/HHAxjf) ไปถึงการ "ขู่" เฟซบุ๊คว่า จะฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายภายในวันนั้นวันนี้ จนทำให้สิ่งที่ไม่ต้องการให้ดู "โก โกลโบล" คือฉาวโฉ่ไปทั่วโลก (ดูกระทู้นี้ https://goo.gl/cqIVjs และกระทู้นี้ https://goo.gl/uS073L)
แน่นอน ผมไม่ลืมว่า ตำรวจยังได้ใช้มาตรการ "เชือดไก่ให้ลิงดู" จับคนแชร์กระทู้ผมไป 4 คน ซึ่งแม้จะเป็นมาตรการสิ้นคิด แต่มีผลเดือดร้อนต่อพวกเขา (https://goo.gl/n3SQ8b)
เหตุผลของมาตรการและการแสดงออกชนิดอับจนปัญญาของทางการเหล่านี้ ก็เพราะ ตำรวจ-กสทช-กท.ดีอี กลัว "เสี่ยจัสติน" (จัสตินคนนั้นแหละครับ) เพราะรู้ดีในความอารมณ์ร้อน ทำอะไรไม่มีเหตุผลของ "เสี่ยจัสติน" ที่ลงโกรธแล้ว (หรือลงอยากได้อะไร) ก็ต้องเอาให้ได้ดังใจ และใครทำให้ขัดใจ หรือไม่ถูกใจ มีสิทธิ์พลอยโดนเล่นงานได้ง่ายๆ โดยเฉพาะพวกตำรวจกลัวจะถูก "จุมพล" หรือถ้าแย่หน่อย อาจถึงขั้น "หยอง-ปรากรม-พิสิฐศักดิ์" ก็ได้
นึกแล้วก็ชวนเศร้าเหมือนกันว่า ไม่มีใครกล้าไปเตือน "จัสติน" (อย่างว่า เขาเป็นเจ้าพ่อมาเฟียขนาดนั้น) ว่า ในโลกสมัยใหม่นั้น การปิดกั้นข่าวสาร (โดยเฉพาะมันเป็นเรื่องจริง การตัวพิลึกๆของเขาเอง) มันทำไม่ได้ มีแต่จะส่งผลย้อนกลับ (counter-productive)
....................
ปล. ผมเห็นเรื่องที่ "จัสติน" พยายามทำตัวน่ารัก ส่งข้อความหวานซึ้งถึงนักแต่งเพลงคนนั้นอยู่ครับ อันที่จริง เห็นตั้งแต่วันแรกที่นักแต่งเพลงโพสต์กระทู้ ก่อนที่ "จัสติน" จะ "ตอบ" แล้ว - เรื่องทั้งหมด ผมดูอย่างรู้สึกกึ่งขำ กึ่งสมเพช นึกร่างๆกระทู้ไว้ในใจ ไม่แน่ใจจะขยันเขียนออกมาไหม ตั้งชื่อทำนองว่า A Tale of Two Desperate Men หรือ "นิทาน/เรื่องราวของชายผู้อับจนสองคน" - คนหนึ่ง ด้วยความอ่อนแอทางจิตใจ desperate ที่จะหาอะไรยึดเหนี่ยวให้ได้ ผ่านไป 7 เดือน จึงค่อยเจอจุดเล็กๆ รีบคว้ามาเขียนเป็นเรื่องใหญ่โต อีกคน รู้ตัวว่าไม่มีใครชอบ (โดยเฉพาะไม่มีใครชอบแบบพ่อ) desperate ที่จะหาความนิยมให้ได้ ก็รีบส่งสาส์นหวานซึ้งมาขอบใจคนแรก .... ออกจะเลี่ยนๆหน่อยเรื่องนี้

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar