ในหลวงวชิราลงกรณ์
("พระบรมฯ") กับประชาธิปไตย http://goo.gl/QokA2m
ในหลวงวชิราลงกรณ์ ("พระบรมฯ") กับประชาธิปไตย
แก่นหรือหัวใจของประชาธิปไตยคือ ประชาชน (สาธารณะ, สังคม) สามารถควบคุม ตรวจสอบ เอาผิด วิพากษ์วิจารณ์ และกำหนดทิศทางของรัฐและบุคคลากรผู้มีอำนาจรัฐได้
ปัญหาอำนาจทางการเมือง-กฎหมาย และทางวัฒนธรรม ของสถาบันกษัตริย์เป็นปัญหาใจกลางของประชาธิปไตยไทยมาโดยตลอด ก็เพราะอำนาจทุกด้านดังกล่าว เป็นสุดยอดสมบูรณ์ ของการ #ไม่สามารถ ควบคุม ตรวจสอบ เอาผิด วิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณะได้เลย
องค์กรอำนาจรัฐส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ ศาล องค์กรอิสระ ข้าราชการประจำ ฯลฯ ที่มีอำนาจที่ไม่สามารถตรวจสอบ ควบคุม เอาผิด วิพากษ์วิจารณ์ได้ ล้วนแต่อิงหรือขึ้นต่อ การมีสถานะที่ไม่สามารถตรวจสอบ ควบคุม เอาผิด วิพากษ์วิจารณ์ของสถาบันกษัตริย์ทั้งสิ้น
อันที่จริง แม้แต่นักการเมือง ก็ได้ประโยชน์จากสถานะควบคุม ตรวจสอบ เอาผิดไม่ได้ของสถาบันกษัตริย์ดังกล่าว
ประเด็นที่ "คนรักเจ้า-เกลียดนักการเมือง" ไม่เคยเข้าใจเลยคือ ถ้าไม่สามารถตรวจสอบ ควบคุม เอาผิด สถาบันกษัตริย์และส่วนอื่นๆของอำนาจรัฐที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯได้ ก็ไม่มีทางจะตรวจสอบ ควบคุม เอาผิด นักการเมืองได้เช่นกัน เพราะประชาชนที่สนับสนุนนักการเมืองไม่มีวันยอมให้มีการเอาผิด ตรวจสอบ ควบคุม ฝ่ายเดียว
(แม้แต่ข้ออ้างเรื่อง "กษัตริย์ทำงานหนัก" และ "ความจงรักภักดีของประชาชน" ถ้าไม่ผ่านให้มีการตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์แบบเดียวกับที่ทำได้กับนักการเมือง แต่ใช้วิธีโปรแกรมฝังหัวทั้งทางระบบการศึกษาและทางสังคมวงกว้างอื่นๆ ก็ไม่มีทางจะอ้างได้ว่า เป็นข้ออ้างที่ชอบธรรมและสามารถทำให้ได้รับการยอมรับโดยแท้จริงทั้งสังคมได้)
วิกฤติไทยสิบปีที่ผ่านมา รวมศูนย์ใจกลางอยู่ที่ปัญหานี้
พูดแบบง่ายๆคือ คุณไม่มีทางเอาผิดชินวัตรโดยปกติสงบสุขได้ ถ้าคุณไม่ยอมให้มีการเอาผิดสถาบันกษัตริย์และกองทัพ ฯลฯ การพยายามดันทุรังเอาผิดฝ่ายเดียว ยกสถานะฝ่ายเดียวให้อยู่นอกเหนือการควบคุมตรวจสอบเอาผิด ("สองมาตรฐาน") ก็นำไปสู่ทางตัน ความไม่สงบสุขอย่างยืดเยื้อที่เห็นกัน
ทีนี้ มาถึงกรณีพระบรมฯหรือ "ในหลวงวชิราลงกรณ์" กษัตริย์องค์ใหม่
มีแนวโน้มหรือสัญญาณอะไรที่ส่อให้เห็นว่ากษัตริย์องค์ใหม่จะเปลี่ยนแปลงสถานะของสถาบันฯ ให้ไปในทางที่ตรวจสอบ ควบคุม เอาผิด วิพากษ์วิจารณ์ได้?
ที่ผ่านมา ต้องเรียกว่าเป็นศูนย์เลย หรือติดลบด้วยซ้ำ
เอาง่ายๆ พระบรมฯมีแนวโน้มจะเปิดให้มีการควบคุมตรวจสอบเอาผิด วิพากษ์วิจารณ์ การใช้จ่ายเงินสาธารณะจำนวนมหาศาลเพื่อซัพพอร์ตหรือสนับสนุน "ไลฟ์สไตล์" ของพระองค์ในหลายปีที่ผ่านมาหรือ? หรือให้ตรวจสอบกรณีการกวาดล้างบุคคลใกล้ชิดเช่นกรณีหมอหยอง (ที่มีคนตาย 3 ศพในระหว่างการคุมตัว) หรือ? ที่ยกมานี้เป็นเพียงตัวอย่างรูปธรรม"เล็กๆ" ความจริง ยิ่งถ้าพูดไปให้ไกลถึงเรื่องสำนักงานทรัพย์สิน เรื่องกฎหมาย 112 เรื่องการยกเลิกการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับสถาบันฯ (ต่อพระราชบิดาที่สิ้นพระชนม์ ซึ่งพระองค์ได้ประโยชน์ และต่อพระองค์เองโดยตรงด้วย) ที่ทำอย่างระดับซึมลึกถึงอนุบาล ฯลฯ ยิ่งไม่มีวี่แววเลยแม้แต่น้อย (ติดลบด้วยซ้ำเช่นกัน)
กระแส "เชียร์พระบรมฯ" ที่เกิดขึ้นในหมู่คนที่คิดว่ากำลังต้องการต่อสู้เพื่อ "ประชาธิปไตย" จึงเป็นอะไรที่ถ้าไม่ชวนให้เศร้า ก็ชวนให้ตลก และเป็นเพียงภาพสะท้อนว่า ความเข้าใจเรื่อง อะไรคือ ประชาธิปไตย ของพวกเขา มีข้อจำกัดอย่างมาก
Somsak Jeamteerasakul added 7 new photos.
ย้อนรอยวิกฤติ: วันนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ....
(และปัญหา "สองมาตรฐานอย่างถึงราก" ของการเมืองไทย)
23 ธันวาคม 2556 ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ได้เริ่มแสดงความสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ กปปส ด้วยการโพสต์อินสตาแกรม ภาพพระองค์เองประดับพระเกศาด้วยสายรัดลายธงชาติ สัญญลักษณ์ของ กปปส เล่นกู่เจิ้งและยืนหน้าต้นคริสต์มาส ตอนนั้น หลายคนก็ยังไม่แน่ใจว่าจะใช่เป็นการแสดงความสนับสนุน กปปส หรือไม่ (เพราะพระองค์ไม่ได้บรรยายอะไร) - ดูกระทู้ของผมที่พูดถึงเรื่องนี้ในวันนั้น ที่นี่ https://goo.gl/mmPEfs
อีก 5 วันต่อมา (28 ธันวาคม 2556) ทรงโพสต์ภาพอินสตาแกรมอีก ขณะกำลังช่วยผ่าตัตหมา โดยมีสายรัดข้อมือสีธงชาติ - ดูกระทู้ของผมที่พูดถึงเรื่องนี้ ที่นี่ https://goo.gl/DlWTPT
อีก 6 วันต่อมา วันที่ 3 มกราคม 2557 พวงหรีดพระราชทานของพระองค์ไปปรากฏในงานศพของคุณวสุ สุฉันทบุตร การ์ด คปท-กปปส ที่เสียชีวิตที่ดินแดง - ดูกระทู้ของผมที่พูดถึงเรื่องนี้ ที่นี่ https://goo.gl/bjPWvB
12 มกราคม 2557 ถึงจุดนี้ ถ้าใครยังมีข้อสงสัยอีกว่า ภาพตอนคริสต์มาสหรือภาพผ่าตัดหมาเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่มีความหมายอะไร คือพระองค์อาจจะไม่ได้กำลังแสดงการสนับสนุน กปปส ต่อสาธารณะโดยเปิดเผย ก็ไม่มีข้อสงสัยแล้ว เพราะพระองค์ได้โพสต์ภาพอินสตาแกรมที่ทรงใส่สายรัดผมลายธงชาติพร้อมข้อความว่า "พี่คงถูกข้อหากบฏด้วยมังคะ เพราะเอาเปียสีธงชาติมาติดผม แต่ช่วยไม่ได้ ก็พี่รักชาติเท่าชีวิตนี่คะ" - ดูกระทู้ของผมที่พูดเรื่องนี้ ที่นี่ https://goo.gl/bglNoa (เว็บไซต์ "แนวหน้า" ได้ลงข่าวเรื่องนี้ แต่ได้ลบออกไปในไม่กี่ชั่วโมง - ดูกระทู้ผมที่พูดถึงเรื่องนี้ ที่นี่ https://goo.gl/3b7Ptq )
วันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันก่อนที่ กปปส จะปฏิบัติการ "แบ๊งคอก ชัตดาวน์" (เวลาที่ทรงโพสต์คือ ตี 2 เศษของคืนวันที่ 12 หรือจริงๆเป็นวันที่ 13 มกราคม คือวันเริ่มต้น "ชัตดาวน์" ของ กปปส ก่อนการ "ชัตดาวน์" ไม่กี่ชั่วโมง) ทรงโพสต์ภาพข้อพระกรของพระองค์ที่ทรงสวมสายรัดข้อมือลายธงชาติ - ดูกระทู้ของผมที่นี่ https://goo.gl/YzjlNO
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา วันที่ 20 มกราคม 2557 ทรงโพสต์ภาพหมาใส่เฝือกลายธงชาติ - ดูกระทู้ของผมเรื่องนี้ที่นี่ https://goo.gl/oLBbSw
ไม่มีปัญหาเลยว่า ทรงเป็น "ฟ้าหญิง ของ กปปส" (หรือที่ "ผู้จัดการรายสัปดาห์" ฉบับวันที่ 25 มกราคม 2557 ได้ขึ้นหน้าปกว่า "ฟ้าหญิง ของ มวลมหาประชาชน" - ดูที่นี่ http://goo.gl/E88WwI ) โดยแท้จริง
...............
ปัญหาพื้นฐานที่สุดของการเมืองไทย โดยเฉพาะช่วงวิกฤติ 10 ปีที่ผ่านมา คือลักษณะ "สองมาตรฐาน" อย่างถึงราก คือการที่คนกลุ่มหนึ่งมีอภิสิทธิ์พิเศษ ไม่สามารถได้รับการตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์ หรือเอาผิด (accountability) ได้ ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับการเมืองและเรื่องสาธารณะอย่างไร กรณี "ฟ้าหญิง ของ กปปส" ความจริงเป็นเพียงการแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมอันหนึ่งของระบบ "สองมาตรฐาน" ที่ว่านี้ ซึ่งไล่เรียงขึ้นไปถึงระดับสูงสุด ที่พระมหากษัตริย์ลงนามรับรองรัฐประหารอย่างผิดรัฐธรรมนูญ โดยไม่สามารถถูกวิพากษ์ตรวจสอบหรือเอาผิดได้ ....
(ใครอยากคิดถึงรูปธรรมง่ายๆล่าสุดเกี่ยวกับเรื่่อง "สองมาตรฐาน" ที่ว่านี้ ดูกรณีสุชาติ สวัสดิ์ศรี วิจารณ์ "ชุดไทยตุ๊กตุ๊ก" แล้วมีคนออกมาโต้แย้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติในเมื่อสุชาติออกมาแสดงความเห็น วันนี้ "ไทยรัฐ" ถึงกับพาดหัวว่า "ศิลปินแกว่งปาก..." - ลองคิดว่า ในกรณี "ฟ้าหญิง ของ กปปส" ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกัน ควรจะ "พาดหัว" อย่างไร สำหรับคนที่ไม่เห็นด้วย?)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar