fredag 15 februari 2013

"หน่วยสืบราชการลับ (กอ.รมน.)" จากบทความข้างล่างนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ทหารเอาเงินงบประมาณลับที่มาจากภาษีประชาชน ไปใช้เพื่อรักษาระบอบศักดินาที่เน่าเฟะเอาไว้เท่านั้นไม่ใช่เพื่อความมั่นคงของชาติ โดยการกล่าวหาประชาชนที่รักชาติและรักประชาธิปไตยว่าเป็น "ขบวนการล้มเจ้า" ซึ่งความเป็นจริงแล้ว "เจ้า" คือตัวปัญหาที่ทำให้ประเทศชาติและประชาชนเดือดร้อนอยู่ในเวลานี้!

         มาดูซิทหารไทยยามว่าง ทำอะไรกันเอ่ย


          By   Dr Franken  Stein
อ้างอิง:การจัดโผทหารปีนี้ น่าจะเป็นไปด้วยดีแบบพี่ๆ น้องๆ เพราะสัมพันธ์ของกองทัพกับ รมว.กลาโหม และกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะอยู่ในขั้นดีมาก ไม่ปรากฏความขัดแย้งที่รุนแรง

แต่สิ่งหนึ่งที่ ผบ.เหล่าทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.ธนะศักดิ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ "ทหารเสือฯ" ยังคงเคลือบแคลงอยู่บ้าง คือ ความทุ่มเทในการสกัดกั้นขบวนการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ โดยเฉพาะเว็บไซต์ต่างๆ และแม้แต่ความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และกลุ่มนิติราษฎร์ เอง

ภารกิจอีกอย่างที่ทหารทำอย่างเงียบๆ คือการตามล่าหาเว็บไซต์ที่หมิ่นสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นภารกิจที่ทำต่อเนื่องตั้งแต่หลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ในนาม ฉก.6080 "หน่วยเฉพาะกิจ 6080"

แต่มาตอนนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานของศูนย์ประสานการปฏิบัติ หมายเลข 6 (ศปป.6) ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)


โดยมีการแบ่งงานให้หน่วยทหารต่างๆ ไปเกาะติดความเคลื่อนไหวของกลุ่มล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ที่ทำให้เกิด "นักรบไซเบอร์" ที่แต่ละวันจะมีทหารนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ ท่องไปในโลกอินเตอร์เน็ต ตามล่าหาเว็บไซต์หมิ่นกษัตริย์

ก่อนที่จะรายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ. เพื่อที่จะแจ้งกระทรวงไอซีที เพื่อให้ทำการปิดเว็บไซต์นั้น

แต่นับวันเว็บไซต์เหล่านี้มีมากขึ้นๆ และแฝงมาในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการจดทะเบียนในต่างประเทศทำให้ไม่สามารถสั่งปิดได้ในประเทศ

ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ควรจะเป็นภารกิจของตำรวจ และกระทรวงไอซีที แต่กองทัพ กลับต้องมาช่วยทำหน้าที่นี้ เพราะเป็นหน้าที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปฏิวัติ อีกทั้งโดยอำนาจครอบจักรวาลของ กอ.รมน. แล้ว ก็สามารถที่จะเข้ามาดูแล โดยให้เป็นเรื่องที่กระทบต่อความมั่นคง

ที่สำคัญคือ ไม่มั่นใจว่า ตำรวจจะดำเนินการอย่างจริงจัง ยิ่งเมื่อตำรวจถูกมองว่าเป็น "มะเขือเทศ" แล้วกระทรวงไอซีทีก็เป็นคนของรัฐบาล

ต้องยอมรับประการหนึ่งว่า กองทัพยังคาใจ ขบวนการล้มล้างเจ้า ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาล พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง เรื่อยมาตั้งแต่ก่อนการรัฐประหาร 19 กันยายน เพราะอย่าลืมว่า เรื่องนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่คณะปฏิวัติใช้เป็นเหตุผลในการยึดอำนาจ

กองทัพจึงต้องมาทำหน้าที่ตามจับขบวนการล้มเจ้า ด้วยตนเอง ในฐานะที่เป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีหน้าที่ในการปกป้องสถาบัน

การกวาดล้างขบวนการล้มเจ้า ไม่ใช่แค่การทำสงครามในโลกไซเบอร์ ตามล่าหาเว็บไซต์หมิ่น แต่ยังรวมถึงการสืบค้นว่า ใครที่เกี่ยวข้องและอยู่เบื้องหลังบ้าง รวมถึงการเกาะติดพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยแบบเงียบๆ ด้วย

ทั้ง ทบ. ทร. และ ทอ. ต่างเปิดสายตรงและช่องทาง ในการให้ประชาชนแจงเบาะแสของเว็บไซต์หมื่นสถาบัน ในแคมเปญ Protect our King มานานหลายปี แต่ ทบ. จะเป็นหน่วยหลัก เพราะเป็นเหล่าทัพใหญ่ และโดยบทบาทในทางการเมือง

แต่ดูเหมือนกองทัพจะไม่ค่อยพอใจ การทำงานที่ล่าช้าของตำรวจ และไอซีที ในการสั่งปิดเว็บไซต์ต่างๆ ที่กองทัพแจ้งไป โดยอ้างเรื่องการจดทะเบียนในต่างประเทศ

"มันไม่ใช่เหตุผลที่ปิดไม่อยู่ เพราะทีเว็บโป๊ ปิดง่ายๆ แต่บางเว็บแจ้งไปกี่ครั้ง ก็กลับปิดไม่ได้ ปิดไม่อยู่ ยังเปิดดูได้ตลอด" นักรบไซเบอร์ ทบ. ระบุ

ที่ ทบ. กำลังจับตามองคือ เว็บไซต์ที่ใช้ชื่อว่า "หลังบ้านท่านเจ้าของคอกม้า" ซึ่งแม้จะแจ้งกระทรวงไอซีทีให้ปิดไปแล้ว แต่ก็ยังเปิดดูกันได้ แถมมียอดเข้าชมสูงตอนหนึ่ง หลายหมื่นครั้ง บางตอนก็เป็นหลักแสนครั้ง

ทั้งๆ ที่มีเนื้อหาที่หมิ่นสถาบันอย่างรุนแรง แม้จะใช้การเล่าเปรียบเทียบ แต่คนทั่วไปย่อมรู้ดีว่า หมายถึงใคร ทั้ง "คุณลุงสมชาย" "ป้าสมจิตร" "เสี่ยอู" และ "เปรมมิกา" อีกทั้งเสียงชายผู้เล่าตำนานก็พยายามให้ฟังคล้ายเสียงคนสำคัญของประเทศ และใช้ชื่อ "หลวงไพเราะ วิเคราะห์ราชการ และ ขุนชำนาญวิจารณ์ราชกิจ"

โดยพยายามโยงกับเบื้องหลังการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณ จนถึงการปราบปรามคนเสื้อแดง ในรายละเอียดในแต่ละเหตุการณ์ ที่คนทั่วไปอาจไม่เคยรู้

รูปแบบที่เล่าเรื่องคล้ายนิทาน มีเนื้อหายาวนานถึง 8 ตอน ตอนหนึ่งยาวนาน 1-2 ชั่วโมง มีชื่อฝ่ายอำมาตย์ที่เกี่ยวข้องมากมาย ทั้งชื่อล้อเลียน หรือเลียนเสียง ทั้ง "อภิเสก" และ "รักษิณ" "อนุพันธ์" และ "ปรายุทธ์" และโยงกับเรื่องเล่าต่างๆ พาดพิง ลุงสมชาย และป้าสมจิตร ที่แม้แต่นักรบไซเบอร์เองยังระบุว่า ถ้าฟังมากๆ ก็จะคล้อยตาม และเชื่อตามนั้น

แค่ชื่อ "หลังบ้านท่านเจ้าของคอกม้า" ก็เป็นความพยายามในการโยงสะท้อนกับคำพูดก่อนการปฏิวัติ ของ ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่เคยสวมเครื่องแบบทหาร เดินสายไปสามเหล่าทัพ ปลุกสำนึกทหาร เปรียบทหารเป็นม้า แต่ไม่ได้เป็นของ "จ๊อกกี้" ซึ่งหมายถึงรัฐบาล แต่เป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์จอมทัพไทย

ข้อมูลวงในของนักรบไซเบอร์ ทบ. ระบุว่า เกี่ยวโยงกับคนสำคัญในหมู่คนเสื้อแดง และไม่พอใจกับการสกัดกั้นเว็บของกระทรวงไอซีที ประหนึ่งว่า ไม่มีความจริงใจในการสั่งปิด

พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ. ซึ่งเป็น "ทหารเสือราชินี" และใกล้ชิดสถาบัน จึงมักจะบ่นเรื่องนี้ในที่ประชุมเสมอ และเคยเอ่ยปากกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้ช่วยเร่งดูแลเรื่องเหล่านี้ มาแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ

พล.อ.ประยุทธ์ ถึงขั้นต้องสั่งให้ลูกน้องที่ใกล้ชิดและวางใจได้ ทำงานลับในการเกาะติด ความเคลื่อนไหวของขบวนการล้มเจ้า และเว็บไซต์ต่างๆ อยู่ตลอด เพราะบ่อยครั้งที่เขาก็ได้รับแจ้งจากแกนนำอำมาตย์และคนใกล้ชิดสถาบัน ที่ฝากให้ช่วยดูแลและกระตุ้นรัฐบาล

แต่เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงทำให้กองทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกที่จะทำเองแบบลับๆ และเงียบๆ ด้วยตัวเองและทีมงานส่วนตัว ที่เชื่อกันว่าอีกไม่นาน จะมีการเปิดข้อมูลเด็ดๆ ออกมา ด้วยเพราะมีความเชื่อกันว่า ขบวนการล้มเจ้า นั้นมีอยู่จริง

โปรดติดตามตอนต่อไป ด้วยใจระทึกพลัน...

http://www.matichon.co.th/news_detail.ph...catid=0100

ทางทหารคงมีงบมากจนสามารถตั้งหน่วยงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นเลยหรอเนี้ย ปีนี้น่าจะตัดออกอีกซัก 30% ก็น่าจะดีกับประชาชน

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar