Sa-nguan Khumrungroj
8 มีนาคม วันสตรีสากล
ขอคารวะท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์
สตรี ผู้ประกาศว่า “ไม่ขอรับเกียรติยศใด ๆ ทั้งสิ้น"
ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์
ชื่อเดิม พูนศุข ณ ป้อมเพชร์ เป็นบุตรคนที่ ๓ ของคุณหญิงเพ็ง (สุวรรณศร)
และพระยาชัยวิชิตวิศิษฏ์ธรรมธาดา (ขำ ณ ป้อมเพชร์)
ซึ่งเวลานั้นดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองสมุทรปราการ เกิดเมื่อวันที่ ๒ มกราคม
พ.ศ. ๒๔๕๕
ท่านผู้หญิงพูนศุข
พนมยงค์ เป็นลูกพระยา เกิดในตระกูลชนชั้นสูงในสังคม แต่งงานกับนายปรีดี
พนมยงค์ ซึ่งเป็นลูกชาวนา
ดอกเตอร์หนุ่มจากฝรั่งเศสซึ่งภายหลังกลายมาเป็นผู้ก่อการอภิวัฒน์ ๒๔๗๕
เป็นภรรยารัฐมนตรี ภรรยาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ภรรยานายกรัฐมนตรี
เป็นท่านผู้หญิงอายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง ๒๘ ปี
สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็ได้เข้าร่วมขบวนการเสรีไทย ต่อสู้ลับ ๆ
กับกองทัพญี่ปุ่น ช่วยให้ประเทศไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของมหาอำนาจ
แต่ภายหลังสามีถูกใส่ร้ายว่ามีส่วนพัวพันในกรณีสวรรคตรัชกาลที่ ๘
ถูกทหารยิงปืนกลกราดเข้ามาในบ้านเมื่อเกิดรัฐประหาร ๒๔๙๐
ต่อมาก็ต้องถูกจองจำในข้อหากบฏ ลูกชายถูกจับติดคุก
จนกระทั่งต้องหนีตามสามีลี้ภัยไปอยู่ต่างแดนด้วยความขมขื่นใจ
สุดท้ายกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายในเมืองไทยด้วยความสงบและได้ให้อภัยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอดีต
ดำรงตนเป็นแบบอย่างให้แก่ชนรุ่นหลังได้กราบไหว้ด้วยความสนิทใจ
ตอนอายุ
๙๐ ปี ท่านผู้หญิงพูนศุข ได้เขียนบันทึกไว้ว่า
“ข้าพเจ้าทบทวนเหตุการณ์หนหลังด้วยใจอันสงบ
มิได้โกรธแค้นหรือคิดอาฆาตมาดร้ายต่อผู้ใด ขณะเดียวกัน
รำลึกถึงทุกท่านที่เสี่ยงภยันตรายช่วยเหลือนายปรีดีให้พ้นภัยในครั้งกระนั้นด้วยความขอบคุณ”
วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๐ พูนศุข พนมยงค์ มีอาการทางโรคหัวใจทรุดหนักลง
กระทั่งถึงแก่อนิจกรรมโดยสงบเมื่อเวลา ๐๒.๐๐ น. (ย่ำรุ่งของวันที่ ๑๒)
ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ขณะอายุได้ ๙๕ ปี ๔ เดือน ๙ วัน
ก่อนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตก็ยังได้สั่งเสียไว้ว่า
“ไม่ขอรับเกียรติยศใด ๆ ทั้งสิ้น”
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar